หน้าร้านดีดี บอร์ด

พระเกจิอาจารย์ => หลวงพ่อตัด วัดชายนา => ข้อความที่เริ่มโดย: ka1 ที่ ธันวาคม 06, 2009, 11:34:23 PM



หัวข้อ: ประวัติหลวงพ่อตัด ปวโร
เริ่มหัวข้อโดย: ka1 ที่ ธันวาคม 06, 2009, 11:34:23 PM
(http://img690.imageshack.us/img690/3262/33905279.jpg)

ประวัติหลวงพ่อตัด ปวโร "พระพุทธวิริยากร" วัดชายนา
พระพุทธวิริยากร หรือ หลวงพ่อตัด ปวโร เป็นเจ้าอาวาส วัดชายนา หมู่ที่ 2 บ้านใน ต.หนองจอก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
หลวงพ่อตัด วัดชายนา อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี อายุ 78 ปี พรรษา 58 ท่านโด่งดังมานานไม่ว่าจะเป็น ตะกรุดหลวงพ่อตัด หรือปลัดขิกหลวงพ่อตัด ท่านเป็นพระที่ชอบเรียนวิชาอาคมมาก สนใจตั้งแต่ยังหนุ่ม ท่านบอกว่า "สมัยก่อน ปี 2496 เอาหมด เอาทุกอย่างที่ไหนเขาว่าดีไปหมด ในกระจิวนี้ไปขอเรียนมาหมด..." พูดง่ายๆว่าตำราเก่าๆในจังหวัดเพชรบุรีนี้ท่านเรียนมาหมด

หลวงพ่อตัด ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง โดยเฉพาะวัตถุมงคล ตะกรุดเนื้อตะกั่ว ที่มากด้วยพุทธคุณและประสบการณ์

หลวงพ่อตัด ปวโร เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดเพชรบุรี มีประชาชนให้ความเคารพนับถือมาก แต่ด้วยความที่ท่านไม่เคยอวดตัว ไม่ยอมให้สัมภาษณ์หรือนำเสนอเรื่องราวประวัติของท่านหรือวัตถุมงคลไปลง หนังสือหรือรายการโทรทัศน์ใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้ไม่สามารถสืบค้นประวัติในช่วงวัยเยาว์ได้อย่างละเอียด ทราบแต่เพียงว่าตาม ประวัติหลวงพ่อตัด ท่านบวชมาตั้งแต่เป็นสามเณร จนกระทั่งอุปสมบท

หลังอุปสมบทได้ฝึกปฏิบัติธรรม และได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคม กล่าวได้ว่าตำราเก่าๆ ในจังหวัดเพชรบุรี ท่านศึกษาผ่านตาทั้งสิ้น เช่น เรียนวิชาการทำตะกรุด จากหลวงพ่อทอง วัดเขากระจิว และเรียนตำราของหลวงพ่อกริช ที่ตกทอดมาซึ่งเป็นพระยุคเก่าเป็นอาจารย์สายหลวงพ่อกุน วัดพระนอน เรียนทำปลัดขิก ซึ่งเป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง จากหลวงพ่อชุ่ม วัดกุฏิบางเค็ม ซึ่งมีเคล็ดลับว่า "ให้ใช้ไม้ผูกคอตาย ทำถึงจะดี" และท่านยังได้เดินทางไปต่อวิชากับหลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง รวมทั้งอีกหลายอาจารย์ ท่านเป็นพระที่ใฝ่หาความรู้วิชาอาคมต่างๆ อย่างจริงจัง

หลวงพ่อตัด เป็นคนพูดตรงๆ เหมือนคนไทยสมัยก่อน ผู้ที่เคยเข้าไปหาหลวงพ่อครั้งแรกจะตกใจ เนื่องจากหลวงพ่อเป็นคนพูดตรง ทำให้มองภาพลักษณ์ท่านเป็นคนดุ แต่ใจดี พูดคำไหนคำนั้น ไม่ชอบคนเซ้าซี้วกวน อยากได้อะไรบอกท่านไปตรงๆ ได้ คือได้ ไม่ได้ คือ ไม่ได้

