Username:
Password:
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
ปฏิทิน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
กลับหน้าร้านค้าออนไลน์
หน้าร้านดีดี บอร์ด
พระเกจิอาจารย์
พระคาถา
รวมคาถาพระเกจิ
พระคาถา-ทั่วไป
(ผู้ดูแล:
ka1
,
pong
,
jacky
,
okay
)
คาถาเงินล้าน
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
ส่งหัวข้อนี้
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: คาถาเงินล้าน (อ่าน 3546 ครั้ง)
jacky
Global Moderator
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 249
คาถาเงินล้าน
«
เมื่อ:
มกราคม 20, 2010, 10:31:21 PM »
คาถาเงินล้าน
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (ท่อง 3 จบ)
พระพุทธัง ประสิทธิโชคลาภ
พระธัมมัง ประสิทธิโชคลาภ
พระสังฆัง ประสิทธิโชคลาภ
สัมปะจิตฉามิ ( คาถาสนองกลับ )
นาสังสิโม พรหมมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ , (คาถาปัดอุปสรรค)
พรหมมา จะ มหาเทวา อะภิลาภา ภะวันตุ เม, (คาถาเงินแสน)
มะหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม, (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
มิเตพาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)
พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ ,วิระทะโย วิระโคนายัง (คาถาวิระทะโย)
วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ
มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้ผลเร็ว)
เพ็งๆ พาๆ หาๆ ฤาๆ ( คาถามหาลาภ )
( บูชา ๙ จบ ตัวคาถาต้องว่าทั้งหมด )
พระราชพรหมยาน
วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
--------------------------------------------------------------------------------
จากผู้มีประสบการณ์
หมายเหตุ : ต้องท่องทั้งหมดทุกบทด้วยใจเคารพและเป็นสมาธิ
ให้ว่าคาถานี้ทั้งหมดทุกบทว่า 30 จบต่อวัน แต่ถ้าเป็นไปได้ควรทำให้ได้มากกว่าอายุหรือคลอไปตลอดวันด้วยใจเป็นสมาธิ ไม่มีความโลภในใจ และมีจิตเคารพในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะได้ผลเร็วขึ้น เหมาะกับภาวะเศรษฐกิจ ที่กำลัง ตกต่ำ ท่านบอกว่าคนที่สวดคาถานี้เป็นประจำจะมีความคล่องตัว ใครจะตกต่ำเราไม่ตกต่ำ การทำมาหากินคล่องตัว เพราะ ฉะนั้น จงอย่าประมาท เร่งภาวนาสั่งสมความดี ช่วยงานพระศาสนา จะเป็นมงคลแก่ตนและครอบครัว
*******************************************************************
ที่มาของ คาถาวิระทะโย
หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค จ.อยุทธยา
