Username:
Password:
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
ปฏิทิน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
กลับหน้าร้านค้าออนไลน์
หน้าร้านดีดี บอร์ด
พระเกจิอาจารย์
พระเกจิอาจารย์
หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ
(ผู้ดูแล:
ka1
,
okay
)
ประวัติ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ-หน้า 4
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
ส่งหัวข้อนี้
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ประวัติ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ-หน้า 4 (อ่าน 4306 ครั้ง)
ka1
Global Moderator
Sr. Member
ออฟไลน์
กระทู้: 496
เราจะทำเพื่อสังคม ทีมงานหน้าร้านดีดี.คอม
ประวัติ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ-หน้า 4
«
เมื่อ:
ธันวาคม 30, 2010, 02:36:08 PM »
ประวัติ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ
หน้า 4
มรณสัญญาณมาถึงหลวงพ่อเดิม
จากเดือนมกราคมเรื่อยมาจนถึงเดือนเมษายน งานสงกรานต์สรงน้ำหลวงพ่อผ่านไปแล้ว หลวงพ่อก็ยังแข็งแรง และยังคงไปเป็นประธานสร้างพระอุโบสถวัดอินทรารามดังกล่าวแล้ว ท่านเคยพูดแย้มๆ ว่างานนี้จะเป็นงานสุดท้ายในชีวิตของหลวงพ่อ เพื่อสนองคุณพระอุปัชฌาย์ ล่วงมาถึงวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๙๔ ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๖ หลวงพ่อกลับมาจากการเป็นประธานในการก่อสร้างพระอุโบสถวัดอินทรารามถึงวัดหนองโพ ท่านก็มีอาการโรคลมปัจจุบันเข้าแทรกทำให้หลวงพ่อถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อลุกไปไหนมาไหนไม่ได้ และมีอาการโรคชราเข้าแทรกด้วย ลูกศิษย์ลูกหาญาติโยมได้จัดหาหมอทั้งแผนโบราณมารักษาอาการของท่าน ผู้คนอื่นทราบข่าวหลวงพ่อเดิมอาพาธหนักก็พากันมาเยี่ยมท่านมีอาการทรงกับทรุดอยู่ตลอดเวลาไม่ดีขึ้น จนกระทั่ง
หลวงพ่อเดิมมรณภาพ
ถึงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ตรงกับวันอังคาร แรม ๒ ค่ำ เดือน ๖๖ อาการของหลวงพ่อทรุดหนักลงตั้งแต่ตอนเช้า ญาติโยมเข้าพยาบาลอยู่ใกล้ชิด มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นคือ วันนั้นช้างของหลวงพ่อที่ทำงานอยู่ในป่าได้ดิ้นรนไม่ยอมทำงาน ทั้งๆ ที่ควาญช้างก็บังคับอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้มัยทำงาน แต่มันกลับหันหลังมุ่งหน้าเดินจะมาวัดหนองโพ ควาญช้างซึ่งทราบอาการของหลวงพ่อดีก็ปรึกษากันแล้วเลิกงาน ช้างก็พากันเดินดุ่มมาวัดหนองโพอย่างรีบร้อน มาถึงวัดก็ตอนที่หลวงพ่ออาพาธหนักหมดทางเยียวยารักษาแล้ว มันหงอยเหงาอย่างเห็นได้ชัดไม่ยอมกินหญ้ากินอะไรทั้งนั้น คงวงเวียนอยู่ใกล้ๆ กับกุฏิที่หลวงพ่อนอนป่วยอยู่ไม่ได้ส่งเสียงร้องให้ได้ยินถึงหลวงพ่อ เหมือนมันจะรู้วาระมรณะภาพของหลวงพ่อว่า หลวงพ่อชุบเลี้ยงมันมาดุจบิดานั้นกำลังจะจากมันไปแล้ว อย่างไม่มีวันกลับมาอีกในเวลาอันใกล้นี้
