ดังอยู่แล้ว "ลีน่า จัง" ปัดให้เงินหวังกระแส ด้านแม่บ้านท้า "นาธาน" สาบานวัดพระแก้ว

ลีน่า จัง" แจงไม่ได้ให้เงินอดีตแม่บ้าน "นาธาน" ไถ่ถอนที่เพื่อหวังสร้างกระแส ลั่นตนดังอยู่แล้วแต่ที่ต้องออกสื่อฯ เพราะเคยเสียหายที่ช่วยคนแต่ไม่เป็นข่าวมาก่อน ด้านนางสมานท้าอดีตนักร้องคู่กรณีสาบานวัดพระแก้วว่าไม่ได้เอาเงินไปสักบาทเดียว
หลังออกปากจะช่วยเหลือเรื่องเงินเพื่อถ่ายถอนที่ดินให้กับนางสมาน สุขเสริม หรือ "เต็ม" อดีตแม่บ้านของ "นาธาน โอร์มาน" ที่กำลังมีคดีความฟ้องร้องกันอยู่ ล่าสุดในวันนี้ทาง "ลีน่า จัง จรรยา" ก็ได้ทำการมอบเงินให้กับอีกฝ่ายเป็นที่เรียบร้อยจำนวน 7 หมื่นบาทด้วยกัน
“ในส่วนเงินส่วนนี้ให้เลยไม่มีการเอาคืน ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้นให้ไปเลย ซึ่งที่ต้องให้แม่มารับเอง เพราะว่ามีข่าวออกไปว่าเราจะให้เงินและยังไม่โอนเข้าบัญชี เลยให้มาเองเพราะว่าเราต้องการให้มารับเพื่อให้สื่อมวลชนเป็นสักขีพยาน"
"เพราะเกรงกลัวว่าเดี๋ยวโอนไปแล้วจะมีคนโอนบางส่วนที่บริจาคให้เขาในบัญชีพี่เต็ม ก็เลยคิดว่าน่าจะมามอบให้ด้วยตนเองโดยมีคุณแม่ปิ่น(มารดานางสมาน)มาด้วย และอีกประการหนึ่งก็อยากจะเรียกร้องคนทั้งประเทศที่มี่จิตใจที่จะช่วยเหลือทั้งครอบครัวให้ได้ที่นาที่เหลือคืนมาสามารถบริจาคมาได้คะ”
ยืนยันด้วยว่าไม่ได้ต้องการสร้างกระแสเพราะดังอยู่แล้ว และที่ต้องออกสื่อ ให้สื่อเป็นพยานก็เพราะตนเคยโดนโจมตีในเรื่องทำนองนี้มาแล้ว
“ที่มาช่วยในวันนี้เพราะสงสารคะ ไม่ได้สร้างกระแสเพราะว่าดังอยู่แล้ว แต่ว่าดูข่าวแล้วเห็นทนายไปล็อคคอคุณเต็มให้พูดในสิ่งที่เขาไม่ต้องการพูดให้ขอโทษนาธาน จะขอโทษได้ยังไงถ้าขอโทษก็แสดงว่าแจ้งความเท็จ แล้วเราก็มองแล้วว่าพี่เต็มเวลาให้สัมภาษณ์ตอนที่สัมภาษณ์กับนาธานด้วย นาธานเขาพูดอยู่ฝ่ายเดียวพี่เต็มนั่งไม่รู้เรื่องเลย เราก็คิดว่าเราน่าจะมีนักกฎหมาย เราเองก็เป็นทนายเป็นประธานมูลนิธิลีน่าจัง เราก็ให้คำปรึกษาทางด้านคดีมาตั้งเก้าปี เราน่าจะช่วยเหลือเขา”
“และที่ต้องมาออกสื่อเพราะว่าเคยช่วยเหลือคนไปตั้งเยอะ แล้วก็ไปทำให้เราเสียชื่อเสียง ไปร้องสื่อว่าไม่ได้ช่วย เคยมีกรณีตอนสมัครผู้ว่าทีหนึ่งแล้วช่วยทำคดีให้เขาได้สี่ล้านกว่า แต่ในที่สุดพอรัฐมนตรีช่วยยัดให้สองหมื่นไปด่าโจมตีเราเลย เพราะตอนนั้นมันจะมีการแข่งขันการลงสมัคร แย่งซีนกันเจอมาหลายครั้ง เป็นบทเรียนเลยจำเป็นที่จะต้องให้มีพยาน”
