รมช.ศึกษาฯพาสุนัขตำรวจตรวจยาเสพติดเด็กเทคนิคกรุงเก่า

รมช.ศึกษาฯพาสุนัขตำรวจตรวจยาเสพติดเด็กเทคนิคกรุงเก่า

ที่วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา นายศักดา คงเพชร รมช.กระทรวงศึกษาธิการ นายประแสง มงคลศิริ ที่ปรึกษาเลขาธิการคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรัตน์ เลขาธิการการอาชีวศึกษา นายอภิชาต จิราวุธ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา พร้อมด้วยตำรวจจากกองบังคับการสุนัขและม้าตำรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ 191 นำสุนัขดมกลิ่นจำนวน 3 ตัวมาร่วมทำการตรวจหายาเสพติดในกลุ่มนักศึกษา โดยมีนายบำรุง อร่ามเรือง ผ.อ.วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา และผู้บริหารสังกัดอาชีวศึกษาพระนครศรีอยุธยามาร่วมจำนวนมาก
การดำเนินการเริ่มด้วยการนำนักศึกษาของวิทยาลัยจำนวน 3 พันคนเข้าไปรวมกันที่บริเวณโดมหอประชุมเอนกประสงค์ นายศักดา ได้กล่าววัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงศึกษาในการที่จะกำจัดยาเสพติดในสถานศึกษา จากนั้นได้ให้สุนัขตำรวจทั้ง 3 ตัวเดินไปตามแถวที่นักศึกษานั่ง โดยสุนัขจะทำการดมกลิ่นตามร่างกายของนักศึกษา และดมกลิ่นจากกระเป๋าของนักศึกษาทั้งหญิงและชาย เมื่อพบนักศึกษาต้องสงสัยสุนัขจะออกอาการกระสับกระส่ายหรือส่งเสียงเห่า ซึ่งนักศึกษาที่ผ่านการดมกลิ่นจากสุนัขแล้วจะถูกนำไปตรวจปัสสวะอีกครั้ง เพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย โดยแบ่งเป็นการตรวจนักศึกษาหญิงและชาย ซึ่งผลการตรวจเบื้องต้นพบเพียงปัสสวะที่มีสีออกม่วงเพียงเล็กน้อยไม่กี่คน แต่ทางวิทยาลัยได้กันตัวออกเพื่อทำการสอบถาม ก่อนที่จะคัดกรองสู่การเข้าค่ายบำบัดหากพบสารเสพติด
นายบำรุง เปิดเผยว่าการดำเนินการตรวจค้นหายาเสพติดในสถานศึกษาครั้งนี้ เป็นการปฎิบัติแบบจู่โจม และไม่ได้บอกกับนักศึกษา ซึ่งหากพบสารเสพติดหรือมีนักศึกษาเกี่ยวข้อง ก็จะจัดค่ายบำบัดหรือจัดกิจกรรมสร้างคนรุ่นใหม่ จากนั้นก็จะนำเรื่องของพุทธศาสนาเข้ามาขัดเกลาจิตใจ และเสริมสร้างความเป็นผู้นำ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาวิทยาลัยได้ทำการสุ่มตรวจอย่างต่อเนื่อง และเคยมีสถิติการพบสารเสพติดในนักศึกษาเพียง 5-7 เปอร์เซ็นเท่านั้น
รมช.กระทรวงศึกษา กล่าวว่าทางกระทรวงฯมีนโยบายชัดเจนในการแก้ปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา มีการสุ่มตรวจตามสถานที่ต่างๆทุกสองสับดาห์ และเป็นนโยบายที่มอบไปยังสถานศึกษาทั่วประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มอาชีวศึกษา และเป็นที่น่าดีใจว่าตัวเลขที่รับรายงานจากการสุ่มตรวจ พบผู้ที่มีสารเสพติดลดลง ซึ่งหากร่วมมือกันจริงจังจะแก้ปัญหาได้

ที่มาเนชั่นทันข่าว
-------------------------------