หน้า 4 จาก 4
อภินิหารครั้งสุดท้ายของหลวงพ่อเดิม
ในวันนั้นหลวงพ่อเดิมมีอาการเพียบหนัก แต่สติของหลวงพ่อเดิมยังดีอยู่ คงหลับตานอนอยู่กับที่พร้อมกับเจริญภาวนาเป็นลำดับ สลับกับการลืมตาถามเวลาว่าเวลาเท่าใดแล้วเป็นระยะๆ ไป ไม่แสดงอาการกระสับกระสายให้เห็นเลย คงมีความอดทนอย่างเยียมยอดสมกับเป็นนักปฏิบัติธรรมอย่างเยี่ยม เป็นเวลาประมาณ ๑๗.๐๐ น. หลวงพ่อลืมตาแล้วถามเวลาเป็นครั้งสุดท้าย คราวนี้หลวงพ่อถามว่าน้ำในสระทั้งสองลูกมีระดับเป็นอย่างไร พอกินกันไหม เพราะหลวงพ่อไม่ได้ออกไปตรวจตรา จึงเป็นห่วง ด้วยน้ำในสระนั้นคือเส้นโลหิตใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของชาวบ้านหนองโพด้วยเป็นที่ดอนกันดารน้ำ หลวงพ่อพยายามขยายสระให้กว้างขึ้นเป็นลำดับเพื่อเก็บกักน้ำ ผู้ดูแลท่านจึงตอบว่าแห้งขอดลงไปแล้วเพราะฝนไม่ตกมาเป็นระยะนานแล้งมาก ถ้าฝนไม่ตกลงมาในวันสองวันนี้น่ากลัวจะอดน้ำกันแน่นอน เมื่อหลวงพ่อได้ยินดังนั้นก็ไม่กล่าวว่าอะไร สองมือของท่านประคองขึ้นไว้บนหน้าอกของท่าน นัยน์ตาของท่านหลับสนิทมองเห็นทรวงอกของท่านสะท้อนขึ้นลงแผ่วๆ ในลักษณะการเข้าสมาธิเป็นลำดับ ทันใดนั้นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้นเป็นที่เล่าสืบกันมาถึงทุกวันนี้
กล่าวคือฟ้าที่สว่างไม่มีเค้าแห่งเมฆฝนเลยแม้แต่น้อย กลับมืดครึ้มลงเป็นลำดับด้วยเมฆฝนที่ตั้งเค้า พร้อมกับสายลมกระโชกแรงขึ้น และฝนก็พร่างพรมลงจากฟากฟ้าดุจเทพมนต์ ตกหนักมากตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้นไม่มีใครคิดเหนือความคาดหมายว่าฟ้าที่สว่างๆ ไม่มีวี่แววฝนนั้นจะมีเมฆฝนและฝนตกลงมาก่อนเลย ฝนตกลงมาจนกระทั่งน้ำไหลลงไปในสระได้ครึ่งสระทั้งสองลูกเป็นระยะเวลาประมาณ ๓๐ นาที ฝนจึงเริ่มขาดเม็ดลง พร้อมกันนั้นลมหายใจของหลวงพ่อก็ขาดหายไปพร้อมกับสายฝนเป็นอัศจรรย์ อันเป็นสิ่งที่แสดงว่าหลวงพ่อได้บันดาลให้ฝนตกลงมาเพื่อต่อชีวิตชาวหนองโพไม่ให้อดน้ำ โดยอาศัยบารมีศีลอันบริสุทธิ์ของท่าน และอำนาจฌาณสมาบัติอันสูงส่งของหลวงพ่อเป็นอภินิหารครั้งสุดท้าย ที่หลวงพ่อแสดงให้เห็นประจักษ์ชัดถึงบารมีของท่าน ด้วยเมตตาบารมีที่ท่านมีต่อสัตว์ผู้ยากคือชาวหนองโพที่จะอดน้ำกันเดือดร้อน นี่แหละเมตตาธรรมของท่านแม้ชีวิตท่านจวนจะดับสูญแล้วยังอุตส่าห์เป็นห่วงเป็นใยในผู้ที่อาศัยบารมีท่าน ร่มโพธิ์ใหญ่ในวัดหนองโพล้มลงแล้ว ร่มโพธิ์ที่เคยให้ร่มเงากับศานุศิษย์ได้ถูกพายุแห่งการเวลาพัดกระโชกจนถึงการล่มสลาย เป็นที่น่าเสียดาย