หลวงพ่อตัด ท่านไม่ใช่พระพูดหวานหู แต่ค่อนข้างโผงผาง ออกจะเหมือนเล่นตัว แต่ถ้าคุ้นเคยจะทราบดีว่าท่านใจดี คุยได้ทุกเรื่อง แต่อย่าคุยเรื่องของที่ท่านทำว่าวิเศษอย่างไร ดีอย่างไร ท่านไม่ตอบ หลวงพ่อตัด ท่านมักจะพูดแต่ว่า "มาทำไม กูไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์อะไร พระบ้านนอก ไม่มีอะไร"

ครั้งหนึ่ง มีลูกศิษย์จากกรุงเทพฯ เดินทางไปหาท่าน เข้าไปกราบ ท่านถามว่า "มาจากไหน" ลูกศิษย์ บอกว่า "มาจากกรุงเทพฯ จะมากราบท่าน" หลวงพ่อตัดท่านตอบไปว่า "ที่กรุงเทพฯ ไม่มีพระหรือวะ ถึงมาถึงนี่ กราบทำไม กูไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์อะไร"

บางครั้งก็มีลูกศิษย์ให้ท่านช่วยรดน้ำมนต์ให้ "หลวงพ่อช่วยรดน้ำมนต์ให้หน่อย" หลวงพ่อตัด บอกทันทีว่า "รดทำไม พื้นเปียกหมด" แต่สุดท้าย ท่านก็รดน้ำมนต์ให้

ดังมีแม่ค้าจำนวนมากมาหาหลวงพ่อตัด เพื่อขอ วัตถุมงคลหลวงพ่อตัด วัดชายนาไปเก็บไว้เพื่อให้ค้าขายดี หลวงพ่อตัด กลับบอกว่า "กูไม่มี ถ้าต้องการขายดี ก็ต้องขายให้ราคาถูก" ท่านจะพูดในทำนองนี้

แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะโดนหลวงพ่อดุ แต่คนเหล่านั้น ล้วนต้องกลับมาหาหลวงพ่ออีก เพราะหลวงพ่อใจดี ถึงบางครั้งจะพูดจาดุด่าบ้าง แต่ก็เป็นการพูดตักเตือนตามความเป็นจริง

(http://img690.imageshack.us/img690/1960/95777251.jpg)

สำหรับวัตถุมงคล พระเครื่องหลวงพ่อตัด วัดชายนา มีชื่อเสียงด้านเมตตามหานิยม วัตถุมงคลที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ตะกรุดและปลัดขิกผูกคอตาย โดยเฉพาะ ตะกรุดหลวงพ่อตัด วัดชายนา จะโด่งดังมากในทางคงกระพันชาตรี ส่วนปลัดขิกหลวงพ่อตัด ก็ไม่ธรรมดาเมตามหาเสน่ห์ดีเยี่ยม ทำให้หลวงพ่อมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย

เคยมีลูกศิษย์เรียนถามท่านว่า "ตะกรุดหลวงพ่อตัด มีข้อห้ามอะไรบ้าง"

ท่านบอกว่า "พ่อแม่ คือ พระ อย่าด่าว่าพ่อแม่ ทั้งของเราแล้วของคนอื่นเค้า ถือศีล 5 ไว้ ของจะดีเพราะคนมันดี"

ลูกศิษย์เรียนถามท่านว่าแขวน ตะกรุดหลวงพ่อตัด "ลอดราวผ้า เสื่อมหรือเปล่า" ท่านบอกว่า "ตะกั่วมันก็เป็นตะกั่ว ตะกรุดก็คือตะกรุด ไม่มีเสื่อม ไม่ได้ห้าม ของดีอยู่ที่ใจคนใช้มันดี ใจมันไม่ดี ของก็ไม่ดี"