ในปัจจุบันนี้ ภาวะทางเศรษฐกิจย่ำแย่ ตามบริษัท ห้างร้านต่างๆ ต่างคน ต่างก็บ่นพึมพำ ชาวบ้าน หรือก็หนักใจ พูดกันตาม ความเป็นจริงแล้ว พระไม่อยากให้ชาวบ้านเดือดร้อน ไม่อยากให้ชาวบ้านจน ถ้าชาวบ้านจนเมื่อไรพระอดอยากเมื่อนั้นแล้ว ควรจะทำอย่างไรดีล่ะ ในที่สุด พระจำเป็นจะต้องทำหน้าที่อย่างเดียวคือ นั่งแช่ง นอนแช่ง ให้ชาวบ้านรวย นอนไปก็ว่า เรื่อย ไป เวลานี้ มีคำสั่งให้ทำอยู่สองอย่าง คือ ถ้าว่างก็ให้ว่าคาถาบทนี้ไปด้วย เพื่อช่วยสงเคราะห์ชาวบ้านเขา ให้มีกินมีใช้ ยุชาว บ้านเขาปลอดภัย ยุให้ชาวบ้านเขารวย พระเราก็จะพลอยมีกินมีใช้ไปด้วย ถ้าพระองค์ไหนแช่งให้ชาวบ้านเขาจนละซวยอด กินแน่ๆ
เมื่อพูดถึงเรื่องจน ก็ทำให้นึกถึง คาถาวิระทะโย คาถาบทนี้ มีความสำคัญมาก พวกเราทุกคนควรจะทำ ทำให้ได้พื้นฐาน ไว้ก่อน คาถาบทนี้ ถ้าทำขึ้นน้อยๆ ถ้าเงินมันขาดมือ มันจะชดใช้กันทัน ถ้าหากทำขึ้นเต็มอัตรา เงินจะเหลือใช้ แต่ต้องทำ เป็นสมาธินะ การทำสมาธินี่ ไม่ต้องนั่งก็ได้ ถ้าว่างตอนไหน ก็นึกว่า มันเรื่อยไปขายของอยู่ ทำงานอยู่พอว่างนิดก็ว่าไปเดิน ไปนึกขึ้นได้ว่าไป คาถาวิระทะโยนี้ ถ้าใครมีความจำเป็น มากจริงๆ ถ้าทำถึง อุปจารสมาธิ ตอนนี้ เงินไม่ขาดตัวแน่ ถ้ามี - ความจำเป็นมากจริงมักจะหาได้ทัน ถ้าเข้าถึงปฐมญานตอนนี้ละขังตัวไม่ใช่พอใช้นะเหลือใช้แต่ต้องทำได้ตั้งแต่ปฐมญาน ขึ้นไปนะ
คาถาบท นี้ มีคนใช้ได้ผลมาเยอะแล้ว คนที่ใช้ได้ผลคนแรกสุด ก็คือ นายห้างขายยาตราใบโพธิ์ ที่ว่า เป็นคนแรกเพราะ อะไรเพราะตอนนั้น หลวงพ่อปาน ท่านไปเรียนมาจาก ครูผึ้ง ซึ่งอยู่จังหวัดนครศรีธรรมราช เรียนมาแล้วก็มีนายห้างขาย ยาตราใบโพธิ์สนใจ จึงขอเรียนจากหลวงพ่อปาน และทำได้ผลเป็นคนแรก
สำหรับประวัติของครูผึ้ง สมัยนั้น แปลกดีมาก ครูผึ้งคนนี้ มีคติว่า ร้อยบาท ใครเขาจะแต่งงานไปบอกแก แกให้ หนึ่งร้อย งานโกนจุก หนึ่งร้อย บวชพระ หนึ่งร้อย แกมีคติแบบนี้ ใครไปบอกบุญแก แกขอทำบุญด้วยร้อยบาทอย่าลืมนะว่าสมัยนั้น เงินครึ่งสตางค์ หนึ่งสตางค์มีค่ามาก เงินร้อยบาทสมัยนั้นมันมากกว่าเงินเดือนของร้อยตรีอันดับหนึ่ง ถ้าใครมีเงินร้อยบาท ละก็ เริ่มรวยแล้ว แต่แกทำบุญครั้งละร้อยบาท ก็เป็นที่น่าแปลกใจเหมือนกัน
หลวงพ่อปาน ท่านไปพบเข้า คุยกันรู้เรื่อง แต่ว่า ท่านพบของท่าน อย่างไรก็ไม่ทราบนะ วันนั้น หลวงพ่อปาน ท่านจำวัดอยู่ ฉันนั่งข้างนอก ตอนเย็นมีคนใส่เสื้อราชปะแต็น นุ่งผ้าม่วง สวมถุงเท้า ใส่รองเท้าแบบ ชั้นดีเลย ถือไม้เลี่ยม เดินเข้ามาหา หลวงพ่อปาน
มาถึงก็ถามว่า "หลวงพ่อปานอยู่ไหม?"