เมื่อผู้ใกล้ชิดจับชีพจรดูจนแน่ใจว่าหลวงพ่อมรณภาพจึงแจ้งข่าว กับผู้อยู่ข้างนอกและต่อกันออกไปจนถึงในหมู่บ้าน วงปี่พาทย์ประจำวัดประโคมขึ้นพร้อมกัน กลองเภรีประจำวัดลั่นตูมขึ้นรัวกระหน่ำ ช้างของหลวงพ่อส่งเสียงร้องกันลั่น ราวแผ่นดินจะถล่นทะลาย น้ำตาไหลพรากทุกตัว ต่างเดินมาเอางวงจับหน้ากุฏิของหลวงพ่อเหนี่ยวไว้ร้องระรัวอาลัย ในมรณะกรรมของหลวงพ่อที่เคยดูแลมันมาแต่น้อยคุ้มใหญ่
ขณะนั้นชาวบ้านกำลังง่วงอยู่กับงานในหมู่บ้าน และละแวกใกล้เคียง จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงกลองเภรีดังรัวขึ้น และมีเสียงบอกกันต่อๆไปว่า หลวงพ่อมรณภาพไปแล้ว เท่านั้นเองทุกคนทิ้งงานทุกอย่าง เหมือนนัดกันไว้พากันรีบมาที่วัดหนองโพ เพื่อแสดงความไว้อาลัยในการมรณภาพของหลวงพ่อ ที่เป็นหญิงก็ร้องไห้โฮอย่างไม่อายใคร ที่เป็นชายใจแข็งก็ได้แต่ตาแดงๆ แต่ในส่วนลึกของหัวใจอาลัยหลวงพ่อยิ่งนัก ทางคณะกรรมการได้จัดศพหลวงพ่อไว้ในกุฏิเพื่อจะจัดพิธีอาบน้ำศพขึ้นในวันรุ่นขึ้น ชาวบ้านก็ได้แต่เข้าไปกราบศพของหลวงพ่อ
คณะกรรมการได้จัดกุฏิของหลวงพ่อได้จัดกุฏิของหลวงพ่อให้เข้ารูป พร้อมทั้งค้นดูของหลวงพ่อมีอะไรเป็นของมีค่า ที่จะเก็บรักษาไว้เป็นสมบัติของวัดต่อไป จากการค้นตรวจสอบทั่วทุกตารางนิ้ว ไม่ปรากฏว่ามีของมีค่าหรือเงินทองอยู่แม้แต่สลึก ในย่ามของหลวงพ่อก็ไม่มี มีอยู่สิ่งเดียวที่นายธนิต อยู่โพธิ์ กล่าวว่ามีค่าที่สุดของหลวงพ่อก็คือคัมภีร์ใบลานเก่าๆ เล่มเล็กๆ ที่หลวงพ่อใช้อ่านสอนตัวเองอยู่จนตลอดชีวิต จากการนี้เองทำให้ทุกคนประจักษ์ความจริงว่า หลวงพ่อเป็นพระแท้ เป็นพระที่เป็นผู้ให้ไม่สะสม ไม่ติดในลาภสักการะและโลกธรรมแปด เป็นพระพุทธบุตรที่ซื่อตรงต่อคำสั่งสอนแห่งองค์สมเด็จพระบรมศาสดา และดำเนินตามทางมรรคผลนิพพาน ที่องค์พระบรมครูวางไว้ทุกประการ
จีวรไม่พอครองศพหลวงพ่อเดิม
วันรุ่งขึ้นคณะกรรมการได้จัดพิธีอาบน้ำศพหลวงพ่อเดิมขึ้น เมื่อเริ่มพิธีผู้คนหลั่งใหลมาจากทั่วสารทิศ มีทั้งผู้แทนจังหวัดนครสวรรค์ นายเกษม บุญศรี ตลอดพ่อค้า คหบดีชาวกรุงเทพฯ และชาวบ้านใกล้เคียง เมื่อรดน้ำศพแล้วต่างพากันแย่งชิงฉีกจีวรที่ครองศพหลวงพ่ออยู่ คณะกรรมการสุดจะโต้แย้งเพราะผู้คนมากมายก็ได้แต่ขอเวลาเปลี่ยนจีวรหลวงพ่อใหม่ กี่ชุดๆ ก็ไม่พอเพราะคนรุมฉีกทิ้งกันเพื่อเอาไปเป็นที่ระลึก จนในที่สุดเห็นว่าจีวรจะไม่พอครององค์หลวงพ่อจึงได้ประกาศห้ามฉีก จึงสามารถรักษาจีวรให้ครองติดศพหลวงพ่อได้ แสดงให้เห็นถึงความศรัทธาที่ประชาชนมีต่อหลวงพ่อแม้ยามที่มรณภาพไปแล้ว
