พระคาถาสมเด็จลุน-19ฌานัง/2

พระคาถาสมเด็จลุน-19ฌานัง/2

เมื่อบริกรรมอยู่เช่นนี้ พระธรรมจะบังเกิดขึ้นแก่ตน ก็จะมีเทวดา ๑,๘๐๐ องค์ มากราบไหว้ และประสิทธิ์ประสาทพรให้ จากนั้นเมื่อเข้านั่งภาวนาเมื่อใด เมื่อนั้นก็จะเห็นเทวดาทั้งสิบหกชั้นฟ้าและสิบห้าชั้นดิน เห็นทั้งหมดและในขณะเดียวกันก็จะเห็นฝูงราชสีห์ คชสีห์ เสือเหลือง คนธรรพ์ อสูรย์ ครุฑ นาค มนุษย์ ทิพยาธร กินรี กินนร ดาบสฤาษี และโยคีเจ้าทั้งปวงแล เห็นทั้งเขาพระสุเมรุ เห็นทั้งเขาสัตตวรพันธุ์ สระใหญ่ทั้งเจ็ด เห็นน้ำคงคา น้ำมหาสมุทร เห็นทั้งพระจันทร์ พระอาทิตย์ เห็นทั้งดาวนักขัตตฤกษ์ ๒๗ ดวง ดาวเคราะห์ทั้ง ๙ ดวง เห็นทั้งอินทร์ พรหม ยมบาล เห็นทั้งท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ เห็นทั้งวิศนุกรรมเทวบุตร เห็นทั้งท้าวสหัสนัย เห็นทั้งลานพระเจดีย์จุฬามณี เห็นทั้งช้างเอราวัณ เห็นทั้งบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ต้นปาริฉัตร เห็นพระมเหสีของพระอินทร์ทั้ง ๔ คือ นางสุชาดา สุธัมมา สุจิตรา และ สุนันทา
เบื้องต่ำลงมา เห็นฟ้าเลื่อม ฟ้าแมบ (แลบ) ฮุ่งเฮืองเห็นฮุ่ง (รุ้ง) กินน้ำ เห็นถ้ำคูหาในเขาไกรลาศ มีในกงจักรทั้ง ๔ ในหทัยเห็นทั้งเขาจักรวาลและเขาหิมพานต์ เห็นทั้งต้นไม้อินทะนินชื่อเทพฤทธิ์ มีหน่วย (ผล) เป็นล้าน เป็นผู้ชายก็มี เป็นผู้หญิงก็มี ทิพยาธรย่อมจักเอาดอกไม้อันมีกลิ่นดุจดังพิมเสนนั่นมาชม เห็นทั้งฝูงช้างฉัตรทันต์ อันมีบริวารหลายร้อย เห็นหมู่นกทั้งปวง เห็นทั้งดอกไม้ปทุมชาติ ๕ ประการ เห็นทั้งเพดานเงิน เพดานคำ (ทองคำ) แก้วห้อยอยู่ในอากาศเดียรดาษเต็มเวหา เห็นปราสาทเงินปราสาทแก้ว มีฮูปสรรพสัตว์อยู่ในปราสาท เห็นสระโบกขรณี ขาบเงินทองและขาบเงินแก้ว ราชรถแก้ว ตาลปัตรแก้ว เห็นบุพพวิเทหะทีป (ทวีป) อมระโคยาเนทีป (ทวีป) อุดรกุรุทีป (ทวีป) และ สักกะชมพูทีป (ทวีป) เห็นนักขัตตฤกษ์ยวดยานราชรถทิพย์เทียมด้วยม้าอาชาไนย งัวอุสุภราช เห็นซีกไม้มหานาวา อันลอยไปในมหาสมุทรสุดสาคร และเห็นปราสาททั้งปวงเข้ามาประชุมกัน จักได้ยินเสียงปี่แก้วเสพครื้นเครงทั้งมวล อันมีในมนุษย์และสวรรค์ แลจักได้ยินเสียงเจรจากัน ๑๒ ภาษา ก็จักจำภาษานั้นได้ทั้ง ๑๒ ภาษา จักรู้น้ำใจคน น้ำใจสัตว์ น้ำใจเทวดา จักรู้ฤกษ์ดีฤกษ์ฮ้าย ฮู้หมดสิ้น