ไอ้เราก็บอกว่า "อยู่ แต่ว่ากำลังจำวัด"
แกก็บอกว่า "ฮึ จำวัดอย่างไร ก็สั่งให้ฉันมาพบ ไปตามฉันมาที่นี่"
แล้วกัน หลวงพ่อปาน ท่านนอนอยู่กับเรา หาว่า ท่านไปตามมาได้ เราก็แปลกใจ แต่ก็บอกแก ให้รออยู่ข้างนอกก่อน จะเข้า ไปดูให้ พอเข้าไปก็เห็นหลวงพ่อ ท่านเตรียมตัวออกมาแล้ว เลยถามท่าน
"หลวงพ่อครับ เขาบอกว่า หลวงพ่อไปตามเขามาหาหรือ ?
หลวงพ่อปานบอก "ฮือ แกไม่ต้องรู้หรอก"
เอาอีกแล้ว ท่านบอกแกไม่ต้องรู้หรอกเป็นความลับ เออแปลกดี พอออกมาเจอกันแล้วท่านก็คุยถึงเรื่องประวัติ คุยไปคุยมา ครูผึ้งก็บอกว่า "คาถาบทนี้เป็นของพระธุดงค์ พระธุดงค์ท่านบอกว่า คาถาบทนี้เป็น คาถาของพระปัจเจกพุทธเจ้า ท่าน มาปักกลดอยู่หลังบ้าน 7 วัน ฉันก็เอาของไปถวายท่านทั้ง 7 วัน"
ตามปกติครูผึ้ง ท่านรักษาศีลอยู่แล้วก่อนที่พระธุดงค์จะไป ท่าได้ให้คาถาบทนี้ และบอกว่า "ตอนเช้าทุกวัน ควรใส่บาตรทุก วัน ก่อนจะใส่บาตรก็ให้ว่าคาถาบทนี้หนึ่งจบ แล้ววิธีใส่บาตรมีอยู่ 2 อย่างถ้าไม่มีพระจะมาให้ใช้ข้าวสารตักแทนก็ได้ แต่ว่า เดี๋ยวนี้เราใช้สตางค์ใส่บาตรแทนก็ได้ เงินนั้นให้ใช้เป็นค่าอาหาร มากน้อยตามกำลัง ไม่จำเป็นต้องไปรอพระมา ถ้าเห็นว่า มันมากพอสมควร ก็เอาไปถวายพระ บอกท่านว่า เป็นค่าอาหาร แล้วท่านจะนำไปใช้เป็นค่าอาหาร หรือเอาไปใช้ก่อสร้าง ก็ เป็นเรื่องของท่านเท่านั้นก็พอ
แล้วท่านก็บอกอีกว่า "ก่อนปลูกผัก ปลูกต้นไม้ หว่านข้าว ตำข้าว ก็ว่าคาถาบทนี้ หนึ่งจบ ตามวิธีการของท่าน เวลาบูชาพระ กลางคืนให้ว่า 3 จบ หรือ 5 จบ หรือ 7 จบก็ได้นอกจากนั้นก็ควรจะเจริญเป็นสมาธิ แต่บูชาพระกับว่าตอนใส่บาตรท่านบอก ว่า มีสภาพเป็นเบี้ยต่อไส้ หมายความว่า ถ้าจะหมดตัวจริง ๆ ก็จะหาได้ทัน
ฉันเคยโดนมาบ่อย ๆ ในระยะต้น ๆ โดนเองจึงรู้ แต่พอจวนตัว ก็จะมีมา ทุกครั้งไป ถ้าภาวนาให้จิตเป็น ฌาน จะมีผลมาก แล้วท่านก็เล่าความเป็นมาให้ฟัง
หลวงพ่อปานท่านถามว่า "เดิมทีเดียวน่ะ ท่านมีฐานะอย่างไร?"