น้ำอาบศพเป็นน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์
ในตอนรดน้ำศพหลวงพ่อเดิมนั้น พวกหนุ่มๆ และคนแก่ ที่นับถือองค์หลวงพ่อได้พากันไปอยู่ใต้ถุนศาลาอาบน้ำศพหลวงพ่อ พร้อมทั้งเอาขัน เอาแก้ว หรือบางคนก็แหงนหน้ารองน้ำอาบศพหลวงพ่อ ต่างน้ำมนต์กลืนกินเข้าไปอย่างไม่รังเกียจด้วยศรัทธาสูงสุด ข้างบนก็ฉีกทิ้งจีวรหลวงพ่อให้ชุลมุน ข้างล่างก็รองน้ำศพให้วุ่นหมด ลานวัดคนเดินกันเกลื่อนแทบจะหลีกกันไม่พ้น เหมือนหลวงพ่อจะแสดงปาฏิหารย์คนที่กินน้ำอาบศพหลวงพ่อกลุ่มหนึ่ง เมื่อเดินออกมานอกวัด ก็เจอกับอริอีกกลุ่มหนึ่งพอดี ได้เข้าตะลุมบอนกันเป็นพักใหญ่ กลุ่มที่กินน้ำอาบศพหลวงพ่อไม่เป็นอะไรเลยเป็นแต่หัวร้างข้างโน บวม ปูด ส่วนอริหัวร้างข้างแตกกันเป็นระนาว พอข่าวแพร่ คนก็ไปกินน้ำอาบศพหลวงพ่อกันอีก ท่านผู้อ่านก็ลองวาดภาพดูก็แล้วกันครับว่าเป็นอย่างไร นี่แหละครับบารมีหลวงพ่อต้องมีเวรยามรักษาศพหลวงพ่อ
หลังจากรดน้ำศพก็ได้มีการตั้งศพหลวงพ่อสวดพระอภิธรรม มีเจ้าภาพจองกันยาวยืดจนครบร้อยวันในวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๔๙๔ และได้เก็บศพของหลวงพ่อไว้เพื่อรอพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในตอนนี้ได้มีผู้ศรัทธาในหลวงพ่อต้องการได้อัฐิของหลวงพ่อเดิม ได้พยายามลอบเข้าไปเพื่อจะดึงอัฐิของหลวงพ่อก่อนที่ยังมิได้พระราชทานเพลิง ด้วยความเลื่อมใสถือเป็นเครื่องรางของขลัง กรรมการวัดรู้เข้าก็ต้องจัดเวรยามดูแล เพราะไม่เช่นนั้นกว่าจะพระราชทานเพลิงศพแล้วสรีระของหลวงพ่อคงไม่เหลืออยู่แน่ เป็นที่น่าเศร้าสลดใจของผู้ที่จะได้รู้ข่าวจึงได้ป้องกันไว้ก่อนจะสายไป ครั้นจะห้ามเสียเลยก็จะเป็นการทำลายน้ำใจผู้ศรัทธาจึงหาทางอื่นที่นุ่มนวลคือเฝ้าระวังกันเอา
อัฐเถ้าอังคารคนแย่งกันทั้งยังร้อนระอุ
ในวันพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อ มีมหรสพทุกชนิด ที่ลูกศิษย์ลูกหาพากันมาแสดง เพื่อเป็นการไว้อาลัยหลวงพ่อเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อไฟพระราชทานมาถึงแล้ว ประธานในพิธีได้จุดไฟพระราชทานต่อจากนั้น ก็เป็นขบวนของชาวบ้านร้านตลาด ตั้งแต่บ่ายยันค่ำคนไม่ลดน้อยลงไปเลย ใส่ไฟแล้วก็ไม่ไปไหนคงซุ่มอยู่แถวนั้น เมื่อไฟพระราชทานได้เผาสรีระของหลวงพ่อมอดไหม้ไปแล้วท่ามกลางฝนที่โปรยปรายลงมา เป็นละอองเบาๆก่อความเย็นให้แก่ผู้คนที่เบียดเสียดเยียดยัดกัน กรรมการวัดได้ขึ้นเก็บอัฐิและเถ้าอังคารส่วนหนึ่ง เพื่อนำไปบรรจุในเจดีย์เพื่อเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านหนองโพ และผู้ได้มาเยี่ยมเยือนในภายหลัง เมื่อคณะกรรมการเก็บอัฐิแล้ว ไฟยังไม่ทันจะหายร้อน