หัวข้อ: ประวัติ หลวงพ่อเงิน 7. เริ่มหัวข้อโดย: ka1 ที่ ธันวาคม 07, 2009, 12:06:23 AM (http://img6.imageshack.us/img6/1019/79340762.jpg)
ประวัติ หลวงพ่อเงิน 7. มูลเหตุแห่งการสละโลกีย์วิสัย ของหลวงพ่อเงิน (ต่อ) ก็เป็นธรรมดาของสังคม ย่อมจะมีคนดีคนชั่วปะปนกันอยู่ทั่วไปไม่เลือกกาลสถานที่ บรรดาคนที่มาหาหลวงพ่อเงินจึงย่อมจะมีคนชั่วคนพาลปะปนอยู่ด้วย ลูกศิษย์หลวงพ่อเงิน บางคนก็กลายเป็นอ้ายเสือร้ายไปเมื่อออกพ้นวัดไปแล้ว เช่น เสือชม เสือเชย ผู้ร้ายมีชื่อสมัยนั้นก็เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเงินด้วย จึงทำให้เจ้าเมืองนครปฐม ต้องเดินทางไปหาหลวงพ่อเงิน ครั้งหนึ่งพระองค์เจ้าอาทิตย์-ทิพยอาภา เจ้าเมืองนครปฐม ได้เสด็จไปหาหลวงพ่อเงินถึงวัดดอนยายหอม เพื่อจะไปขอร้องให้เลิกให้เครื่องรางของขลังเสีย แต่เมื่อเจ้านายเชื้อพระวงศืผู้ใหญ่องค์นี้ได้เห็นบุคลิกลักษณะหลวงพ่อเงินเข้า ประกอบกับได้ทรงสนทนาโต้ตอบโอภาปราศรัย แลเห็นอัธยาศัยน้ำใจอันแท้จริงของหลวงพ่อเงิน พระองค์เจ้าอาทิตย์ก็ล้มเลิกความคิดที่จะขอร้อง ได้กลายเป็นแขกประจำของหลวงพ่อเงินไปด้วย ทุกวันอาทิตย์ พระองค์เจ้าอาทิตย์ จะต้องไปหาหลวงพ่อเงิน เป็นแขกประจำ หลังจากนั้นจะอย่างไรไม่ทราบชัด เจ้าคณะจังหวัด ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้หลวงพ่อเงินเป็นเจ้าคณะตำบลดอนยายหอม เมื่อ พ.ศ.2470 อายุได้ 37 ปี และในปี พ.ศ.2471 ต่อมาเจ้าคณะจังหวัดก็ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้พระภิกษุเงิน จันทสุวัณโณเป็นพระครูปลัด ของเจ้าคณะอำเภอเมืองนครปฐม ส่วนเรื่องการก่อสร้างบูรณะปฏิสังขรณ์วัดนั้น หลวงพ่อเงินก็ทำไปเรื่อยๆ พ.ศ.2470 ได้สร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ขึ้น โดยอาศัยทุนทรัพย์ของบรรดาญาติพี่น้องของท่านเอง รวมทั้งชาวบ้านดอนยายหอม อุทิศกุศลให้โยมบิดามารดา เป็นศาลาขนาดกว้างใหญ่เป็นที่เชิดหน้าชูตาวัดนี้ หลวงพ่อเงินมีดีอยู่อย่างหนึ่งเรื่องเงิน คือท่านไม่สะสมเงิน ไม่แตะต้องเงินเลย ท่านไม่ยอมสะสมเงินไว้เพื่อส่วนตัวหรือเอาไปเจือจุนญาติพี่น้อง มีแต่เอาทรัพย์สินเงินทองของญาติพี่น้องมาร่วมทำบุญสร้างวัด คนทั้งหลายเมื่อทราบว่าท่านจะสร้างอะไร ก็มีคนเต็มใจออกเงินช่วยทำบุญอยู่เสมอ ครั้งหนึ่งท่านกำลังสร้างอาคารเป็นตึกคอนกรีตอยู่ ผู้เขียนถามว่า "หลวงพ่อ สร้างอะไรหลังใหญ่ ๆ อย่างนี้ ไม่กลัวว่าจะไม่มีเงินพอสร้างไม่เสร็จมั่งหรือครับ" หลวงพ่อเงินตอบเรียบ ๆ ว่า "ตั้งใจทำไปตามกำลังศรัทธา