หัวข้อ: ประวัติ หลวงพ่อเงิน 6. เริ่มหัวข้อโดย: ka1 ที่ ธันวาคม 07, 2009, 12:03:39 AM (http://img6.imageshack.us/img6/1019/79340762.jpg)
ประวัติ หลวงพ่อเงิน 6. มูลเหตุแห่งการสละโลกีย์วิสัย ของหลวงพ่อเงิน (ต่อ) คำกล่าวของท่านเจ้าคุณพุทธรักขิตนี้ นับว่าเป็นคำทำนายที่เป็นคำประกาสิตของท่านซึ่งหลวงพ่อเงินจำได้แม่นยำที่สุด เป็นทั้งคำขวัญที่ส่งเสริมกำลังใจให้ประกอบแต่ความดีตลอดมา คำกล่าวของผู้ใหญ่ที่กล่าวออกมาด้วยน้ำใจเมตตาและปัญญา จึงมีความสำคัญต่อชีวิตของผู้น้อยเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่ายุคสมัยใดหรือบุคคลใด สถานที่ใดก็ดี ประดุจคำพยากรณ์ของพระพุทธองค์ว่าบุคคลใดจะเป็นพระนิตยะโพธิสัตว์ ก็จะได้เป็นพระพุทธเจ้าต่อไปในอนาคต คำของพระพุทธเจ้าเป็นหนึ่งไม่มีสองฉันใด คำของครูอาจารย์ก็ฉันนั้น งานบริหารพระศาสนา งานบริหารกิจการพระศาสนานั้น มองดูภายนอกระดับประเทศก็นับว่าเป็นภาพที่กว้างใหญ่ไพศาล จนมองดูพร่ามัว ไม่รู้ว่าบริหารอะไร งานของคณะสังฆมนตรี หรืองานของมหาเถรสมาคม ก็มองไม่เห็นว่าบริหารกิจการพระศาสนาอย่างไร เพราะเป็นงานระดับสูง มีขอบข่ายกว้างขวางมาก งานระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ก็ยังมองไม่ออกชัดเจนอะไรนัก แต่อันที่จริงงานบริหารกิจการพระศาสนานั้น งานจริงๆ อยู่ระดับวัดนั่นเอง เพราะพระภิกษุสงฆ์อยู่ที่วัด หัวหน้าปกครองพระภิกษุสงฆ์คือสมภารเจ้าวัด วัดนั้นก็มีหมู่กุฎีเป็นหลัง ๆ เปรียบเหมือนบ้านเรือนของพระสงฆ์ กุฎีหลังหนึ่ง มีพระภิกษุอยู่ 2-4 รูป ก็เท่ากับครัวเรือนหนึ่ง ซึ่งลูกชายชาวบ้านมาบวชเรียนอยู่อาศัย วัดหนึ่งจึงเท่ากับหมู่บ้านหนึ่ง เจ้าอาวาสนั้นถ้าจะเปรียบกับการปกครองทางบ้านเมือง ก็เท่ากับเป็นผู้ใหญ่บ้าน ปกครองหมู่บ้าน 10-20 หลังคาเรือน ตำแหน่งรองเจ้าอาวาสของพระอาจารย์เงิน จันทสุวัณโณ จึงเทียบเท่ากับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านของทางการคณะสงฆ์นั่นเอง เมื่อหลวงพ่อฮวยเจ้าอาวาส เป็นพระภิกษุสงฆ์ชราภาพแล้ว การบริหารของวัดดอนยายหอม จึงตกเป็นหน้าที่ของพระอาจารย์เงินเต็มมือ แต่พระอาจารย์เงิน ก็มีความเคารพนอบน้อม ปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อฮวยอยู่ในฐานะเป็นพระอุปัชฌาย์ ด้วยความกตัญญูกตเวที มิได้ดื้อกระด้างอวดดีแข่งดีอะไรเลย เพราะที่จริงใจของพระอาจารย์เงิน ก็ไม่อยากเป็นใหญ่อยู่แล้ว อยากแต่จะทำงานสร้างคุณงามความดี สร้างบารมีเพื่อเอาบุญกุศลตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนาแต่อย่างเดียว เมื่อพระเณรลูกวัดและชาวบ้านประจักษ์อยู่แก่ตาแต่ใจเช่นนี้ จึงไม่มีปัญหาอะไร มีแต่ช่วยกันคือช่วยกันทำ ช่วยกันออกเงินบูรณะปฎิสังขรณ์วัดดอนยายหอมให้เจริญเป็นปึกแผ่นขึ้นตามลำดับ อีก 4 ปีต่อมา คือในปี พ.