บรรดาชาวบ้านและผู้เคารพนับถือ ต่างก็เฮละโลกันขึ้นไปบนเมรุเบียดเสียดเยียดยัดกัน เหยียบกัน ล้มคว่ำคะมำหงาย เพื่อแย่งชิงอัฐิของหลวงพ่อเดิม เพื่อนำไปสักการะบูชา ที่แข็งแรงไปถึงก่อนก็ได้อัฐิไป ที่มาทีหลังหรือเข้าไม่ถึงก็ได้เถ้าอังคาร ตามแต่จะเก็บได้ หลังจากคลื่นฝูงชนซาลงไปแล้วปรากฏว่าไม่มีอัฐิ หรือเถ้าอังคารของหลวงพ่อติดเมรุอยู่เลยแม้แต่น้อย เป็นที่น่าอัศจรรย์ว่าทั้งๆ ที่ไฟบนเมรุยังร้อนอยู่ แต่คนที่แย่งชิงกันนั้น ไม่มีใครมือพองเพราะความร้อนของเมรุแม้แต่น้อยเลย
สรุปความท้ายประวัติ
สิ้นไปแล้วดวงประทีปแห่งหนองโพ หลวงพ่อผู้ทรงความเมตตากรุณา หลวงพ่อผู้เป็นผู้ให้แต่อย่างเดียว ถึงแม้จะรับบ้างแต่ก็ให้ไปจนหมดสิ้น หลวงพ่อผู้ช่วยทุกข์ของสัตว์ผู้ยากที่บากหน้ามาหา หลวงพ่อที่ถือเอาพระพุทธพจน์เป็นหลักประจำจนตลอดชีวิต หลวงพ่อผู้มีเวทย์มนต์อันเรืองรองด้วยพระพุทธคุณหลวงพ่อ ผู้สรรสร้างความเจริญทั้งในพระพุทธศาสนาและแก่ชาวบ้าน หลวงพ่อผู้ถือคติทำดีกว่าพูด และผลงานคือข้อพิสูจน์คุณงามความดีของท่าน สิ่งที่ยังคงเหลือเตือนใจคนรุ่นหลังให้ระลึกถึงท่านคือ คุณงามความดีคำสั่งสอน รูปหล่อครั้งเมื่อมีชีวิตอยู่ ตลอดจนวัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสกแจกให้กับศิษยานุศิษย์ที่คุ้มครองป้องกันชีวิตพวกเขาเหล่านั้นมาจนทุกวันนี้ ดังจะได้พูดถึงในภาควัตถุมงคลตอนต่อไปจากนี้ เพื่อท่านผู้อ่านทั้งหลายที่สนใจจะได้เสาะหาและเก็บไว้เพื่อเป็นที่ระลึกถึงท่าน และป้องกันชีวิตของท่านจากเหล่าอันธพาลมิจฉาชีพ ตลอดจนอริราชศัตรูที่รุกรานอยู่รอบบ้านเมืองของเราในปัจจุบัน
หลวงพ่อชาตะ เมื่อวันพุธ แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๓ ปีวอก จ.ศ. ๑๒๒๒
ตรงกับวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๐๓
หลวงพ่อมรณภาพเมื่อวันอังคาร แรม ๒ ค่ำ เดือน ๖ ตรงกับ
วันที่ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๔ เวลา ๑๗.๔๕ น. สิริรวมอายุ
ได้ ๙๒ ปี พรรษาที่ ๗๐
ท่านพระครูนิวาสธรรมขันธ์ (พุทฺธสโร)
-------------------------
บันทึกการเข้า
เราจะเป็นผู้ให้ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
(หากมีแต่ ผู้ขอ แล้วคัยจะเป็นผู้ให้ละ)
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
ส่งหัวข้อนี้
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
การเข้าใช้งาน หน้าร้านดีดี.com
-----------------------------
=> ป้ายร้านค้า/หน้าร้านดีดี
=> การเข้าล็อคอิน-บอร์ด-หน้าร้านดีดี ครั้งแรก
=> การเข้าหลังบ้าน-เว็บลูกค้า-หน้าร้านดีดี
-----------------------------
ห้องพูดคุยทั่วไป
