หัวข้อ: ชีวประวัติ หลวงปู่อิน 1/2. เริ่มหัวข้อโดย: ka1 ที่ ธันวาคม 09, 2009, 07:31:21 PM ชีวประวัติ หลวงปู่อิน 1/2.
เรื่อง: หลวงปู่อิน เขมเทโว วัดหนองเม็ก จ.สุรินทร์ (http://img697.imageshack.us/img697/8343/47665958.jpg) หลวงปู่อิน เขมเทโว วัดหนองเม็ก จ.สุรินทร์ หลวงปู่อิน เขมเทโว อายุ 84 ปี เถระปรมาจารย์แห่งมหาเสน่ห์ สายเขมรตัวจริง เจ้าตำรับวิชา “เปรี๊ยนเนียรี” วิชาลงน้ำมันพรายล่องหน มนต์มหาเสน่ห์เพชรพญาธร ขึ้นชื่อว่า “ศาสตร์วิชามหาเสน่ห์” นั้นยังมีหลายท่านที่ยังไม่ค่อยเชื่อว่าจะมีจริงหรือ..!!! บางท่านก็ยัง..ห้าสิบ..ห้าสิบ..เพราะยังไม่ได้สัมผัสชนิดที่ว่าของจริง...ของแท้..แท้.. แต่อีกหลายท่าน ซึ่งก็เป็นจำนวนไม่น้อยเลยที่เชื่อว่า “ศาสตร์วิชามหาเสน่ห์” นั้นมีจริง และเมื่อทำแล้ว..บูชาแล้วได้ผลจริง เพราะท่านเหล่านั้นล้วนได้สัมผัสด้วยตนเองมาแล้ว และเกิดประสบการณ์และความสำเร็จเมื่อได้ทำพิธีเสริมในเรื่องมหาเสน่ห์และบูชาวัตถุมงคลเครื่องรางในด้านมหาเสน่ห์ด้วยตนเองมาแล้ว ความอยากที่จะใคร่รู้และอยากที่จะเรียนรู้ด้วยตัวเองว่าวิชาในด้านมหาเสน่ห์นั้นมีจริงดังคำล่ำลือหรือไม่นั้น ทำให้หลวงปู่อินเมื่อสมัยหนุ่มๆนั้นท่านอยากที่จะเรียนรู้อยากที่จะศึกษาในวิชามหาเสน่ห์แบบให้รู้กันไปเลยว่ามีจริง แรงจริงแค่ไหน โดยหลวงปู่อินท่านบอกว่า “เมื่อสมัยก่อนนั้นอยากให้มีผู้หญิงมารัก มาหลงเราแต่บ้านเราจน เลยไม่มีสาวที่ไหนมาสนใจ ก็มีทางเดียวคือเรื่องการทำมหาเสน่ห์ แต่พอไปให้หมอเสน่ห์ในหมู่บ้านทำให้ก็ไม่เห็นผล จึงเริ่มจะเชื่อดีหรือไม่เชื่อดี ก็เลยตัดสินใจเรียนรู้ด้วยตัวเองเลยดีกว่า ก็พอดีโยมพ่อโยมแม่ให้บวชก็บวช พอบวชได้พรรษากว่าๆความคิดในเรื่องที่อยากจะเรียนรู้ในวิชามหาเสน่ห์ก็กลับมาอีก ก็เลยขอโยมพ่อโยมแม่ไปเรียนที่บ้านกำปงจามในเขมร ซึ่งโยมพ่อเขามีญาติอยู่ที่นั่น ก็เลยได้ไปเรียนวิชาสายเขมรตำรับกำปงจามเป็นครั้งแรก เริ่มเรียนตั้งแต่คาถาธรรมดาไปจนถึงชนิดที่เรียกว่าสั่งคนให้มารักเราได้เลย และเรียนเรื่องการทำน้ำมันพราย และน้ำมันไพร การทำเสน่ห์ยาแฝด ซึ่งตอนนั้นอาตมายังเป็นพระหนุ่มอยู่เมื่อเรียนแล้วก็อยากลอง ก็เลยลองวิชากับสาวหมู่บ้านใกล้กันนั่นแหละ ก็ได้ผลเขามาหาเราที่วัดทุกวันเลย จนท่านพระอาจารย์ท่านรู้ก็เลยโดนดุและต้องทำถอนให้เขา นั่นแหละยิ่งทำให้ได้รู้ว่าวิชาในเรื่องมหาเสน่ห์จริงๆนั้นมี ก็เลยตั้งอกตั้งใจเรียนวิชามหาเสน่ห์ทุกอย่างใน สายเขมรกำปงจามเลยทีนี้ ทั้งนำน้ำมัน หุงน้ำมันไพรมหาเสน่ห์เคี่ยวสีผึ้ง การทำหุ่นรักลงเสน่ห์ การนำผงเสน่ห์ยาแฝด และเชียนกระทั่งวิชาถอนของมหาเสน่ห์ไสย์ดำ เรียนอยู่ที่กำปงจามนี้ เจ็ด..