ทีนี้ให้เอาคำหมาก (ชานหมาก) ที่เคี้ยวแล้วในขณะนั้นภาวนา เสกด้วยคาถาญาณ ๑๙ แล้วนั้น เอามาเขียนเป็นวงกลมกงจักรใส่ในฝ่ามือซ้าย แล้วจึงเอาต้นกล้วยตัดเอาเพียงตา (สูงเสมอตาคนยืน) เอามาทอด(วาง) ไว้ในที่ช่องหน้า (ตรงหน้า) เอามือซ้ายลูบลง เอาน้ำที่เสกไว้แล้วใส่ในบาตรนั้น ลูบท่อนกล้วยทั้งแปดทิศ ภาวนาคาถา ๑๙ ญาณ ไปด้วย เสกอีก ๗ ที แล้วเอามือขวาตบที่ยอดท่อนกล้วยพร้อมกับว่า ท่านจงกลับกลายเป็นรูปคนเหมือนตัวรูปกูนี้เทอญ ว่าดังนั้นแล้ว จึงเอามือซ้ายตบลงที่ยอดกล้วยให้ได้ ๗ ที ต้นกล้วยนั้นจะกลับกลายเป็นคนและเหมือนตัวเรานั่นแหละ และรูปนั้นก็ฮู้จักเจรจา ฮู้จักยืน ฮู้จักนอน ฮู้จักเดิน ฮู้จักเที่ยว ไปมาทุกหนทุกแห่งและผิจักทำตัวเฮานี้ให้หายตัวบ่ให้คนอื่นเห็น ให้เอาคำหมากเฮาเคี้ยวแล้วใหม่ ๆ นั้น มาเขียนเป็นฮูปกงจักรแก้ว แล้วจึงเอามือขวาจุ่มลงที่น้ำมนต์ในขันหรือในบาตรนั้น ยกมือขึ้นขาบไหว้แล้วจึงเสกคาถาทั้ง ๑๙ บทให้ได้ ๗ ที แล้วตบลงที่หัวเฮาเอง อธิษฐานว่า รูปนี้จงหายไป อย่าให้ไผ (ใคร) เห็นกูเลย ดังนี้แล้ว จึงเอาฝ่ามือขวาตบเข้าหัวอกเฮาให้ได้ ๓ ที คนบ่เห็นเฮาแล ถ้าจักให้คนเห็นเฮา จงเอามือซ้ายตบหัวเรา ๓ ที คนทั้งมวลจึงเห็นตัวเราแล

ถ้าจักให้อายุยืนให้จัดเอา ข้าวตอกมา ๑,๐๐๐ ดอก ใส่ลงในน้ำเผิ่ง(น้ำผึ้ง) แล้วเสกด้วยคาถา ๑๙ จบ ครบ ๗ วัน จึงเอาข้าวตอกนี้มากินจนกว่าจะหมด อายุยืน ๑,๐๐๐ ปี ทั้งจะเป็นคนหาโรคพยาธิมิได้แล

