หน้าร้านดีดี บอร์ด

ห้องพูดคุยทั่วไป => ห้องข่าว => ข้อความที่เริ่มโดย: ka1 ที่ มกราคม 14, 2013, 10:04:39 AM



หัวข้อ: ตรัง- แก๊งค์ล่าพะยูนคืนชีพส่งไปนอกหัวละ1.5 หมื่น
เริ่มหัวข้อโดย: ka1 ที่ มกราคม 14, 2013, 10:04:39 AM
ตรัง- แก๊งค์ล่าพะยูนคืนชีพส่งไปนอกหัวละ1.5 หมื่น

แก๊งค์ล่าพะยูนกลับมาอาละวาดทะเลตรังอีกครั้งโดยเน้นเฉพาะหัวที่มีราคาสูงถึงชิ้นละ1.5 หมื่นตามออเดอร์จากเมืองนอกที่สั่งไปทำยาโด๊ปแกนนำชี้ปล่อยไว้อย่างนี้ไม่กี่ปีสูญพันธุ์แน่

นายอิสมาแอนเบ็ญสะอาดแกนนำชมรมการท่องเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์ชุมชนเกาะลิบงอำเภอกันตังจังหวัดตรังกล่าวว่าในปี2555 ถือเป็นช่วงที่วิกฤติที่สุดของพะยูนสัตว์อนุรักษ์ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดตรังเนื่องจากได้พบการตายลงไปเป็นจำนวนมากประมาณ17 ตัวทั้งที่พบซากแล้ว11 ตัวและที่ซากสูญหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุอีกไม่น้อยกว่า5-6 ตัวสวนทางกับการพยายามจัดกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์พะยูนแต่กลับไม่สามารถปกปักรักษาสัตว์ทะเลชนิดนี้เอาไว้ได้อย่างที่ควรจะเป็น

ทั้งนี้พะยูนที่ตายลงไปจะมีอายุเฉลี่ยตั้งแต่1-20 ปีซึ่งส่วนหนึ่งเกิดมาจากปัญหาเดิมๆเรื่องเครื่องมือประมงที่ผิดกฎหมายเช่นอวนปลากระเบนหรือเบ็ดราวไวที่ยังคงพบเห็นได้ในบางพื้นที่ของอำเภอกันตังและอำเภอหาดสำราญโดยเจ้าหน้าที่ก็มีข้อมูลที่ชัดเจนแต่ไม่อาจดำเนินการอะไรได้อันเนื่องมาจากปัญหาการทำงานที่ซักซ้อนของหลายหน่วยงานประกอบกับความไม่จริงใจหรือการใส่เกียร์ว่างรวมทั้งอาจจะมีเรื่องของประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องจึงทำให้ยังคงพบเห็นพะยูนต้องตายลงไปด้วยสาเหตุเหล่านี้

ที่สำคัญก็คือขบวนการล่าพะยูนเพื่อส่งขายไปยังต่างประเทศก็กำลังเริ่มที่จะลงมืออย่างรุนแรงมากขึ้นอีกครั้งเนื่องจากมีออเดอร์สั่งซื้อเข้ามาแถมนายทุนยังให้ราคาสูงล่อใจโดยเฉพาะส่วนหัวของพะยูนซึ่งมีราคาในตลาดมืดสูงถึงชิ้นละ15,000 บาทเพื่อนำไปเป็นส่วนผสมของยาชูกำลังหรือยาโด๊ป เหมือนอย่างเช่นหัวกูปรีที่สูญพันธุ์ไปแล้วหรือเลียงผาที่กำลังจะสูญพันธุ์นอกจากนั้นยังมีการนำซากไปแอบฝังดินให้เปื่อยยุ่ย แล้วรอวันขุดกระดูกขึ้นมาเพื่อส่งขายไปยังต่างประเทศ เพื่อนำไปเป็นส่วนผสมของยาโด๊ปอีกเช่นกัน

ดังนั้นหากเปรียบเทียบกับพะยูนที่คาดว่าจะมีเหลืออยู่ในทะเลตรังประมาณ150 ตัวกับจำนวนที่ตายลงไปปีละไม่น้อยกว่า15 ตัวอย่างในสถานการณ์ขณะนี้เชื่อว่าอีกไม่กี่ปีพะยูนก็อาจจะเกิดการสูญพันธุ์ไปจากประเทศไทยเพราะสถานการณ์ของการคุกคามได้เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่เลวร้ายมากขึ้นแม้จะมีหน่วยงานด้านอนุรักษ์และมีกฎหมายมากมายเพียงใดแต่หากไม่มีแกนนำหลักหรือมีแผนงานที่กำหนดมาตรการในระยะยาวอย่างชัดเจนทั้งพะยูนและทรัพยากรทางทะเลต่างๆก็จะถูกทำลายจนหมดไป

นายก้องเกียรติกิตติวัฒนาวงศ์หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันกล่าวถึงสถานการณ์พะยูนใปปัจจุบันว่ามีแนวโน้มที่ค่อนข้างจะวิกฤติโดยในปี2555 พบพะยูนตายลงไปแล้วจำนวน11 ตัวโดยเป็นพะยูนในจังหวัดตรัง10 ตัวและในจังหวัดภูเก็ต1 ตัวสำหรับสาเหตุสำคัญมาจากการใช้เครื่องมือการทำประมงประเภทอวนที่ทำให้พะยูนว่ายน้ำเข้าไปติดและไม่สามารถออกมาได้เมื่อไม่มีอากาศหายใจก็จะตายลงไปในที่สุด

ที่มาเนชั่นทันข่าว
----------------------------------------------------