หน้าร้านดีดี บอร์ด

ห้องพูดคุยทั่วไป => ห้องข่าว => ข้อความที่เริ่มโดย: ka1 ที่ เมษายน 15, 2012, 08:45:12 PM



หัวข้อ: รวบแท็กซี่ข่มขืนผู้โดยสารสาว
เริ่มหัวข้อโดย: ka1 ที่ เมษายน 15, 2012, 08:45:12 PM
รวบแท็กซี่ข่มขืนผู้โดยสารสาว

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 15 เม.ย.2555 ที่ สน.คันนายาว พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผกก.สน.คันนายาว พ.ต.ท.ศักดิ์ชาย สุวรรณนุกูล สว.สส.สน.คันนายาว และชุดสืบสวนสน.คันนายาว แถลงข่าวจับกุมนายพิพัฒน์ หอมจันทร์ หรือกุ๊ก อายุ 40 ปี อาชีพคนขับแท็กซี่ ผู้ต้องหาคดีข่มขืน โดยถูกจับได้พร้อมของกลาง รถแท็กซี่โตโยต้าสีชมพู หมายเลขทะเบียน ทม 4664 กทม. 1 คัน มีดปังตอ 1 เล่ม เชือก 1 เส้น เสื้อกั๊กหนังสีดำ 1 ตัว กระเป๋าใส่เครื่องสำอาง ยกทรงสีดำ 1 ชิ้น โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 23.45 น.วันที่ 14 เม.ย.
เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.คันนายาวรับแจ้งเหตุจากนางสาวเอ(นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ว่า
ถูกคนขับรถแท็กซี่ข่มขืน ที่ริมถนนเลียบกาญจนาภิเษก ใกล้ปากซอยกาญจนาภิเษก 6/1 แขวงรามอินทรา
เขตคันนายาว กทม. ก่อนที่จะขับรถหลบหนีไปแต่นางสาวเอจำหมายเลขทะเบียนรถไม่ได้
เพียงแต่จำรูปร่างคนร้ายได้เท่านั้น ว่าคนร้ายใส่หมวกแก๊บ รูปร่างผอม ซึ่งเจ้าหน้าที่สงสัยว่า
จะเป็นนายพิพัฒน์ หอมจันทร์ ซึ่งมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และถูกเจ้าหน้าที่จับตาดูความเคลื่อนไหวอยู่
จึงนำนางสาวเอและกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบที่หมู่บ้านเอื้ออาทรปัญญาอินทรา ถนนปัญญา - อินทรา
แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. ก็พบนายพิพัฒน์กำลังขับรถแท็กซี่ สีชมพู ยี่ห้อโตโยต้า
หมายเลขทะเบียน ทม 4664 กทม. ออกจากหมู่บ้านลักษณะคล้ายเตรียมจะหลบหนี
แต่นางสาวเอ จำรถและหน้าตานายพิพัฒน์ได้ เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมและตรวจค้น
ซึ่งนายพิพัฒน์ก็ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือข่มขืนนางสาวเอ จึงจับกุมตัวมาดำเนินคดี

 ด้านนางสาวเอกล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตนได้นั่งรถแท็กซี่ที่มีนายพิพัฒน์เป็นคนขับ
จากร้านสปา กระเช้าสีดา แยกคลองสอง จ.ปทุมธานี เพื่อไปหาญาติที่ย่านงามวงศ์วาน
จากนั้นนายพิพัฒน์ก็ขับรถพาตนมาตามเส้นทางถนนเลียบถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งเป็นเส้นทางที่มืดและเปลี่ยว
พอมาถึงแถวริมถนนกาญจนาภิเษก ใกล้ปากซอยกาญจนาภิเษก 6/1 จากนั้นก็จอดรถแล้วทำทีเป็นอ้างว่า
ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังพร้อมกับหันมาถามตนที่นั่งเบาะหลังว่า ใช่เสียงโทรศัพท์ของตนหรือไม่
จากนั้นก็ทำทีเป็นค้นพบว่าเป็นโทรศัพท์ของตนเองที่ดัง พร้อมกับขอถอยรถเข้าไปในที่มืดเพื่อรับโทรศัพท์
ซึ่งตอนนั้น ตนก็เริ่มเอะใจเนื่องจากเห็นว่าผิดปกติ แต่ก็ยังไม่กล้าพูดอะไรเนื่องจากรู้สึกกลัว
แต่หลังจากที่นายพิพัฒน์ถอยรถเข้าที่มืดแล้ว กลับคว้ามีดปังตอที่เก็บอยู่ในคอนโทรลเกียร์ขึ้นมาจ่อที่คอของตน
แล้วเอนเบาะคนขับและข้ามมาหาตน จากนั้นบังคับให้ตนถอดเสื้อผ้า พร้อมกับใช้เชือกมัดมือของตน
แต่เนื่องจากตนมีท่าทางขัดขืนนายพิพัฒน์จึงใช้มีดตัดยกทรงของตนจนขาดแล้วนำมัดปากของตนอีกทีเพื่อไม่ให้ส่งเสียง
จากนั้นก็จับให้ตนนอนลงกับเบาะหลังแล้วลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ไป 1 ครั้ง
ซึ่งระหว่างที่กระทำนั้นตนก็ขัดขืนแต่กลับถูกนายพิพัฒน์ใช้สันมีดทุบเข้าที่กกหูอย่างแรง หลังจากนั้น
นายพิพัฒน์ก็ชิงกระเป๋าสะพายที่ใส่เครื่องสำอางและกระเป๋าของตนไป ข้างในมีเงินสดอยู่ 2,700 บาท
โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง แล้วบังคับให้ตนลงจากรถ แล้วนายพิพัฒน์ก็ขับรถหลบหนีไป

ด้านนายพิพัฒน์ ให้การรับสารภาพ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ได้อาวุธชิงทรัพย์
และข่มขืนกระทำชำเรา พร้อมนำตัวไปดำเนินคดีต่อไป


ที่มาเนชั่นทันข่าว
---------------------------