ศ. 2463 อาจารย์พรหม ด้วงพูล โยมบิดาของพระอาจารย์เงิน ก็ถึงแก่กรรมลง ชาวบ้านลือกันว่า อาจารย์พรหมถูกกระทำทางไสยศาสตร์ เพราะอาจารย์พรหมเป็นอาจารย์ทางไสยศาสตร์อยู่เหมือนกัน หลวงพ่อเงินเล่าว่า โยมบิดาของท่าน ถึงแก่กรรมอย่างปัจจุบัน ไม่ทันได้รักษาพยาบาลแต่อย่างใด ส่วนว่าจะถึงแก่กรรมด้วยโรคอะไร เหตุอะไรก็ไม่มีใครทราบได้ เพราะไม่มีการพิสูจน์กันด้วยวิธีการของแพทย์แผนปัจจุบัน เมื่อโยมบิดาถึงแก่กรรมนี้ หลวงพ่อเงินอายุได้ 30 ปี ครั้นต่อมาอีก 3 ปี ใน พ.ศ.2466 หลวงพ่อฮวย ก็ถึงแก่มรณภาพอีกองค์หนึ่ง เมื่อพระอาจารย์เงิน อายุได้ 33 ปี เป็นอันว่า พระอาจารย์เงินได้สูญเสียที่พึ่ง ที่เคารพนับถือไป 2 คนในเวลาห่างกันเพียง 3 ปีเท่านั้น ครั้นทราบถึงทางการพระสงฆ์แล้ว จึงได้สั่งแต่งตั้งให้พระอาจารย์เงิน จันทสุวัณโณ รองเจ้าอาวาส เป็นเจ้าอาวาสวัดดอนยายหอม เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2466 อายุพระอาจารย์เงินได้ 33 ปี คนทั้งหลายจึงเรียกพระอาจารย์เงินว่า หลวงพ่อเงิน ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ถึงแม้จะมีวัยวุฒิน้อย แต่ตำแหน่งหน้าที่และคุณงามความดี ประชาชนก็ยอมรับนับถือว่า เป็นหลวงพ่อของเขา นับแต่นั้นมา เมื่อได้รับหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสเต็มตัวแล้ว หลวงพ่อเงิน ก็เริ่มงานการก่อสร้างหอสวดมนต์ขึ้นหลังหนึ่ง ยาว 9 เมตร กว้าง 4 เมตร สิ้นเงินค่าก่อสร้าง 40,000 บาท ในสมัยนั้นเงินมีค่ามากถ้าตกปัจจุบันก็ต้องคูณด้วย 100 ก็จะตกประมาณ 4,400,000 บาท แต่ก็มีผู้ศรัทธาบริจาคทรัพย์ทำบุญให้ท่านให้ก่อสร้างจนสำเร็จเรียบร้อยเป็นงานชิ้นแรก ระยะนี้ หลวงพ่อเงิน มีชื่อเสียงดีมาก มีคนเคารพนับถือมาก มีคนขึ้นมาก ทั้งใกล้ไกล สาวและแก่ เป็นมิ่งขวัญของคนตำบลนั้น ถ้าจะพูดให้ตรงก็ต้องพูดว่า เป็นดาวดวงเด่นอยู่ในเวลานั้น ถึงแก่มีคนเป็นห่วงกันมาก กลัวว่าจะมีหญิงสาวคนใดมาชิงเอาหลวงพ่อเงินไปเสีย คนเฒ่าคนแก่ พูดกันทั่วไปว่า "สำคัญอีพวกสีกาหน้าขาว ๆ นั่นแหละมันจะมาทำให้ผ้าเหลืองพระของกูร้อน" มีพ่อเฒ่าคนหนึ่งแกหวงหลวงพ่อเงินนักหนา ถ้ามีสาวคนใดไปพูดจาถึงหลวงพ่อเงินให้แกได้ยินเข้า หรือว่าไปมาหาสู่ผิดปกติ แกจะต้องด่าให้อย่างหยาบคายเจ็บแสบ จนอายแทบว่าต้องแทรกแผ่นดินหนีทีเดียว เขาว่าตาคนนี้แหละแกเป็นหมาเฝ้าหลวงพ่อเงินอยู่ที่วัด อย่างไรก็ดีชื่อเสียงหลวงพ่อเงินก็โด่งดังจริงๆ มีคนไปหาไม่เว้นแต่ละวัน แต่หลวงพ่อเงินก็ประพฤติปฏิบัติตนเหมือนพระลูกวัดธรรมดา