ครูผึ้งบอกว่า "ผมอันดับหนึ่งครับ"
พอท่านพูดอย่างนั้น เราหูผึ่งเลย คิดว่าท่านเป็นมหาเศรษฐี
ท่านบอกว่า "อันดับหนึ่งน่ะไม่ใช่เศรษฐี ฉันจนอันดับหนึ่งต่างหาก"
คิดผิดถนัด ท่านบอกอีกว่า "กางเกงไม่ขาด ผมไม่เคยนุ่ง กับเขาเลย มันหาไม่ได้จริง ๆ ครับ กางเกง ที่ดีที่สุด มันมีอยู่ตัว เดียว เก็บไว้ใช้เวลาไปทำบุญที่วัด กลับมาก็ต้องรีบเก็บ นอกจากนั้น กลีบมันแย่งกันขึ้นเลย รอยขาดแย่งกันโผล่"
ท่านเล่าให้ฟังอีกเยอะ สนุก ความจริงอายุของท่านตั้ง 99 ปี แล้ว แต่ร่างกายยังแข็งแรงดีมาก ต่อมาเมื่อ ได้คาถาบทนี้ มา แล้ว ด้วยความจนบีบบังคับ ท่านก็เริ่มทำสมาธิ ตอนเริ่มทำเป็นสมาธิ พอจิตเริ่ม เข้าถึงอุปจารสมาธิ ซึ่งจะสังเกตได้ตามนี้
ถ้าสภาพเดิม มันมืดอยู่ พอจิตเข้าถึงอุปจารสมาธิ ก็จะมีสภาพ เกิดแสงสว่างขึ้นบ้าง หรือ ไม่อย่างนั้น ก็จะปรากฏ แสงสีขึ้น เห็นเป็นภาพพระหรือภาพอะไรก็แวบ ๆ อันนี้แหละ คือ อุปจารสมาธิ
นับตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา เงินมันเริ่มขังตัว การหากินคล่องขึ้น บางที ถ้าต้องการอะไร ที่มันเกินวิสัย ที่จะหาได้ แต่ว่ามัน อยากได้ เพียงไม่กี่วันหรอก อย่างดีก็ 3 -4 วัน จะมีสตางค์ พอหาซื้อของ อย่างนั้นได้ และต่อมา เมื่อทำเป็นฌาน เงินก็เริ่ม มากขึ้น
ท่านเล่าว่า "มีวิธีการปฏิบัติ เพื่อเจริญ อีกอย่างหนึ่ง แต่ว่าห้ามพูดนะถ้ารู้ว่าเงินเกิน เวลาที่เราบูชา พระด้วยคาถาบทนี้ กี่จบ เวลาที่จะเก็บสตางค์ ให้ถือสตางค์ไว้ แล้วยื่นลงไปในที่สำหรับเก็บ มือมันกำสตางค์อยู่แล้วว่า คาถาบทนี้เท่านั้นจบ ว่า เสร็จแล้วปล่อยมือออกเป็นอันว่าใช้ได้
ทีนี้เวลาที่จะนำสตางค์ไปใช้ท่านให้หยิบสตางค์อันนั้น แต่ว่าห้ามนับเงิน แล้วว่าคาถาตามจำนวนที่เราบูชาพระดึงเอาเงิน นั้นออกมา ถ้าเกินกว่าจำนวนที่เราต้องการ เวลาที่เราจะเก็บเราก็ว่า คาถาแบบนี้เหมือนกัน ถ้าทำแบบนี้ ท่าบอกว่า เงินจะ ขาดที่นั้นไม่ได้เลย
ถ้าบางครั้ง ปริมาณเงินที่เราเก็บไว้ สมมุติว่า เป็นเงิน 1,000 บาท มันเป็นปึกเราดึงมาทั้งปึก (1,000 บาท) แต่ปรากฏว่า เงินมันมีอีก ห้ามนำไปพูดกับคนอื่น ถ้าพูดเงินจะหด ท่านห้ามอวด
