หัวข้อ: พระโพธิสัตว์ 2. เริ่มหัวข้อโดย: ka1 ที่ ธันวาคม 07, 2009, 12:40:15 AM (http://img6.imageshack.us/img6/1019/79340762.jpg)
พระโพธิสัตว์ 2. พระโพธิสัตว์ (ต่อ) แม้พระพุทธยอดฟ้ามหาราช พระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านก็คือพระองค์ผู้ทรงเชื่อมั่นด้วยศรัทธาว่าพระองค์คือพระโพธิสัตว์อุบัติมาเพื่อบำเพ็ญบารมี ในชาติสุดท้ายจะได้ตรัสแก่พระปรมาภิเศกสัมโพธิญาณ ขอให้ไปศึกษาพระราชพงศาวดารดูลึก ๆ ศึกษาพระราชโองการ พระราชดำรัสพระราชจริยาวัตรดูเถิด ท่านล้วนแต่บำเพ็ญบารมี 10 ประการทั้งสิ้น ท่านมิได้เคยคิดว่าชีวิตของท่าน จะสิ้นสุดลงเมื่อสวรรคตเท่านั้น ท่านเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า ชีวิตของพระองค์ท่านยังต้องเวียนว่ายกลับมาเกิดอีกหลายร้อยชาติ ในชาติสุดท้ายท่านจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ท่านทราบว่าพระพุทธเจ้าในอดีตมีมากมายหลายพระองค์ พระพุทธเจ้าทรงออกพระนามไว้ก็มีอยู่ถึง 28 พระองค์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงสร้างพระพุทธรูปประธานไว้ในโบสถ์วัดอัปสรสวรรค์ถึง 28 องค์ นี่คือพระพุทธศาสนานิกายพระโพธิสัตว์ที่เป็นนิกายสยามวงศ์ มาแต่สมัยกรุงสุโขทัย พึ่งจะมาจืดจางไปก็สมัยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงปฏิรูปการศึกษาพระปริยัติธรรมในประเทศไทย ทำให้พระพุทธศานิกายพระโพธิสัตว์ของสยามผันแปรไปในหมู่นักศึกษาพระปริยัติธรรม แต่ในหมู่พระนักปฏิบัติและชาวบ้านทั่วไปยังไม่จืดจาง ยังเชื่อมั่นกันอยู่ในหมู่พุทธศานิกชนทั่วไป เพราะถ้าถือลัทธิสุญญตา ชีวิตสูญสิ้นไม่มีอะไรเหลือเมื่อตายแล้ว ก็เลิกนับถือพุทธศาสนากันได้ หันไปนับถือลัทธิฮินดูกันดีกว่า เพราะลัทธิฮินดูก็ยังมีสอนเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด ชีวิตสุดท้ายเป็นอมตะ คือไปอยู่กับพระผู้เป็นเจ้าบนสวรรค์ ซึ่งเป็นอมตะ ความจริงพระนิพพานของพุทธศาสนา ก็คือพระอมตมหานิพพาน แปลว่า "พระนิพพานอันเป็นอมตะอย่างยิ่ง" ท่านไม่ว่านิพพานสูญอะไรเลย แปลกันไปอย่างเพ้อเจ้อตามประสาจินตนาการเอาเอง โดยไม่เชื่อคำตรัสของพระบรมศาสดาแท้ ๆ ว่า "พระนิพพานดับไม่เหลือ..." ผู้เขียนเป็นศิษย์ของหลวงพ่อเงิน จึงเชื่อลัทธินิกายพระโพธิสัตว์ ผู้เขียน เชื่อว่า พระนิพพาน คือ "ว่างจากเบญจขันธ์" คือว่างจากรูป, เวทนา, สัญญา, สังขาร, 4 ขันธ์ แต่ยังมีวิญญาณขันธ์ คือว่างจากรูป แต่ไม่ว่างจากนาม ว่างจากสะสาร ไม่ว่างพลังงาน พลังงานยังมีอยู่คู่โลกธาตุนี้. ผู้เขียนนับถือพระคาถาของหลวงปู่ทวดที่ว่า "นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา" ผู้เขียนเชื่อพระคาถาของผู้ปรารถนาพระโพธิญาณที่ท่องภาวนาว่า "นะโมโพธิญาโณ ปณิธานะโต โหตุ สัพพะทา" ผู้เขียนเชื่อถือพระคาถาของฝ่ายมหายานที่ว่า "นะโม โพธิสัตโตมหาสัตโต อวะโลกิเตศวร" ใครนับถือพระพุทธศาสนาลัทธินิกายพระโพธิสัตว์ก็จงท่องภาวนาคาถาข้างบนนี้เถิด ท่านจะไปเกิดใหม่ เป็นพระโพธิสัตว์ มีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยการสั่งสมบารมี ก็จะเกิดภพภูมิที่ดี มีความสุข ไม่ถูกข่มเหงรังแก ให้ได้ความคับแค้น ยากเข็ญในชีวิต ตามประวัติสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) นั้น ท่านเล่ากันว่ามีหมอนวดฝีมือดีคนหนึ่งไปนวดท่าน นวด ๆ ไปก็คลำพบว่า กระดูกแขนท่อนล่างของท่านนั้น มีชิ้นเดียว ไม่มีกระดูก 2 ชิ้นคู่เหมือนกระดูกแขนของคนทั่วไป หมอนวดคนนั้นจึงจับขย้ำอยู่นาน จะถามท่านก็ไม่กล้าถาม สมเด็จท่านจึงถามว่า "เป็นหมอนวดมากี่ปี ?" "สิบกว่าปีแล้ว !" หมอนวดตอบ "เคยเห็นคนมีกระดูกแขนชิ้นเดียวมั้ย ?" สมเด็จถาม "ไม่เคยพบเลย" "ถ้าพบก็จงรู้เถิดว่า นั่นแหละคือพระโพธิสัตว์มาบำเพ็ญบารมี" สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ท่านก็เชื่อว่าตัวท่านคือพระโพธิสัตว์อุบัติมาเพื่อบำเพ็ญบารมี เป็นที่พึ่งแก่บรรดาสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง หลวงพ่อเงินท่านไม่มีรอยข้อพับที่นิ้วมือ นิ้วมือลื่นไปตลอดเหมือนลำเทียน ท่านจึงเชื่อว่าท่านคือพระโพธิสัตว์ อุบัติมาเพื่อบำเพ็ญบารมี เป็นที่พึ่งแก่สัตว์ทั้งปวง ข้าพเจ้าเคยเห็นข้อนิ้วมือของหลวงพ่อเงิน ไม่มีรอยพับนิ้วมือเรียบเหมือนลำเทียน. ........................................................................................ |