ลั่นพร้อมช่วยเหลือในเรื่องของคดีความ
“คือในส่วนของเรื่องทนาย ถ้าพี่เต็มสืบก็ยินดีที่จะนั่งเครื่องบินไปว่าความให้ เพราะว่าคดีมันยังไม่ถึงขั้นตอนสืบพยานในศาล เมื่อวานเป็นเพียงแค่ไกล่เกลี่ย เมื่อไกล่เกลี่ยแล้วคู่กรณีไม่ประสงค์จะไปไกล่เกลี่ยก็ได้นะคะ เพราะฉะนั้นตอนนี้คดียังอยู่ในสำนวนของพนักงานที่อำนาจเจริญยังไม่ได้สั่งฟ้อง วันนี้ทางพี่เต็มก็ได้เอาสำนวนหลักฐานบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดีและบันทึกคำให้การให้เราตรวจสอบ ก็เห็นว่ายังบกพร่องเราก็จัดการให้เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“ซึ่งคดีแบบนี้นาธานคนลวงโลกแบบนี้เขาก็คงไม่มีปัญญาที่จะเอาเงินมาคืน เพราะเขาตอนนี้ก็ตกงานไม่มีงานทำ ไม่มีงานแสดง นาธานเขาเดินทางไปบ้านพี่เต็มที่อำนาจเจริญบอกว่าจะไปแสดงภาพยนตร์จะได้เงินสี่สิบล้านขอให้ทุกคนเอาเงินมาเพื่อให้เขาได้นั่งเครื่องบินแสดง หลังจากได้เงินมาแล้วจะแบ่งให้สิบล้าน แล้วเอาเงินไปปลูกบ้านหลังใหญ่ให้ ทุกคนก็เลยหลงเชื่อเพราะเขาหลอก ก็ไปเอาที่จำนองเพื่อให้เงินเขาเอาไปแสดง”
ส่วนเรื่องที่ทนายความของอีกฝ่ายไม่ยอมเปิดเผยชื่อ-นามสกุลนั้นเจ้าตัวบอกว่าเป็นสิทธิ์ที่จะทำได้
“คือเรื่องยังไม่ได้อยู่ในศาลค่ะ ถ้าเรื่องอยู่ในศาลในสำนวนเวลาเขาเป็นทนายเขาต้องเอาสำนวน และใบอนุญาตการเป็นทนายความแนบไปในสำนวน เพราะฉะนั้นยังไม่ผิดค่ะ และถ้าเขาไม่ประสงค์ที่จะให้สัมภาษณ์ออกสื่อมันก็เป็นสิทธิ์ของเขา"
"แต่ถ้าถามว่ามันผิดมั้ยที่มาล็อคคอคู่กรณีซึ่งเป็นผู้เสียหายและไปบังคับให้เขาพูดตามนั้น มันก็ผิดอยู่แล้วค่ะ ถ้าเกิดอยู่ในศาลก็เท่ากับว่าให้เขาเบิกความเท็จ และในความเห็นของเราเองในฐานะที่เป็นทนายเขาทำแบบนั้นไปล็อกคอมันผิดบัญญัติทนายความและก็ผิดเป็นคดีอาญาด้วย"
"การที่เราไปล็อกคอเขาทำให้เขาเสียเสรีภาพ คือเหมือนกับว่าบังคับให้พูดตามที่ฉันพูด มันไม่ถูกต้องเพราะเขาไม่ใช่ลูกความคุณ เขาเป็นคู่กรณีค่ะ”