อันนี้นายห้างประยงค์เคยไปเล่าให้ฟังเหมือนกันท่านทำได้ผลตามนี้ ท่านบอกว่า ท่านเบิกเงินมาจากธนาคารเดือนละหมื่น แต่รายนี้รับรอง กลับถึงบ้าน ยังไม่ใช้เงิน ต้องนำเงินเข้าตู้เซฟก่อนว่า คาถาบทนี้ ตามแบบ เช้าตื่นขึ้นมา ก็ว่าตามแบบอีก เงินทุกปึกจะต้องเกินเสมอ เกินทุกปึก หนึ่งร้อยบ้าง สองร้อยบ้าง เกินอยู่ตลอดเวลา ลองคิดดูซิมีธนาคารที่ไหนบ้าง เขานับ เงินเกิน ท่านยืนยันว่า ไม่มีธนาคารไหน เขานับเกินหรอก
แต่ทว่าตามปกติ ถ้าท่านทำแบบนี้ จะต้องมีเงินเกิน นายห้างประยงค์คนนี้ ก็ทำเป็นฌานเหมือนกัน เลยถาม นายห้างประ - ยงค์ว่า ท่านทำอย่างไร ท่านบอกว่า หลังจากที่ได้คาถาบทนี้จากหลวงพ่อปาน ซึ่งตอนนั้นท่าน เพิ่งกลับมาจาก นครศรีธรรม ราช หลวงพ่อปานท่านไปแวะ ที่วัดสระเกศ คณะที่ 11 ก็มีคนนำอาหาร ไปถวายท่าน เวลาท่านฉันข้าว ท่านก็เล่าความเป็น มาของคาถาบทนี้ให้ฟัง คนทุกคนฟังแล้ว ก็ไม่มีใครสนใจ มีแต่ นายห้างประยงค์คนเดียว ซึ่งอยู่ตอนหลัง มีความสนใจ พอ หลวงพ่อปานท่านว่า คาถาบทนี้ไป แกก็จดตาม
เมื่อฉันเสร็จให้พรเสร็จ ญาติโยมทั้งหลายก็ลากลับ แต่นายห้างประยงค์ยังไม่ยอมกลับ ท่านเข้าไปหากราบๆ หลวงพ่อปาน แล้วขออนุญาตนำคาถาบทนี้ไปทำ ความจริงที่หลวงพ่อท่านพูดน่ะ ท่านจะดูว่า มีใครสนใจไหมในเมื่อคนอื่นไม่สนใจ มีแต่ นายห้างประยงค์สนใจคนเดียวท่านก็เลยบอกว่า "เออดีแล้ว ไอ้ลูกคนหัวปี"
คำว่า ลูกคนหัวปี ก็หมายความว่า คาถาบทนี้มีคนสนใจเป็นคนแรกและก็คนเดียว ท่านบอกว่าให้เอาไปลองทำ แล้วท่านก็ บอกรายละเอียดในการทำให้ฟัง แล้วก็สั่งว่า "ถ้าเอ็งทำสองปีไม่มีผล หลวงพ่อจะไม่สอนใครเลย" ตอนนั้น ท่านให้นายห้าง ประยงค์ทดลองทำก่อน ที่ไหนได้ ผลปรากฏพอครบ 2 ปี นายห้าง ประยงค์ก็ไปวัด ไปเล่าให้ฟัง บอกว่า
"เมื่อก่อนนี้ครับ ก่อนที่ผมจะได้คาถาบทนี้ไป ถ้าเดือนไหน ห้างผมขายของได้กำไรถึงสองร้อยบาท (สองร้อยบาทเป็นกำไร สุทธินะ) เดือนนั้นสองผัวเมียนอนไม่หลับ ดีใจ"
ก็เลยถามท่านว่า "เวลานี้ละ เป็นอย่างไรบ้าง?"