-----------------------------
=> พูดคุยทั่วไป-ชุมชนออนไลน์หน้าร้านดีดี.com
=> ห้องหนัง-ภาพยนตร์
=> ห้องข่าว
=> ประวัติคนดัง
=> ห้องท่องเที่ยว
=> ห้องอาหารการกิน
=> ปั๊มเติมแก๊ส LPG
=> ห้องเกาหลี
-----------------------------
Special Zone
-----------------------------
=> ห้องเคล็ดลับสุขภาพ ความงาม
=> ห้องเคล็ดลับคลินิกรัก
=> ห้องสมุนไพรน่ารู้
=> ห้องสูตรอาหาร
-----------------------------
Holoworld
-----------------------------
=> ห้องดวง-ราศี
=> ดวงชะตาคนดัง
=> ภาพพิธีกรรมต่างๆ
=> วิชาพยากรณ์ต่างๆ
=> รวมดูดวงฟรี
===> ดูดวง,ประจำราศีโดย อ.นัท
===> ดูดวงฟรี ประจำเดือน (หมอดู ฮาว-ทู)
===> ดูดวงคำพยากรณ์ดวงฟรีประจำเดือน โดย อ.ภคนนท
-----------------------------
Entertain Zone
-----------------------------
=> ห้องบทกวี
===> ห้องบทกลอน
===> ห้องบทเพลงลูกทุ่ง
===> ห้องเพลงสตริง
=====> ติ๊กชีโร่
=====> แอม เสาวลักษณ์
=====> ดา เอ็นโดรฟิน
=====> เสก โลโซ
=> เรื่องราวแบ่งปันรอยยิ้ม
=> ห้องดูของแปลก
=> เรื่องขำขัน เฮฮา
=> ห้องตรวจผลสลาก
===> ผลการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล
-----------------------------
คนรักเชียงใหม่,ลำพูน,
-----------------------------
=> ห้องพูดคุยของคนรักเชียงใหม่,ลำพูน
=> ข่าวเชียงใหม่,ลำพูน
=> คนเด่นคนดังเชียงใหม่,ลำพูน
=> ตะลุยเดี่ยวกินเที่ยว กับ รวิวรรณ
-----------------------------
คนรักเมืองนนทบุรี,ปทุมธานี
-----------------------------
=> รวมข้อมูลจังหวัดนนทบุรี
=> ห้องพูดคุยของคนรักเมืองนนท์,ปทุมธานี,
=> ข่าวเมืองนนทบุรี,ปทุมธานี
-----------------------------
คนรักเมืองระยอง,ชลบุรี,จันทบุรี
-----------------------------
=> รวมข้อมูลจังหวัดระยอง
=> รวมข้อมูลจังหวัดชลบุรี
=> ห้องพูดคุยทั่วไปคนรักเมืองระยอง,ชลบุรี,จัน
=> ห้องโปรโมท-คนเมืองระยอง,ชลบุรี,จันทบุรี
=> ข่าวสารเมืองระยอง,ชลบุรี,จันทบุรี
-----------------------------
Information Zone
-----------------------------
=> ข่าวประชาสัมพันธ์ / จังหวัด
===> กรุงเทพมหานคร
=> แจ้งข่าวฝาก-ข่าวเตือนภัย
=> ห้องรวมโปรโมชั่น-ของถูก
=> ห้องโปรโมทร้านค้าต่างๆ
=> ประกาศรับสมัครงาน
-----------------------------
Zafira Club
-----------------------------
=> zafira-ห้องแนะนำตัว
=> zafira-ห้องแก้ปัญหาการใช้งานของรถซาฟิร่า
=> zafira-ห้องอยากซื้อ-อยากขาย
-----------------------------
คนรักเครื่องเสียงรถยนต์
-----------------------------
=> ห้องพูดคุยของคนรักเครื่องเสียงรถยนต์,
=> จัดชุดโปรโมชั่น
=> ประกาศรับสมัครงาน
