หน้าร้านดีดี บอร์ด

ห้องพูดคุยทั่วไป => ห้องข่าว => ข้อความที่เริ่มโดย: wywy ที่ มกราคม 20, 2010, 04:34:21 PM



หัวข้อ: "3คนไทย"ในเฮติเตรียมเดินทางกลับไทยแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: wywy ที่ มกราคม 20, 2010, 04:34:21 PM
"3คนไทย"ในเฮติเตรียมเดินทางกลับไทยแล้ว

คมชัดลึก :ทีมข่าวออสซี่ยอมทิ้งงานเพื่อช่วยเหลือทารกน้อยจากใต้ซากแผ่นดินไหวในเฮติ ยูเอ็นปลื้มช่วยคนมาได้กว่า 70 ชีวิตแล้ว ลั่นจะยังไม่เลิกปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิต "กษิต" ประสานเม็กซิโกช่วย 3 คนไทยออกจากเฮติ พร้อมเปิดศูนย์รับบริจาคเงินช่วย ด้าน วธ.เสนอจัดกิจกรรม-คอนเสิร์ตครูเอื้อ ระดมทุนช่วย ชงเข้า ครม. 19 ม.ค.นี้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าของเหตุแผ่นดินไหว 7.0 ริกเตอร์ในเมืองหลวงของประเทศเฮติ เมื่อวันที่ 18 มกราคมว่า คณะเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากนานาชาติที่มาให้ความช่วยเหลือยังไม่หมดความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิต เพราะยังคงสามารถช่วยเหลือผู้คนออกมาได้เรื่อยๆ ราวปาฏิหาริย์ ล่าสุดคือ ทารกหญิงชาวเฮติที่มีวัยเพียง 18 เดือน แต่กลับเอาชีวิตรอดอยู่ใต้ซากมาได้ร่วม 3 วัน และคนอีก 5 คนที่ติดอยู่ใต้ซูเปอร์มาร์เก็ตกว่า 100 ชั่วโมง

 การช่วยชีวิตหนูน้อยคนนี้เป็นผลงานของทีมข่าวสถานี 2 ช่องของออสเตรเลียที่เป็นคู่แข่งกัน โดยนายริชาร์ด โมแรน ช่างภาพของสถานีโทรทัศน์ไนน์ เน็ตเวิร์ก กำลังจะเริ่มบันทึกภาพความเสียหายจากแผ่นดินไหวตอนที่ได้ยินเสียงเด็กร้องอยู่ใต้ซากอาคาร เขาตัดสินใจวางกล้องลงแล้วยกก้อนคอนกรีตเปิดทางให้นายเดบี เซเลสติโน ล่ามของช่อง 9 เข้าไปนำหนูน้อยที่นอนอยู่ใต้ซากอาคารใกล้ร่างไร้วิญญาณของพ่อและแม่ออกมา นายโรเบิร์ต เพนโฟลด์ ผู้สื่อข่าวช่อง 9 ซึ่งอยู่ในทีมข่าวชุดนี้ด้วยกล่าวว่า จะไม่มีวันลืมนาทีที่หนูน้อยถูกนำตัวออกมาจากซากปรักหักพัง เธอไม่ร้องไห้ แต่ดูงุนงงราวกับได้เห็นโลกเป็นครั้งแรก

 ภาพวินาทีการช่วยชีวิตซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ถูกบันทึกไว้โดยสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ของออสเตรเลียซึ่งเป็นคู่แข่งกันเนื่องจากทีมข่าวช่อง 9 ยอมทิ้งสกู๊ปข่าวเด็ดเพราะเห็นชีวิตคนมาก่อน แต่ทีมข่าวของช่อง 7 ก็ให้ความช่วยเหลืออยู่ข้างๆ ด้วยเช่นกัน โดยนายไมค์ อามอร์ ผู้สื่อข่าวช่อง 7 ที่เข้าไปอุ้มเด็กหญิงที่เนื้อตัวเปื้อนฝุ่น และป้อนน้ำดื่มแก่เธอเผยว่า ทั้งผู้สื่อข่าวและชาวบ้านต่างจดจ่อกับการช่วยเหลือหนูน้อยมากกว่าจะมัวไปสนใจการรายงานข่าว