ทุกวันทุกเช้าหลวงพ่อเงินก็ออกบิณฑบาตเช่นพระลูกวัด ไม่มีเว้นเลย ได้อาหารดี ๆ มาก็แบ่งปันให้พระลูกวัดฉันเสมอหน้ากันตามมากตามน้อย ได้ลาภทานสักการะอะไรมา ก็ทำบุญสร้างวัด หรือบริจาคให้พระลูกวัดไปฏันใช้สอย ไม่เคยเก็บสะสมไว้เป็นสมบัติส่วนตัวเลย แม้แต่ชิ้นเดียว หลวงพ่อเงินชื่อเงินก็จริง แต่เรื่องเงินแล้วดูจะถือว่าเป็นกาลกิณีแก่ท่าน ท่านไม่เคยแตะต้องเงินเลย ได้มาก็รู้แต่จำนวนเงินเป็นตัวเลข ส่วนตัวเงินอยู่ที่ไวยาวัจกร เอาไปซื้อของเครื่องใช้สำหรับพระลูกวัด สำหรับการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดทุกบาททุกสตางค์ ชื่อเสียงของหลวงพ่อเงิน จึงบริสุทธิ์ผุดผ่อง ส่งกลิ่นฟุ้งขจรขจายไปเหมือนกลิ่นดอกไม้หอมหวลทวนลมไปได้ จนรู้ถึงหูเจ้าคณะจังหวัด ท่านก็ ออกปากชมอยู่เสมอ ใครไปท่านก็พูดถึง ขอให้ดูคุณเงินสมภารวัดดอนยายหอมเป็นแบบอย่าง สมภารเด็ก ๆ แต่เขาทำอะไรมีหลักฐานดีจริงๆ คำยกย่องของเจ้าคณะจังหวัด รู้ถึงหูสมภารวัดอื่น ๆ ทำให้สมภารวัดหลายองค์ เดินทางไปชมวัดดอนยายหอม เมื่อเห็นวัดวาสะอาด เรียบร้อยเป็นระเบียบ เห็นบุคลิกลักษณะของหลวงพ่อเงิน มีสง่าอัธยาศัยดี โอภาปราศรัย พูดจาสุภาพเรียบร้อย พระสงฆ์และชาวบ้านก็พากันทึ่งมาก ในระยะหลังที่อาจารย์พรหม โยมบิดามรณะไปแล้วชาวบ้านที่เคยพึ่งพาอาศัยอาจารย์พรหมอยู่ เมื่อหมดที่พึ่งก็หันมาหาหลวงพ่อเงินแทน เจ็บไข้ได้ป่วยมีทุกข์ร้อนอะไร ก็พากันหันหน้ามาหาหลวงพ่อเงินให้ช่วย โดยถือว่าเป็นพ่อลูกกันมีตำหรับตำราอะไรก็คงจะตกอยู่แก่พระลูกชาย เรื่องนี้ก็กลายเป็นการบังคับทางอ้อมให้หลวงพ่อเงินต้องบำเพ็ญตนเป็นอาจารย์พรหมไปด้วย เมื่อเห็นมีคนทุกข์ร้อนบ่ายหน้ามาให้ช่วย ก็ต้องช่วยเหลือไปเท่าที่จะช่วยได้ สมัยโน้นโรงพยาบาล สถานีอนามัยก็ไม่มี มีก็อยู่ในเมืองห่างไกลหลายกิโลเมตร ไปมาก็ลำบาก ถนนหนทาง รถยนต์ก็ไม่มี ประชาชนจึงต้องพึ่งหมดแผนโบราณ ยาขอ หมอวาน หมอชาวบ้านอยู่ทั่วไป หลวงพ่อเงิน จึงกลายเป็นหมอแผนโบราณ แทนโยมบิดาไปอีกอย่างหนึ่ง ใครป่วยไข้เป็นอะไรก็มาขอน้ำมนต์ให้เสกเป่าให้บ้าง เมื่อได้ผลคนก็ยิ่งนับถือ พากันมาหามากเข้าทุกที หนักเข้าก็กลายเป็นเกจิอาจารย์ ขอให้ท่านทำเสื้อยันตร์ ตะกรุด ลูกอม ขี้ผึ้ง แป้งผัดหน้า น้ำมันมนต์ เสกหมากพูล เสกทราย ซัดบ้านกันขโมยขะโจร แม้กระทั่งชานหมากก็มีคนต้องการ ไม่มีใครรังเกียจ แต่จิตที่ตั้งความปรารถนาไว้ว่า จะบวชอุทิศชีวิตสร้างบารมี ช่วยเหลือมนุษย์ผู้ตกทุกข์ได้ยากนี้แหละ ทำให้หลวงพ่อเงินปฏิเสธไม่ได้ เพราะได้ตั้งใจมาแต่แรกแล้วว่า จะอุทิศชีวิตเป็นพระโพธิสัตว์สร้างบารมี จนกว่าชีวิตจะหาไม่ ทำให้ท่านต้องช่วยคนที่บากหน้ามาหาไม่เลือกหน้า |