แปดปี เรียกว่าได้ในวิชามหาเสน่ห์ทั้งหมดในสายเขมรกำปงจามเลยทีเดียว” หลวงปู่อินท่านเล่าต่ออีกว่า “หลังจากนั้นก็อยากที่จะเรียนอยากที่จะรู้ในเรื่องมหาเสน่ห์อีก ก็ไปเรียนกับอาจารย์ฆราวาสในวิชากระเหรี่ยงซึ่งก็เป็นวิชามหาเสน่ห์ โดยวิชาอย่างอื่นไม่สนใจเลยเอาแต่ด้านมหาเสน่ห์อย่างเดียวเลย และก็เดินธุดงค์ไป เรียนวิชาพญาหงส์ร่อนมอญแปลงในแถบพม่าอีกห้า..หกปีก็ได้วิชาในเรื่องมหาเสน่ห์มาอีกเยอะ” สำหรับวิชาในด้านมหาเสน่ห์ที่หลวงปู่อินท่านได้เรียน ได้ศึกษาอย่างช่ำชองเชี่ยวชาญนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นวิชาแบบหัวกระทิทั้งนั้นเลยก็ว่าได้และในยุคปัจจุบันจะหาผู้ที่รู้จริงในเรื่องของวิชามหาเสน่ห์แบบครบเครื่องอย่างหลวงปู่อินนั้นคงยากเต็มที หลวงปู่อิน เขมเทโว นามเดิมท่านชื่อนายขาอิน ทองมาก โยมบิดาชื่อนายอัน บุญมาก โยมมารดาชื่อจาลี บุญมาก เกิดที่บ้านหมากมี่ ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ โดยหลวงปู่ท่านเริ่มเรียนวิชาด้านมหาเสน่ห์กับโยมปู่ซึ่งเป็นหมอมหาเสน่ห์ชาวเมรที่อยู่จังหวัดอุดรมีชัย ซึ่งเป็นหมอเสน่ห์ที่ขึ้นชื่อที่สุดในสมัยนั้นยุคนั้นเลยทีเดียว ปัจจุปันหลวงปู่อินท่านเป็นยอดพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งที่ได้ใช้ชีวิตสมณเพศอันบริสุทธิ์ จาริกแสวงหาความสงบไปตามป่า ตามเทือกเขา เพื่อปฏิบัติธรรมบำเพ็ญกรรมฐานให้จิตตั้งมั่นอยู่ในความสงบ เป็นสมาธิมั่นคง หลวงปู่อิน ท่านได้ศึกษาวิชาอาคมจากครูบาอาจารย์ที่ท่านพบขณะกำลังบำเพ็ญอยู่ในป่า และทั่งที่พบขณะเมื่อท่านจาริกไปในประเทศเขมร และพม่า โดยเฉพาะในเขมรนั้นหลวงปู่อินท่านบอกว่าท่านนั้นตั้งใจเป็นอย่างมากที่จะเข้าไปศึกษาวิชาในด้านมหาเสน่ห์โดยเฉพาะ ทั้งนี้ก็เพราะวิชามหาเสน่ห์ ตำรับวิชาเขมรนั้น ถือว่าแรงที่สุด โดยเฉพาะวิชาในสาย “กัมปงชนัว” ซึ่งเป็นสุดยอดวิชาที่มากด้วยพลังอานุภาพที่ช่วยให้ผู้คนประสบความสำเร็จในเรื่องความรัก เสริมเมตตามหาเสน่ห์ให้แก่ผู้คนจนทำให้เป็นที่รักใคร่แก่บุคคลรอบข้าง วิชาแห่งเมตตามหาเสน่ห์ที่เป็นศาสตร์ลี้ลับมาแต่โบราณของเขมรในศาสตร์ของ “กัมปงชนัว”นี้ ผู้ที่รู้ในศาสตร์วิชานี้ในประเทศไทยนั้นหาไม่ได้เลย นอกจากหลวงปู่อินเพียงองค์เดียวเท่านั้น เพราะผู้ที่เรียนในสาย “กัมปงชนัว” นี้ได้จะต้องมีสายเลือดเขมรเท่านั้น ซึ่งหลวงปู่อินท่านบอกว่า ท่านนั้นรู้ถึงอานุภาพของศาสตร์วิชาในสายกัมปงชนัวนี้มาเป็นเวลานานแล้ว จึงอยากที่จะศึกษาเป็นอย่างมาก ซึ่งก็นับว่าดวงยังดีที่ท่านสามารถพูดและรู้ภาษาเขมรเป็นอย่างดี เพราะเป็นภาษาบ้านเกิดอยู่แล้ว จึงมีโอกาสที่จะได้ศึกษาจนกระทั่งเดินธุดงค์มากราบฝากตัวเป็นศิษย์ พระอาจารย์ปาชังสะบือ เพื่อขอเรียนวิชามหาเสน่ห์กับท่านโดยตรง ซึ่งหลวงปู่ท่านบอกว่าการได้เรียนในสายวิชา “กัมปงชนัว” นี้จะเรียนมนต์มหาเสน่ห์ล้วนๆ ตลอดจนวิชาเสกไพรวิชาลงของมหาเสน่ห์ วิชาทำน้ำมันพรายจากไพร และที่สำคัญที่ต้องเป็นก็คือ การปฏิบัติสมาธิบัติเข้าสู่ธาตุน้ำใช้วิชากสิณน้ำ การปฏิบัติอย่างหนักเพื่ออย่างหนักเพื่อให้จิตมีสมาธิอันเข้มแข็งและมั่นคง ต้องพานพบกับความลำบากนานาประการแทบเอาชีวิตไม่รอด แม้กระทั่งบางครั้งที่หลวงปู่อินท่านต้องนอนนิ่งทั้งวันทั้งคืน เพื่อเอากำลังของจิตเข้าต่อสู้กับความเจ็บป่วยอย่างหนักของร่างกาย จนกระทั่งจิตของท่านสามารถบรรลุความอดทนย่างหนักแน่นไม่หวั่นไหวคลอนแคลนใดๆทั้งสิ้น จนมีสมาธิเป็นหนึ่งด้วยสมาธิจิตเป็นหนึ่งของท่านนี้เองทำให้หลวงปู่อินได้พบเห็นความมหัศจรรย์ต่างๆนานา ในภพภูมิอันเร้นลับมากมาย ความเป็นหนึ่งของสมาธิจิตของหลวงปู่อินนี้ จึงทำให้พิธีลงน้ำมันพรายล่องหนและพิธีลงทองเพชรพญาธรที่หลวงปู่ท่านลงให้แก่ญาติโยมและลูกศิษย์ทั้งหลายนั้นมีผลในทางมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยมได้อย่างรวดเร็ว ทุกคนที่ได้ให้หลวงปู่อินท่านทำพิธีลงน้ำมันพรายล่องหนให้นั้นต่างรู้สึกเหมือนกัน โดยเฉพาะเมื่อตอนที่หลวงปู่ท่านกดลงน้ำมันให้ที่กลางหลังนั้น จะรู้สึกถึงพลังที่เย็นวูบทำเอาสั่นไปทั้งตัว และเมื่อหลวงปู่ท่านใช้มือตบลงบนแผ่นหลัง ยิ่งรู้สึกได้เลยว่าเย็นวูบไปทั้งตัว ทุกคนที่ได้สัมผัสนั้นต่างบอกว่า “นี่สิของจริง”มีไม่มากนักพระเกจิอาจารย์ที่มีภาวจิตสูงเยี่ยมยอดระดับนี้ และมีวิชาอาคมแก่กล้าขลังเฉพาะตัวอย่างนี้ ไม่แน่จริงไปอยู่ตามเขาโปรดชาวบ้านป่าในเขมรไม่ได้ เขมรเป็นต้นตำรับวิชาไสยศาสตร์ ทั้งมนต์ดำ มนต์ดีไสยดำ ไสยขาว โดยเฉพาะวิชาทางด้านเมตตามหาเสน่ห์ที่ถือว่า “ยอดเยี่ยมที่สุด” โดยเฉพาะวิชาที่ทำให้คนรักคนหลงนั้น ต้องถือว่าไม่มีใครแรงเกินวิชาตำรับเขมรได้เลย “มนต์เสน่ห์ เสริมชะตาราศี ทำให้มีแต่คนรัก คนหลง” **********************************มีต่อ******************************************* |