หัวข้อ: คาถากันภัยของหลวงปู่ขาวมีดังนี้ เริ่มหัวข้อโดย: pong ที่ สิงหาคม 21, 2010, 12:55:43 AM คาถากันภัยของหลวงปู่ขาวมีดังนี้
“ทิตะศีลาคันธะมังกะโร กะระกะลาสาสะติ โสตะถิโหคะหะคะเน” เรื่องจริงจังที่ว่านี้คือเรื่องพุทธคาถาวันโลกดับ จุดเริ่มต้นที่แท้จริงของเรื่องนี้เป็นเมื่อไหร่ผมก็เลือนไปแล้ว เพราะว่าเวลาผ่านมาเนิ่นนานมาก คือผมได้อ่านหนังสือเก่าเล่มหนึ่ง จะเป็นหนังสืออะไรก็ลืมไปแล้วเช่นกัน ในหนังสือนั้นได้กล่าวถึงการเดินทางไปประเทศอินเดียของคณะทูตไทยคณะหนึ่ง เพื่ออัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากอินเดียมาประดิษฐานในเมืองไทย ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าจะเป็นคราวที่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานบนพระ มหาเจดีย์ภูเขาทอง ในวัดสระเกศหรือเปล่า คลับคล้ายว่าจะเป็นคราวเดียวกันนี้แหละครับ หนังสือเล่มนั้นได้บอกว่าคณะทูตดังกล่าวได้คัดลอกข้อความที่น่าสนใจจากศิลา จารึกแผ่นหนึ่งในวัดเชตวันวิหารหรือวัดแห่งแรกในพุทธศาสนากลับมาเผยแพร่ใน เมืองด้วย โดยข้อความสำคัญนี้ได้ลงชื่อผู้จารึกว่าเป็นพระอานนท์ พระอานนท์ เป็นพุทธสาวกองค์สำคัญที่มีบทบาทในการสังคายนาพระไตรปิฎกแต่ครั้งพุทธกาล จารึกนั้นอ้างว่าเป็นการจารึกพุทธดำรัส อันพระพุทธองค์ทรงปรารภไว้แต่ครั้งยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ พระองค์ท่านตรัสว่า..... “มหาภัยอันหนึ่งจะเกิดแก่โลกยุคกึ่งพุทธกาล โลกจะสว่างไสว 7 วัน 7 คืน มืดสนิท 7 วัน 7 คืน คนตายกันมาก พวกผิวขาวจะแพ้ภัยแม้ผู้ศรัทธาในพุทธศาสนาก็ใช่จะพ้นภัยหากแต่จะทุเลาเบา บางกว่าผู้อื่น วิบัติแล้ว จะกลับมารุ่งเรืองก่อนเสมอ คถาคตไม่รู้จะช่วยเหลืออุบาสก อุบาสิกาอย่างไร บอกจากจะให้คาถาไว้ท่องบ่นยามมีภัย หรือจดใส่ผ้าหรือแผ่นโลหะโพกหัวไว้” มหาภัยที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้นี้ น่าเชื่อว่าจะเป็นสงครามนิวเคลียร์ ถ้าไม่ใช่สงครามนิวเคลียร์ก็ต้องเป็นอะไรที่ใหญ่โตขนาดที่ว่าทำให้คนทั้งโลกตายกันเป็นเบือได้ พุทธคาถาที่พระองค์ทรงให้ไว้มีดังนี้ “ทิตะศิราทันมันทะ โลกะลีลากะ ละลาสติโป จะติโหคะหะตะเน” ผมก็ไม่ทราบว่าเป็นภาษาอะไร บาลี, สันสกฤต หรือมคธก็ไม่ทราบ จะแปลว่าอะไรก็ไม่ทราบอีกเหมือนกัน แต่ผมจำพุทธคาถาบทนี้ได้แม่นยำที่สุดอย่างชนิดไม่เคยลืม กระทั่งถึงปีที่อิหร่านรบกับอิรัคครั้งแรก ดูเหมือนจะเป็นราว ๆ ปลายปี 2533 มีการเผาบ่อน้ำมันหลายบ่อ จนเกิดควันดำพวยพุ่งคลุมท้องฟ้า ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากภาพถ่ายดาวเทียม วงกลุ่มควันขยายตัวเป็นวงกว้างออกไปเรื่อย ๆ พื้นที่บางแห่งที่กลุ่มควันลอยไปถึงก็มองไม่เห็นพระอาทิตย์ ผมก็เริ่มกลัว คือกลัวว่ามหาภัยที่พุทธงค์ตรัสไว้ในศิลาจารึกวัดพระเชตวันวิหารอาจเป็นครั้งนี้ ผมลงมือเขียนพุทธคาถาบทนี้ลงในแผ่นทองแดง เขียนเป็นอักขรธัม จำนวน 36 แผ่น เท่าจำนวนญาติพี่น้องของผมเอง ม้วนเป็นตะกรุดแล้วฝากเพื่อนที่จะไปกราบหลวงปู่คำพันธ์ใ ห้นำตะกรุดทั้งหมดนี้ถวายหลวงปู่คำพันธ์เสกให้ผมด้วย เรื่องแปลกใจก็เกิดขึ้น เพื่อนผมกลับมาเล่าให้ฟังว่า พอเอาตะกรุดถวายหลวงปู่ ท่านก็บอกว่า “ตะกรุดนี้ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องเสกก็ได้” แต่ท่านอนุโลมเป่าให้เพราะเพื่อนผมขอร้องให้ท่านทำ ผมฟังแล้วก็งง ๆ ไปขณะหนึ่ง ผมจะเอาปัญญาที่ไหนไปเสกตะกรุดด้วยตนเอง จนหลวงปู่ท่านบอกว่าตะกรุดนี้ดีอยู่แล้วได้อย่างไร หลังจากนั้นผมก็นำตะกรุดทั้งหมดฝังลงในพระพิมพ์ที่ดัดแปลงจากพระผงสุพรรณ หน้าแก่ครบจำนวน 36 องค์ ใช้ผงอังคารธาตุล้วน ๆ ของ หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่ดูลย์ อตุโล และ หลวงปู่บัว สิริปุณโณ แล้วนำไปถ้ำผาปล่องเพื่อขอ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร ปลุกเสกให้ ท่านก็ให้เอาไว้ที่ถ้ำผาปล่องรอเข้าพิธีปลุกเสกรูปเหมือนเท่าองค์จริงของ ท่านที่จะประดิษฐานไว้ประจำถ้ำผาปล่อง พระชุดนี้เลยมีวาสนาพิเศษ เพราะท่านเสกพร้อมกับรูปท่านที่จะแทนตัวท่านตลอดกาล แม้กาลที่ท่านล่วงลับแล้วก็ตาม งานเขียนของคุณอาอำพล เจน ... จากหนังสือศักดิ์สิทธิ์ฉบับที่ 339 วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2540 --------------------------------------------- |