หน้าร้านดีดี บอร์ด

Holoworld => ดวงชะตาคนดัง => ข้อความที่เริ่มโดย: wywy ที่ มิถุนายน 19, 2010, 08:56:26 PM



หัวข้อ: ดวงชะตาราศี เสาหลักเมืองกรุงเทพฯ
เริ่มหัวข้อโดย: wywy ที่ มิถุนายน 19, 2010, 08:56:26 PM
ดวงชะตาราศี เสาหลักเมืองกรุงเทพฯ

อาทิตย์ ๒๑ เมษายน พ.ศ.๒๓๒๕ ขึ้น ๑๐ ค่ำเดือน ๖ ปีขาล จ.ศ.๑๑๔๔
เวลา ๐๖:๕๔ น. (รุ่งแล้วเก้าบาท)

------------------------------------------
(http://forum.narandd.com/imageupload/image/l49ogb-28a9a2.jpg)
เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ สถาปนากรุงเทพฯ
เป็นราชธานีนั้น พระองค์ได้โปรดเกล้าให้ตั้งการพระราชพิธียกเสาหลักเมืองเพื่อเป็นนิมิตหมายหลักชัยอันสำคัญ
พระฤกษ์ยกเสาหลักเมืองกระทำ
ในวันอาทิตย์ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาล
ตรงกับวันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๓๒๕ เวลา ๐๖.๕๔ น.

----------------------------------------------------------

(http://forum.narandd.com/imageupload/image/l49ogx-bb7a34.jpg)
ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ เสด็จขึ้นครองราชย์
ทรงตรวจดวงพระชะตาของพระองค์ว่าเป็นอริแก่ลัคนาดวงเมืองกรุงเทพมหานคร
จึงทรงแก้เคล็ดโดยโปรดให้ช่างแปลงรูปศาลหลักเมืองเสียใหม่ให้เป็นรูปปรางค์
และโปรดให้ถอนเสาหลักเมืองเดิมและประดิษฐานเสาหลักเมืองใหม่พร้อมบรรจุชะตาพระนคร
ให้มีสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคล มีอุดมมงคลฤกษ์
ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๓๙๕ เวลา ๐๔.๔๘ น.

การฝังเสาหลักเมืองเมื่อครั้งรัชกาลที่ ๑ นั้น ได้เกิดอวมงคลนิมิตขึ้น คือเมื่อถึงมหาพิชัยฤกษ์อัญเชิญเสาลงสู่หลุม
ปรากฏว่ามีงูเล็ก ๔ ตัวเลื้อยลงหลุมในขณะเคลื่อนเสา จึงจำเป็นต้องปล่อยเลยตามเลย
โดยปล่อยเสาลงหลุมและกลบงูทั้ง ๔ ตัวตายอยู่ภายในก้นหลุม  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงทำนายชะตาเมืองว่าจะอยู่ในเกณฑ์ร้าย
นับจากวันยกเสาหลักเมืองเป็นเวลา ๗ ปี ๗ เดือน จึงสิ้นพระเคราะห์ ทั้งยังทรงทำนายว่า
จักดำรงวงศ์กษัตริย์สืบไปเป็นเวลา ๑๕๐ ปี

ชะตาแผ่นดินที่ร้ายถึงเจ็ดปีเศษนั้น เป็นช่วงที่ไทยติดพันศึกพม่าจนถึงศึกเก้าทัพ ซึ่งสิ้นสุดการพันตูหลังครบห้วงเวลาดังกล่าว

ส่วนคำทำนายว่าจักดำรงวงศ์กษัตริย์สืบไป ๑๕๐ ปีนั้น
ไปครบเอาปี พ.ศ. ๒๔๗๕ ซึ่งเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองพอดี  

การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ นั้น
เจ้านายที่ทรงความสำคัญรวม ๔ พระองค์ที่ทรงบังคับบัญชากิจสำคัญคือ
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงพระนครสวรรค์วรพินิต
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน
และสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงเพ็ชร์บุรีราชสิรินทร ทั้ง ๔ พระองค์
นี้มีพระราชสมภพและพระราชประสูติปีเดียวกันคือปีมะเส็ง (งูเล็ก)
ต่างกันเพียงรอบปีพระราชสมภพกับพระประสูติ  ทั้งสี่พระองค์
ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ เป็นอย่างยิ่ง  
นิมิตงูเล็กในเสาหลักเมืองจึงออกจะเป็นเรื่องอัศจรรย์

กรณีคำทำนายการดำรงวงศ์กษัตริย์เป็นเวลา ๑๕๐ ปี ไม่เป็นไปตามคำทำนาย
เพียงเปลี่ยนจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข กรณีนี้โหราจารย์ให้ความเห็นว่า
คงเนื่องด้วยพระบารมีของรัชกาลที่ ๔ ที่ทรงแก้อาถรรพณ์ถอนเสาหลักเมืองและวางดวงชะตาพระนครขึ้นใหม่

(http://forum.narandd.com/imageupload/image/l49ohn-a9388e.jpg)

ด้วยเหตุนี้ เสาหลักเมืองที่ประดิษฐาน ณ ศาลพระหลักเมืองจึงมีสองต้น
เสาเดิมครั้งรัชกาลที่ ๑ คือต้นสูง ที่ได้ทำพิธีถอนเสาแล้ว แต่หาที่เก็บที่เหมาะสมไม่ได้
จึงคงไว้  แกนในเป็นเสาไม้ชัยพฤกษ์ มีไม้จันทน์ประดับนอก ลงรักปิดทอง หัวเสาเป็นทรงบัวตูม
ภายในกลวงสำหรับบรรจุชะตาพระนคร  ดวงนี้อยู่ใจกลางยันต์สุริยาทรงกลด จารึกในแผ่นทอง เงิน นาก

ส่วนเสาพระหลักเมืองครั้งรัชกาลที่ ๔ คือต้นที่มีส่วนสูงทอนลงมา  
แกนในเป็นเสาไม้สัก มีไม้ชัยพฤกษ์ประดับนอก หัวเสาเป็นรูปยอดเม็ดทรงมัณฑ์
 เป็นต้นที่สถิตประทับของพระหลักเมือง

(http://forum.narandd.com/imageupload/image/l49oi9-a80241.jpg)

นอกจากนี้ ภายในศาลพระหลักเมืองยังเป็นที่ประดิษฐานพระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬไชยศรี เจ้าพ่อเจตคุปต์ และเจ้าพ่อหอกลอง  เป็นเทพารักษ์สำคัญ ๕ องค์ที่ให้ความร่มเย็นแก่แผ่นดินและประชาราษฏร์ทั้งปวง

--------------------------------------------------------------