ท่านบอกว่า "แหม หมื่นหนึ่งยังเฉย ๆ เลยครับ"
ต่อมาหลวงพ่อปานก็ให้นายห้างประยงค์ออกสตางค์สร้างวัดเขาสะพานนาค นายห้างประยงค์ถามว่า
"จะเอาเงินเท่าไหรจึงจะพอครับ"
ท่านบอก "ทำไปเรื่อย ๆ มีเงินเป็นทุนสำรองไว้ประมาณ 2 หมื่นบาท"
หลวงพ่อปานสั่งว่า "ถ้าเอ็งจะเอาเงินไหน ไปเป็นทุนสำรอง เอ็งเอาเงินนั้นมาให้พ่อก่อนนะ"
แล้วนายห้างประยงค์ ก็เอาเงินมาให้หลวงพ่อปาน แทนที่หลวงพ่อปาน ท่านจะเอาไว้ ท่านก็เอาเงินจำนวนนี้ มาเสกด้วยคา ถาวิระทะโยอีก 7 คืน และท่านก็สั่งให้เงินนั้นกลับไป
ท่านสั่งว่า ถ้าเวลาที่พ่อสั่งก็เอามาให้ เอ็งเอาเงินกองนี้นะ ห้ามเอากองอื่น"
เวลาที่ท่านสั่งให้เอาเงินมาเขาก็เอาเงินกองนั้นแหละมาให้หยิบเข้าหยิบออกอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งสร้างวัดเขาสะพานนาค เสร็จ เงินยังเหลือ 2 หมื่น
แหม...คนแบบนี้ซวยจัด ที่ว่าซวยเพราะอะไรรู้ไหม ก็ซวยตรง...ที่ไม่รู้จักคำว่าจนไงล่ะ เงินหมดไม่เป็น
ต่อมาเราก็ย่องไปถามท่านว่า "มันเป็นอย่างไร"
นายห้างประยงค์บอกว่า "หลวงพ่อปานท่านสั่งไว้ว่าก่อนจะหยิบก็ต้องว่าคาถาบทนี้เท่านั้น เวลาเก็บก็ต้องว่าจำนวนเท่ากัน"
ท่านทำตาม หลวงพ่อปาน ทั้งหมด ตอนเช้าตื่นขึ้นมา ท่านจะต้องทำเป็นสมาธิก่อน แล้วจึงใส่บาตร ก่อนไป ห้างก็สวดมนต์ ด้วยคาถาบทนี้ ยามว่างตอนนั่งรถไปทำงานท่านก็ว่า คาถาบทนี้ไป เมื่อจิตมันว่างมันก็เข้า ฌาน พอตอนเย็นกลับบ้าน อาบ น้ำเสร็จ รับประทานอาหารเสร็จ ทำสมาธิพักหนึ่งก่อน และก่อนจะนอน ถ้าไม่ปวดเมื่อยท่านก็นั่งสมาธิ ถ้าปวดเมื่อย ก็นอน ว่า จนหลับไป
นายห้างประยงค์บอกว่า ตั้งแต่จิตเริ่มเข้าอุปจารสมาธิ จะเห็น พระพุทธเจ้าบ้าง พระสงฆ์บ้าง นับตั้งแต่ ตอนนั้น เป็นต้นมา เงินค้างเรื่อยมา ก็มีวาระแรก ที่เงินค้างมากเกินไป สองคนผัวเมียเกือบทะเลาะกัน ต่างคนต่างหาว่าเอาเงินไปซุกไว้
เมียบอกว่า "ทำไมคุณเอาเงินมาไว้แล้วไม่บอกฉัน" นายห้างประยงค์บอก "ฉันไม่เคยเก็บเงิน เธอเป็นคนเก็บ เธอเป็นคน เอามาไว้ แล้วทำไมจึงไม่จำ"
ไล่ไปไล่มานึกถึงผลของคาถาบทนี้ ได้คิดว่าน่ากลัวจะเป็นผลของการทำคาถาบทนี้แน่ ๆ เพราะหลวงพ่อ ปานท่านสั่งว่า ถ้า ผลมันเกิดขึ้นมาแล้วอย่าโวยวาย ต่างคนต่างนึกขึ้นมาได้ก็เลยเงียบ
จำไว้นะทุกคน ที่ได้คาถาบทนี้ไปแล้ว ควรท่องคาถานี้ให้ชิน แล้วก็ทำเป็นสมาธิเหมือนๆ กับที่เราทำนี่แหละ ผลมันเท่ากัน ผลที่เราพึงจะได้รับก็คือ จิตเป็นสมาธิ และก็สตางค์ขังตัว คือ ไม่ขาดมือ