 ด้านนายมาร์ก คัลเวิร์ท ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ทีมข่าวของสถานีเห็นสวัสดิภาพของเด็กหญิงมาก่อนความปลอดภัยของพวกเขา ทั้งยังทำตามความเชื่อส่วนตัวมากกว่าแรงกดดันในวิชาชีพ เพราะถึงแม้จะวางกล้องลงเพื่อไปให้ความช่วยเหลือแล้ว พวกเขาก็ยังสามารถรายงานข่าวตามหน้าที่ได้ และสิ่งสำคัญที่สุดคือการที่พวกเขาได้ช่วยชีวิตคนนั่นเอง

อีก 5 รอดจากใต้ซากซูเปอร์มาร์เก็ต

 ส่วนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ชายชาวเฮติคนหนึ่งได้รับความช่วยเหลือหลังจากที่ติดอยู่ใต้ซากซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งนานถึง 5 วัน โดยเจ้าตัวบอกว่ากินเนยถั่วกับเยลลีเป็นอาหารตอนที่ติดอยู่ใต้ซากตึก โดยเขาเป็นคนสุดท้ายในจำนวนผู้รอดชีวิต 5 คน ที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยสหรัฐและตุรกีช่วยเหลือออกมาได้จากใต้ซากตึกสูง 3 ชั้น ในกรุงปอร์โตแปรงซ์แห่งนี้
ส่งเอสเอ็มเอสขอความช่วยเหลือจากใต้ซาก

 ด้านหนังสือพิมพ์บิลด์ของเยอรมนีรายงานว่า นางนาดีน คาร์โดโซ รีดล์ ชาวเยอรมัน วัย 62 ปี ที่เป็นเจ้าของโรงแรมมอนทานา โรงแรมหรูในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ได้ส่งเอสเอ็มเอสหาลูกชายเพื่อขอความช่วยเหลือมาจากใต้ซากปรักหักพังที่เธอติดอยู่นาน 4 วัน โดยเธอได้รับความช่วยเหลือออกมาเมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ในสภาพขาดน้ำอย่างรุนแรง แต่อาการอื่นๆ นั้นปกติดี ขณะที่รัฐมนตรีฝรั่งเศสบอกว่าน่าจะมีคนราว 200 คน สูญหายอยู่ใต้ซากโรงแรมแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ต่างชาติ

ยูเอ็นชมเปาะช่วยได้กว่า 70 ชีวิตแล้ว

 ด้านโฆษกขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่า ทีมกู้ภัยจากทั่วโลกร่วม 43 ทีมที่รีบรุดมายังเฮติพร้อมกับสุนัขดมกลิ่น 161 ตัว และเครื่องไม้เครื่องมือไฮเทค สามารถช่วยคนออกมาจากใต้ซากได้กว่า 70 คนแล้วซึ่งถือว่าเป็นอัตราการช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวที่สูงมาก นอกเหนือจากความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่แล้ว ชาวเฮติเองซึ่งไม่มีเครื่องไม้เครื่องมืออะไร ก็ได้อาศัยมือเปล่าหรือพลั่วขุดใต้ซากบ้านและอาคารที่พังถล่มลงมาแล้วช่วยเหลือคนในครอบครัว เพื่อนๆ หรือคนแปลกหน้าออกมาได้ไม่น้อยเช่นกัน

 อย่างไรก็ตาม ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไรความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิตก็ยิ่งริบหรี่ลงเรื่อยๆ แต่ถึงกระนั้นเจ้าหน้าที่ก็ยังคงไม่เลิกปฏิบัติการค้นหาเพราะเชื่อว่ายังคงมีคนรอดชีวิตหลงเหลืออยู่ใต้ซากอาคาร และจะยังปฏิบัติการกัน 24 ชั่วโมงต่อไป

