หน้าร้านดีดี บอร์ด

ห้องพูดคุยทั่วไป => ห้องข่าว => ข้อความที่เริ่มโดย: okay ที่ สิงหาคม 18, 2010, 09:26:11 PM



หัวข้อ: สุดารัตน์ ปฏิเสธข่าวเตรียมตั้งพรรคการเมืองร่วมกับท
เริ่มหัวข้อโดย: okay ที่ สิงหาคม 18, 2010, 09:26:11 PM
สุดารัตน์ ปฏิเสธข่าวเตรียมตั้งพรรคการเมืองร่วมกับทหาร

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ปฏิเสธข่าวเตรียมจัดตั้งพรรคการเมืองร่วมกับทหาร ยืนยันไม่เคยมีแนวคิดนี้ เพราะยังติดโทษที่ไม่ได้เป็นผู้กระทำอีก 2 ปี (ถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้ง 5 ปี จากการยุบพรรคไทยรักไทย) ข่าวที่ออกมามีทั้งผู้หวังดีและหวังร้าย ดังนั้น ต้องการให้มองว่าใครได้ประโยชน์จากความขัดแย้งที่เกิดขึ้น จากการออกมาพูดเรื่องนี้ เพราะทหารกับการเมือง ไม่ใช่บทบาทของประเทศระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น ขอเรียกร้องให้กองทัพกลับเข้าสู่ที่ตั้งเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของประเทศ ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายดีกว่า

“ขอยืนยันว่า ไม่มีการตั้งพรรคการเมืองใหม่ แต่ยอมรับว่า ได้เชิญบุคคลที่มีประสบการณ์และความรู้ในหลายๆ ด้าน และสมาชิกบ้านเลขที่ 111 มาร่วมงาน จัดตั้งเป็นองค์กร สถาบัน เพื่อนำความรู้ของแต่ละคนมาสร้างประโยชน์ให้กับส่วนรวม โดยจะเสนอข้อคิดเห็น ข้อท้วงติงไปตามกลไกที่มีอยู่ เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับประชาชน และจะเสนอข้อคิดเห็นไปยังผู้นำรัฐบาลด้วย” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

ต่อกรณีที่ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย เสนอให้แยกกลุ่มหาเสียง เพราะเกรงว่าปัญหาการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงจะกระทบต่อฐานเสียงในกรุงเทพฯ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ฐานเสียงในกรุงเทพฯ แบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ คือ ฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ และของพรรคเพื่อไทย แต่ก็จะมีกลุ่มที่อยู่ตรงกลางอีก 1 กลุ่ม ที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าพรรคไหนจะได้รับการสนับสนุน

“แม้จะมีเพียง 10% แต่ก็จะทำให้พรรคการเมืองชนะการเลือกตั้งได้ จึงเป็นเรื่องที่ ส.ส.กรุงเทพฯ ต้องหยิบยกมาพิจารณา เพราะฐานเสียงของ 2 พรรคการเมืองใหญ่ค่อนข้างใกล้เคียงกัน” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ ยังกล่าวถึงข่าวการซื้อตัว ส.ส.เพื่อลงคะแนนให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2554 ว่า หลังการปฏิวัติปี 2549 ทำให้ระบบสภาไทยอ่อนแอ ถอยหลังลงไปอีก 30 ปี ระบบพรรคการเมืองขาดความเข้มแข็ง จนทำให้มีการซื้อตัว ส.ส.ได้ง่าย และว่าการที่ยังคงใช้รัฐธรรมนูญปี 2550 เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ ไม่สามารถคุมเสียง ส.ส. ทำให้ ส.ส.ลงคะแนนสวนมติพรรคได้ และเกิดเหตุการณ์นี้มาหลายครั้ง ดังนั้น จึงต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญในจุดนี้ เพื่อทำให้พรรคการเมืองกลับเข้าสู่วงจรที่เงินไม่สามารถซื้อตัว ส.ส.ได้

ที่มาเนชั่น
----------------------------------------------