***หมายเหตุ
คาถาวิระทะโยนี้ เป็นคาถาเริ่มแรกดั้งเดิม หรือคาถาที่หลวงพ่อปาน ท่านนำมาเผยแพร่แล้วต่อมา หลวงพ่อพระราชพรหมยานก็ได้มาต่อเติมให้เป็นคาถาเงินล้านในปัจจุบัน จึงถือว่า เป็นที่มาหรือเป็นส่วนหนึ่ง ของคาถาเงินล้านนั่นเอง ดังนั้นถ้าจะภาวนา ก็ให้ใช้คาถาเงินล้านได้เลย มีในหนังสือท้ายบท
**** คัดมาจากหนังสือธัมมวิโมกข์ ****
**********************************************************************
บันทึกการเข้า
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
ส่งหัวข้อนี้
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
การเข้าใช้งาน หน้าร้านดีดี.com
-----------------------------
=> ป้ายร้านค้า/หน้าร้านดีดี
=> การเข้าล็อคอิน-บอร์ด-หน้าร้านดีดี ครั้งแรก
=> การเข้าหลังบ้าน-เว็บลูกค้า-หน้าร้านดีดี
-----------------------------
ห้องพูดคุยทั่วไป
-----------------------------
=> พูดคุยทั่วไป-ชุมชนออนไลน์หน้าร้านดีดี.com
=> ห้องหนัง-ภาพยนตร์
=> ห้องข่าว
=> ประวัติคนดัง
=> ห้องท่องเที่ยว
=> ห้องอาหารการกิน
=> ปั๊มเติมแก๊ส LPG
=> ห้องเกาหลี
-----------------------------
Special Zone
-----------------------------
=> ห้องเคล็ดลับสุขภาพ ความงาม
=> ห้องเคล็ดลับคลินิกรัก
=> ห้องสมุนไพรน่ารู้
=> ห้องสูตรอาหาร
-----------------------------
Holoworld
-----------------------------
=> ห้องดวง-ราศี
=> ดวงชะตาคนดัง
=> ภาพพิธีกรรมต่างๆ
=> วิชาพยากรณ์ต่างๆ
=> รวมดูดวงฟรี
===> ดูดวง,ประจำราศีโดย อ.นัท
===> ดูดวงฟรี ประจำเดือน (หมอดู ฮาว-ทู)
===> ดูดวงคำพยากรณ์ดวงฟรีประจำเดือน โดย อ.ภคนนท
-----------------------------
Entertain Zone
-----------------------------
=> ห้องบทกวี
===> ห้องบทกลอน
===> ห้องบทเพลงลูกทุ่ง
===> ห้องเพลงสตริง
=====> ติ๊กชีโร่
=====> แอม เสาวลักษณ์
=====> ดา เอ็นโดรฟิน
=====> เสก โลโซ
=> เรื่องราวแบ่งปันรอยยิ้ม
=> ห้องดูของแปลก
=> เรื่องขำขัน เฮฮา
=> ห้องตรวจผลสลาก
===> ผลการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล
-----------------------------
คนรักเชียงใหม่,ลำพูน,
-----------------------------
=> ห้องพูดคุยของคนรักเชียงใหม่,ลำพูน
=> ข่าวเชียงใหม่,ลำพูน
=> คนเด่นคนดังเชียงใหม่,ลำพูน
=> ตะลุยเดี่ยวกินเที่ยว กับ รวิวรรณ
-----------------------------
คนรักเมืองนนทบุรี,ปทุมธานี
-----------------------------
=> รวมข้อมูลจังหวัดนนทบุรี
=> ห้องพูดคุยของคนรักเมืองนนท์,ปทุมธานี,
=> ข่าวเมืองนนทบุรี,ปทุมธานี
-----------------------------
คนรักเมืองระยอง,ชลบุรี,จันทบุรี
-----------------------------
=> รวมข้อมูลจังหวัดระยอง
=> รวมข้อมูลจังหวัดชลบุรี