=> ร้านเครื่องเสียงรถยนต์
-----------------------------
ชุมชนคนรักรถ
-----------------------------
=> carlover club
===> Chevrolet
=====> CAPTIVA Club
=====> OPTRA Club
=====> AVEO Club
===> Honda
=====> City
=====> Jazz
===> Toyota
=====> Vigo
=====> Yaris
=====> Fortuner
=====> Vios
===> Isuzu
===> Proton
-----------------------------
ศาสนา & วัดวาอาราม & สวนสาธารณะ & พิพิธภัณฑ์
-----------------------------
=> ศาสนา-วัดวาอาราม-พระอารามหลวง
===> ข่าวฝากจากทางวัด
=> คริสต์ศาสนา
=> พระราชวัง & พระที่นั่ง
=> ศาลเจ้า
=> พิพิธภัณฑ์ & สมาคม
=> สวนสาธารณะ
=> ตลาด & ตลาดน้ำ
-----------------------------
เกษตร Zone
-----------------------------
=> ปลา
===> ปลากะพง
===> ปลาหมอสี
===> ปลาทอง
=> ไก่
===> ไก่ชน
=> จิ้งหรีด
=> การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
-----------------------------
พระเกจิอาจารย์
-----------------------------
=> พระเกจิอาจารย์
===> ครูบาเจ้าศรีวิชัย
===> หลวงปู่ทวด วัดช้างให้
===> หลวงพ่อโต วัดระฆัง
===> หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ
===> หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
===> หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
===> หลวงพ่อทบ ธมฺมปณฺโญ วัดช้างเผือก
===> หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
===> หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
===> หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
===> หลวงปู่เส็ง วัดบางนา
===> หลวงปู่ทิม อตฺตสนฺโต
===> หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
===> หลวงปู่นอง วัดวังศรีทอง
===> หลวงพ่อศรีเมือง
===> พ่อปั้น กตปณฺโณ
===> หลวงพ่อโกย ชุติมนฺโต
===> หลวงพ่อโป่ย ปัญญาทีโป
===> หลวงพ่อสีห์ สีหะเตโช
===> หลวงพ่อสมจิตร สุจิตฺโต
===> พระอาจารย์สุนทร นนฺทปญฺโญ
===> หลวงพ่อเอิบ วัดขนมหม้อแกง
===> หลวงปู่คำบุ คุตตจิตโต
===> หลวงปู่อิน เขมเทโว
===> หลวงพ่อตัด วัดชายนา
===> หลวงพ่อท่านเอื้อม วัดบางเนียน
=> พระคาถา
===> แนวปฎิบัติกรรมฐาน
===> พระคาถามนต์พิธี
===> ประวัติพระเจ้า10ชาติ
===> พญานาคราช
===> พญาครุฑ
===> ตู้พระธรรมเถระเจ้า
===> รวมคาถาพระเกจิ
=====> พระคาถา-ทั่วไป
=====> รวมพระคาถาบูชาพ่อแก่ & ฤาษี108
=====> รวมพระคาถาบูชาพระพุทธรูป
=====> รวมพระคาถาบูชาเทพวีรกษัตริย์ไทยทั้งหลาย
=====> รวมพระคาถาบูชาเทพต่างๆทั้งหลาย
=====> รวมพระคาถาต่างๆ
===> อานิสงส์การทำบุญ
กำลังโหลด...