ถ้าจะให้ฤาชาผากฎมีอานุภาพ ให้นั่งภาวนาใต้ต้นไม้ใหญ่ภาวนาคาถาญาณ ๑๙ จบนี้แล

ถ้าอยากไปบ้านอื่น ให้เอาคำหมากที่เคี้ยวมาเสกอมแล้วเขียนฮูปวงกงจักรใส่ฝ่ามือซ้ายแล้วเสก ๓ ที แล้วจึงเรียกคนที่จะไปด้วยกันมานั่งรวมกัน แล้วเอามือซ้ายมากวักน้ำ ใส่ให้ถูกโต (ตัว) คนเหล่านั้นเหมิด (หมด) ทุกคน แล้วให้อธิษฐานว่า ตัวสูเจ้าทั้งปวงที่มานั่งอยู่นี้ จงเป็นกุ้งฝอยเสียสิ้นเถิด อธิษฐานว่า ๓ ที แล้วกวักน้ำใส่ให้ถูกตัวทุกคน แล้วเขาเหล่านั้นก็จะกลับกลายเป็นกุ้งฝอยทุกคน จากนั้นก็เอาคำหมากมาเขียนวงกงจักรใส่มือขวา แล้วจุ่มลงในน้ำ แล้วจึงอธิษฐานว่า ดังนี้ ตัวกูนี้จงเป็นนกกระทุง ให้ใหญ่สูง ๓ ศอกเถิด แล้วให้เสกคาถาญาณทั้ง ๑๙ บทนั้นให้จบ ๓ จบ ก็จักกลายเป็นนกกระทุงแล นกนั้นฮู้จักเจรจาและบินไปอากาศได้ ให้นกนั้นอมเอากุ้งฝอยพวกนั้นไปเถิด คันเถิงหมู่บ้านที่จะไปนั้น ให้คายกุ้งฝอยมวลนั้นกองกันไว้แห่งเดียว แล้วนกกระทุงนี้จึงว่าคาถาทั้ง ๑๙ บท เสกน้ำหยดใส่ให้ถูกกุ้งฝอยเหมิด (หมด) ทุกตัว กุ้งฝอยนั้นก็จักกลับกลายเป็นคนคือเก่า (เหมือนเดิม)

ถ้าเห็นว่า ศัตรูตามเฮามา ให้เอาใบหมากขามป้อมกะได้ ใบมะขามกะได้ ใบกะเดากะได้ ใบหมากยมกะได้ ให้บริกรรมคาถา ๑๙ บท นั้น ๑๗ คาบ แล้วจึงอธิษฐานว่า ใบไม้นี้จงเกิดเป็นต่อเป็นแตน ไปรบกวนกับข้าศึกอันติดตามกูมานี้เถิด แล้วเอาฝ่ามือซ้ายตบใบไม้นั้น ๒๑ ที ใบไม้นั้นก็จะกลายเป็นต่อเป็นแตนไปรบราข้าศึกแล

ถ้าอยากให้ศัตรูรบกันเอง ก็ให้หักเอาหง่าไม้ (กิ่งไม้) มาเสกใส่ ๓ ที ด้วยคาถา ๑๙ บทนั้น แล้วจึงเอาไปไว้ที่ทางมาแห่งศัตรูนั้น จึงอธิษฐานว่า หง่า (กิ่ง) ไม้กูวางขวางไว้ที่หนทางนี้ ข้าศึกศัตรูมาที่นี่เมื่อใดให้มันรบกันเองเถิด ข้าศึกมาเถิงที่นั่นก็จะรบกันเองแล

ผิว่าจะกันบ้านกันเมือง ให้เสกใส่หญ้าคาเฝือ (ถัก) และฝ้ายมุงคุล วงให้รอบบ้านรอบเมือง ผีห่าเข้ามาบ่ได้แล

ถ้าอยากพ้อ (อยากพบ) พระฤาษีทั้งปวง ให้ขึ้นไปภาวนาอยู่เหนือจอมดอยหันหน้า ไปทางทิศตะวันออก บริกรรมด้วยพระคาถา ๑๙ บทนี้ ก็จักเห็นพระฤาษี ทิพยาธร กินรี กินนร ทั้งหลายแล

ถ้าจักให้เงินคำเป็นขี้เข็บ (ตะขาบ) ป้องกันคนลัก ก็เสกพระคาถา ๑๙ บทนี้ ๑๗ จบ เป่าลงในถุงเงิน เงินทองในถุงในไถ่ก็จะกลายเป็นขี้เข็บ (ตะขาบ) ไต่ยั้วเยี้ยอยู่ในไถ่แล ให้เสกพระคาถาญาณ ๑๙ บทนี้ ใส่ฝ่ามือเบื้องซ้าย แล้วตบลงที่ถุงเงินถุงทองนั้น เงินทองที่เป็นขี้เข็บ (ตะขาบ) นั้น ก็จะกลับสภาพจากตะขาบมาเป็นเงินทองเช่นเดิม

-------------------------------