 ส่วนการแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์นั้น โฆษกยูเอ็น กล่าวว่า เริ่มจะดีขึ้นแล้วเพราะทีมจากหลายประเทศเริ่มมาถึง การทำงานก็เป็นระบบมากขึ้น ขณะที่กาชาดสากลกล่าวว่า คนหลายพันคนที่ต้องกินนอนอยู่บนท้องถนนในเมืองหลวงของเฮตินั้นตกอยู่สถานการณ์สิ้นหวัง คนส่วนใหญ่ต้องทนตากแดดตากลมเป็นวันที่ 5 แล้วเพราะบ้านพังหมด และไม่กล้าเข้าไปหลบในซากอาคารเนื่องจากยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกที่รุนแรงไม่น้อยอยู่ ขณะที่ซากศพก็ยังคงเกลื่อนถนน ทั้งยังเริ่มส่งกลิ่นและมีน้ำเหลืองไหลออกมาแล้ว

 ล่าสุดรัฐบาลเฮติประกาศว่าจะจัดตั้งศูนย์ฉุกเฉิน 280 แห่งขึ้นในวันจันทร์เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว และจัดหาที่พักชั่วคราวให้แก่ประชาชนที่ไร้ที่อยู่ โดยศูนย์ฉุกเฉินแต่ละแห่งจะสามารถรองรับประชาชนได้ราว 500 คน โดยจะจัดตั้งขึ้นในอาคารสาธารณะ เช่น โรงเรียน และโบสถ์ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ รวมถึงอีก 6 เมืองใกล้เคียง สำหรับยอดผู้เสียชีวิตนั้น ล่าสุดประมาณการว่าน่าจะเพิ่มเป็น 2 แสนคน

เร่งช่วย 3 คนไทยออกจากเฮติ

 ส่วนการให้ความช่วยเหลือคนไทยในเฮติ ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มกราคม นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยหลังหารือกับอุปทูตเม็กซิโกประจำประเทศไทยว่า ได้ส่งมอบรายชื่อที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อของคนไทย 3 คนในเฮติที่แสดงความประสงค์ต้องการจะเดินทางออกจากเฮติให้แก่ทางการเม็กซิโกแล้ว โดยเม็กซิโกมีเครื่องบิน 5 ลำที่บินไปมาระหว่างเม็กซิโกกับเฮติทุกวัน และพร้อมจะให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ประสงค์จะเดินทางออกมา คาดว่าทันทีที่สามารถติดต่อกับคนไทยทั้ง 3 คนได้ ก็สามารถจะเดินทางออกจากเฮติได้ทันที จากนั้นเมื่อถึงกรุงเม็กซิโกซิตี้ สถานเอกอัครราชทูตไทยในเม็กซิโกก็จะรับช่วงดูแลช่วยเหลือ รวมถึงออกตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับประเทศไทยต่อไป

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ 3 คนไทยที่จะเดินทางออกจากเฮติ คือ นางถนอมศรี วาตั้น ภรรยาเจ้าหน้าที่ยูเอ็นในเฮติ และเจ้าของร้านอาหารไทยในเฮติ นายธานินทร์ จีนชูแก้ว และ น.ส.สร้อยทอง จีนชูแก้ว 2 ลูกจ้างในร้านอาหารไทยดังกล่าว ส่วนคนไทยคนแรกที่เดินทางออกจากเฮติไปจาเมกาเพื่อรอกลับไทยแล้วนั้น ชื่อ นางสุทธินี อินตะโผะ ภรรยาของคนไทยที่เข้าไปทำงานบริษัทโทรคมนาคมในเฮติ

บัวแก้วเปิดบัญชีรับบริจาคช่วยเฮติ

 นายกษิต กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือแก่เฮติขั้นที่สอง หลังจากที่ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นไปแล้ว 2 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ ขณะนี้กำลังประเมินความช่วยเหลือที่จะให้เพิ่มเติม โดยจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือเฮติให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจะรายงานสถานการณ์ล่าสุดรวมถึงหารือในที่ประชุม ครม.วันที่ 19 มกราคมนี้ เพราะอาจต้องของบกลางเพิ่มเติม รวมถึงการหารือกับสำนักงบประมาณอีกทางหนึ่งด้วย