ผู้ที่เลื่อมใสท่าน เข้าไปหาท่านที่วัดชายนา ท่านจะนำตะกรุดมาแจกทั้งสิ้น ถ้าท่านไม่อยู่ จะมีลูกศิษย์คอยนั่งแจกทั้งวัน ในส่วนวัตถุมงคลที่อยู่ในตู้ให้ทำบุญ หลวงพ่อจะสร้างวัตถุมงคล เพื่อนำปัจจัยที่ได้มาซ่อมแซมบูรณะโบสถ์ ซึ่งมีพระกริ่ง พระผง รูปเหมือนและเหรียญ มีประชาชนไปบูชาทำบุญกับท่านไม่ได้ขาด แต่พอปัจจัยที่ได้ในการบูรณะโบสถ์เพียงพอแล้ว หลวงพ่อท่านจะสั่งปิดตู้งดบูชาทันที

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2551 เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา หลวงพ่อตัด ได้รับโปรดเกล้าฯพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์จาก พระครูบวรกิจโกศล เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระพุทธวิริยากร

แม้ด้วยวัยใกล้ 80 ปีแล้ว แต่หลวงพ่อตัด มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง แต่ทว่าในช่วงเช้าวันที่ 3 พฤษภาคม 2552 หลวงพ่อได้ออกเดินตรวจความเรียบร้อยรอบวัดเหมือนปกติ กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 07.00 น. พระในวัดได้ยินหลวงพ่อบอกว่าแน่นหน้าอก จุกแน่นตั้งแต่ช่วงท้องไปจนถึงหน้าอก หายใจไม่ออก

คณะลูกศิษย์ จึงได้นำหลวงพ่อตัดไปโรงพยาบาลท่ายาง อ.ท่ายาง แต่ไม่ทันการณ์ ด้วยหลวงพ่อตัด สิ้นลมหายใจและมรณภาพลง ในเวลา 07.37 น. คณะแพทย์ระบุเบื้องต้นเกิดจากอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

(http://img16.imageshack.us/img16/5764/38929960.jpg)

วงการพระเครื่องวัตถุมงคลและพุทธศาสนิกชนเมืองเพชรบุรี ได้ถึงวาระกาลสูญเสียพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกรูป ด้วย "หลวงพ่อตัด ปวโร" แห่งวัดชายนา จ.เพชรบุรี มรณภาพลง ในวัย 78 ปี พรรษา 58 เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2552

หลังจากเกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออกอย่างกะทันหัน พระลูกวัดและคณะศิษย์ รีบนำเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลท่ายาง แต่ไม่ทันการณ์ หลวงพ่อตัดได้มรณภาพลงระหว่างทาง

คณะแพทย์ลงความเห็นว่า หลวงพ่อตัด วัดชายนา มรณภาพแล้ว ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว และได้นำศพหลวงพ่อตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดชายนา สร้างความเศร้าสลดอาลัยเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2552 เวลา 13.00 น. คณะกรรมการวัด ได้เคลื่อนย้ายศพ พระพุทธวิริยากร หรือหลวงพ่อตัด ตั้งบำเพ็ญกุศล ณ ศาลาการเปรียญของวัด เพื่อประกอบพิธีรดน้ำศพหลวงพ่อ โดยมีพระเถรานุเถระและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัด เดินทางมาร่วมรดน้ำศพเป็นจำนวนมาก

ส่วนเวลา 17.00 น. นายชาย พานิชพรพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีรับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ

นอกจากนี้ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ได้เขียนห้ามมิให้นำร่างออกหาทุน มีข้อความว่า "ศพของเรา ห้ามฎีกา ออกหาทุน เกณฑ์ชาวบ้าน มารวมหุ้น ให้วุ่นวาย มีเท่าไร ทำเท่านั้น ตามสบาย ไม่มีข้อควรละอายอย่างไร"

สำหรับศพหลวงพ่อตัด ตั้งสวดพระอภิธรรมศพเพียงแค่ 7 วัน ตามความประสงค์ของหลวงพ่อตัด ที่ได้สั่งเสียไว้ก่อนมรณภาพ ทั้งนี้ จะมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพไปจนถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 2552 และประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ เวลา 16.00 น. วันที่ 10 พฤษภาคม 2552

ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับวงการสงฆ์เมืองเพชรบุรี
ที่มา... คอลัมน์ มงคลข่าวสด
***********************************************************************