ก็สำเร็จจนได้นั่นแหละ" หลวงพ่อเงิน ไม่มีนิสัยโลภ ไม่สะสม ไม่ต้องการมีอะไรเป็นของตน ไม่มีห่วง ไม่มีหวังทางโลก ไม่ทำอะไรเพื่อตัวเอง มีนิสัยเสียสละทำเพื่อคนอื่นทั้งสิ้น นิสัยจิตใจอย่างนี้ เป็นที่รู้เป็นที่ประจักษ์แจ้งในผู้คนทั้งหลายทั้งปวงทั่วไป เพราะเหตุนี้เมื่อท่านทำอะไร ใครรู้เข้า ก็เต็มใจยินดีบริจาคด้วยความเต็มใจเต็มสติกำลัง หลวงพ่อเงินเสมือนเนื้อนาอันดุดม เมื่อหว่านพืชลงไปย่อมจะได้ผลเต็มที่ "อนุตตะรัง ปุญญํกเขตตัง โลกัสสาติ" "เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีอะไรเหนือกว่า" คนจึงยินดีหว่านพืชลงไปในนาดีอย่างหลวงพ่อเงิน ต่อมาในปี พ.ศ.2473 ท่านได้สร้างโรงเรียนปริยัติธรรมอีกหลังหนึ่ง ขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 16 เมตร สิ้นค่าก่อสร้างสมัยนั้น 40,000 บาท และในปี พ.ศ.2473 นั้นเอง ท่านก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ ทำการอุปสมบทกุลบุตร ในตำบลดอนยายหอมนั้น เมื่อ อายุ 40 ปี ........................................................................................ พระธรรมเทศนา ของหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม คุณวิเศษของหลวงพ่อเงิน ซึ่งเป็นที่นิยมชมชื่นสรรเสริญกันหนักหนาก็คือ การสั่งสอนธรรม หรือจะเรียกว่าวิสัชนาธรรมก็ได้ จะเรียกธรรมเทศนาชนิดที่ไม่ต้องขึ้นธรรมาสน์เทศน์ไม่ต้องอาราธนาธรรม หลวงพ่อมักจะพูดเรื่องธรรมะกับคนที่ไปหาทุก ๆ คน สอดแทรกอยู่ในคำสนทนานั่นเอง ใช้คำพูดง่าย ๆ ฟังเข้าใจทันที ได้คติเตือนใจเหมาะสมกับวัย และสภาพจิตใจของบุคคลนั้น ๆ ใคร ๆ ได้ฟังแล้วก็เคลิบเคลิ้มเหมือนมีมนต์สะกดให้เห็นดีเห็นชอบเห็นจริง จดจำได้อยากทำตาม บางคนถึงแก่ปฏิญาณตนว่าจะเลิกทำบาปทำชั่ว เลิกอบายมุขต่างๆ เพียงแต่ได้สนทนาธรรมกับหลวงพ่อเงินครั้งแรก และครั้งเดียวก็มี วิธีสอนคนอีกอย่างหนึ่งก็คือ การไปเยี่ยมเยียนถามสารทุกข์สุกดิบถึงที่บ้าน เมื่อได้ทราบว่าใครกำลังคิดชั่วทำชั่ว ท่านก็จะเดินไปโปรดถึงที่บ้าน ท่านทำคล้ายกับจริยวัตรของพระบรมศาสดา เมื่อไปถึงแล้วก็คุยถึงเรื่องโน้นเรื่องนี้แล้วก็วกเข้าเรื่อง ด้วยจิตอันเปี่ยมไปด้วยความเมตตา อยากจะให้คนพ้นทุกข์ อยากให้เขาได้อยู่ดีมีสุข โดยไม่หวังผลตอบแทนอะไรเลย ใครกำลังคิดชั่วทำชั่วอยู่ ก็สารภาพกับหลวงพ่อ แล้วก็เกิดความละอายใจ ไม่กล้าคิดชั่วทำชั่วอีกต่อไป แล้วก็เล่าให้ใคร ๆ ฟังด้วยความปลื้มใจว่าหลวงพ่อมาโปรดถึงที่บ้าน ทำให้เขาเลิกทำความชั่วเสียได้ หลวงพ่อจึงเป็นที่เคารพรักของชาวบ้านอย่างฝังจิตฝังใจ |