 นายกษิต กล่าวด้วยว่า ทราบว่ามีคนไทยและบริษัทเอกชนที่ประสงค์จะบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเฮติ กระทรวงการต่างประเทศพร้อมจะเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมความช่วยเหลือดังกล่าว โดยผู้ประสงค์จะบริจาคเงินสามารถติดต่อมาได้ที่กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งตั้งเป็น “ศูนย์รวบรวมเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเฮติ” และสามารถบริจาคเงินเข้ามาที่บัญชี กระทรวงการต่างประเทศ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสามยอด ประเภทกระแสรายวัน บัญชีเลขที่ 002-6-18233-5 โดยเงินที่ได้รับบริจาค จะส่งผ่านสหประชาชาติ และในเบื้องต้นจะขอรับบริจาคเป็นเงินเท่านั้น ซึ่งสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์รวบรวมเงินช่วยเหลือ

วธ.จัดคอนเสิร์ตระดมทุนช่วย "เฮติ"

 นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ประเทศไทยในฐานะสมาชิกของสหประชาชาติ ตระหนักถึงความสูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเฮติ จึงเห็นสมควรให้การช่วยเหลือโดยมีการดำเนินการดังนี้ 1.รัฐบาลควรรณรงค์ให้ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ตระหนักถึงหายนะที่เกิดขึ้น และควรรณรงค์ให้มีการบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างกว้างขวาง 2.จัดรายการพิเศษทางสถานีโทรทัศน์เพื่อรับบริจาค และ 3.จัดคอนเสิร์ตการแสดงดนตรีสุนทราภรณ์ เนื่องในวาระครบรอบ ชาตกาล 100 ปี ครูเอื้อ สุนทรสนาน ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย รอบพิเศษ ในวันที่ 24 มกราคมนี้

 ทั้งนี้เพื่อนำรายได้ทั้งหมดจากการแสดงคอนเสิร์ตรอบพิเศษมอบให้เป็นเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย และจะประสานศิลปินแห่งชาติ ศิลปินร่วมสมัย และศิลปินสาขาต่างๆ จัดกิจกรรมเพื่อระดมรายได้ให้การช่วยเหลือด้วย โดยกระทรวงวัฒนธรรมจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันที่ 19 มกราคมนี้

น้ำใจนร.พิษณุโลกเปิดรับบริจาคเงินช่วยเฮติ

กลุ่มนักเรียน นำโดยนางสาวพัชริดา สวัสเดชะ และนายพีรณัฐ เพียรทำ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที 6 และกลุ่มเพื่อนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย จ.พิษณุโลก ได้เดินถือป้ายที่มีข้อความข่าวสารของการเกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศเฮติ

 พร้อมกล่องรับบริจาคเงินช่วยเหลือ ไปตามอาคารภายในบริเวณโรงเรียน เพื่อขอรับบริจาคน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ คนละบาทสองบาทจากเพื่อน ๆ น้อง ๆ ครูอาจารย์ภายในโรงเรียน เพื่อจะนำเงินที่ได้เข้าบัญชีช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ที่ยังมีประชาชนอีกหลายแสนคน ยังต้องการความช่วยเหลืออีกมาก

 ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือและน้ำใจจากน้อง ๆ นักเรียน บริจาคเงิน รวมทั้ง ดร.สมเกียรติ บุญรอด ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพิษณุโลก เขต 1 และคณะ ที่ได้เดินทางไปประชุมข้าราชการครู ที่โรงเรียนอีกด้วย สำหรับเงินบริจาคที่ได้รับจะนำเข้าบัญชีที่เปิดรับบริจาคของประเทศไทย อาทิ สภากาชาดไทย


ที่มา : คมชัดลึก


***************************************