ด้านนางสมานก็ได้เปิดเผยด้วยความดีใจว่า ตนจะเอาเงินที่ได้มานี้ไปไถ่ที่บางส่วนคืนมา พร้อมบอกมีคนแสดงความช่วยเหลือบริจาคเงินมาให้บ้างแล้ว
"จริงๆ ค่าไถ่เจ็ดแสนห้าหมื่นบาท มีหกใบ เราเอามาหมดเลยเพราะว่าเราได้ไปขอทางสหกรณ์การเกษตร และที่บ้านด้วยที่จำนองให้เขา หกใบอันนี้ยังไม่ทบดอก แปลงที่คุณลีน่าช่วยคือหนึ่งแปลงที่จะโดนยึด”
“ตอนนี้เหลืออีกสามแปลงคะ ใบที่จะไปถอนที่คุณลีน่าช่วยเป็นใบขายฝาก เป็นเงินประมาณเจ็ดหมื่น คุณลีน่าจังก็บอกว่าจะเป็นคนไปเอาออกให้ ถ้าเราไปเอาออกมาแล้ว เราจะเอาออกมาโชว์สื่อด้วยว่าเราไปได้ไถ่ถอนมาได้หนึ่งใบแล้ว"
"แต่ก็มีคนยื่นความจำนงมาช่วยเหลือเหมือนกันอยู่ในบัญชีคะ มีประมาณสองหมื่นกว่าบาทคะ พี่ก็ได้แจ้งทางโรงพักไว้แล้วเพื่อความขาวสะอาดของพี่ด้วย เงินที่ได้บริจาคมาไม่ได้เอาไปใช้สุรุ่ยสุร่าย เอามาไถ่ที่นาทั้งนั้น”
ส่วนในเรื่องของคดีความที่ทนายความฝ่ายตรงข้ามบอกอย่างมั่นใจว่านาธานจะชนะคดีแน่นอนนั้น เจ้าตัวบอกทางฝั่งนี้ก็มั่นใจเช่นกัน พร้อมฝากบอกอดีตนักร้องคู่กรณีกล้าสาบานมั้ยว่าไม่ได้เอาเงินไปจริงๆ
“ไม่รู้คะ เขาก็มั่นใจทางเขาทางเราก็มั่นใจทางเรา อันนี้พี่ก็มีหลักฐานตามที่พี่ทำไปค่ะ สุดท้ายก็อยากจะบอกน้องเขาว่าคนที่เขาไม่ได้เอาไปเขายังมีน้ำใจมาช่วยเหลือ แต่เขาบอกว่าเขาไม่ได้เอาไปจริงเหรอ อยากจะถามเขาเหมือนกันว่าไม่ได้เอาไปสักบาทจริงๆ เหรอ"
"ไม่นึกถึงแม่เหรอว่าแม่ไปเซ็นค้ำให้ เอาใบไปให้ แม่ยังบอกเลย เวลาเดือนร้อนมาขอร้องให้ช่วย แม่ยังบอกว่าไปเซ็นให้เขาทำไมเขายังบอกว่าเขาไม่ได้เอา อยากให้เขามาพูดต่อหน้ายาย เพราะแม่บอกว่าไม่เสียใจถ้ามาพูดต่อหน้าแม่ว่าไม่ได้เอา เขากล้าสาบานมั้ย เพราะเราก็ธรรมะธรรมโมเหมือนกัน ถ้าเขาไม่เอากล้ามาสาบานวัดพระแก้วมั้ยคะ”
หลังจากมีข่าวออกไปนาธานติดต่อมามั้ย?
“ไม่มีติดต่อมาเลยค่ะ ไม่เลย ไม่โทรมาเลย เขาบอกว่าเขาบริสุทธิ์ไม่ได้เอาสักบาท เขาบอกว่าไม่ได้เอาสักบาทเนี่ยก็เลยบอกว่าพี่ไม่เคยมีหนี้มีสินเลยตั้งแต่ไหนแต่ไร แม่พี่มาลูกมาไม่เคยมีหนี้ธกส.ไม่เคยมีหนี้อะไรสักบาทเลย อันนี้ตั้งแต่เขาหลอกเอาใบไปจำนองให้เริ่มมามีหนี้ตอนห้าหนึ่งกับห้าสองค่ะ”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
*************************************************************