=> ห้องพูดคุยทั่วไปคนรักเมืองระยอง,ชลบุรี,จัน
=> ห้องโปรโมท-คนเมืองระยอง,ชลบุรี,จันทบุรี
=> ข่าวสารเมืองระยอง,ชลบุรี,จันทบุรี
-----------------------------
Information Zone
-----------------------------
=> ข่าวประชาสัมพันธ์ / จังหวัด
===> กรุงเทพมหานคร
=> แจ้งข่าวฝาก-ข่าวเตือนภัย
=> ห้องรวมโปรโมชั่น-ของถูก
=> ห้องโปรโมทร้านค้าต่างๆ
=> ประกาศรับสมัครงาน
-----------------------------
Zafira Club
-----------------------------
=> zafira-ห้องแนะนำตัว
=> zafira-ห้องแก้ปัญหาการใช้งานของรถซาฟิร่า
=> zafira-ห้องอยากซื้อ-อยากขาย
-----------------------------
คนรักเครื่องเสียงรถยนต์
-----------------------------
=> ห้องพูดคุยของคนรักเครื่องเสียงรถยนต์,
=> จัดชุดโปรโมชั่น
=> ประกาศรับสมัครงาน
=> ร้านเครื่องเสียงรถยนต์
-----------------------------
ชุมชนคนรักรถ
-----------------------------
=> carlover club
===> Chevrolet
=====> CAPTIVA Club
=====> OPTRA Club
=====> AVEO Club
===> Honda
=====> City
=====> Jazz
===> Toyota
=====> Vigo
=====> Yaris
=====> Fortuner
=====> Vios
===> Isuzu
===> Proton
-----------------------------
ศาสนา & วัดวาอาราม & สวนสาธารณะ & พิพิธภัณฑ์
-----------------------------
=> ศาสนา-วัดวาอาราม-พระอารามหลวง
===> ข่าวฝากจากทางวัด
=> คริสต์ศาสนา
=> พระราชวัง & พระที่นั่ง
=> ศาลเจ้า
=> พิพิธภัณฑ์ & สมาคม
=> สวนสาธารณะ
=> ตลาด & ตลาดน้ำ
-----------------------------
เกษตร Zone
-----------------------------
=> ปลา
===> ปลากะพง
===> ปลาหมอสี
===> ปลาทอง
=> ไก่
===> ไก่ชน
=> จิ้งหรีด
=> การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
-----------------------------
พระเกจิอาจารย์
-----------------------------
=> พระเกจิอาจารย์
===> ครูบาเจ้าศรีวิชัย
===> หลวงปู่ทวด วัดช้างให้
===> หลวงพ่อโต วัดระฆัง
===> หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ
===> หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
===> หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
===> หลวงพ่อทบ ธมฺมปณฺโญ วัดช้างเผือก
===> หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
===> หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
===> หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
===> หลวงปู่เส็ง วัดบางนา
===> หลวงปู่ทิม อตฺตสนฺโต
===> หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
===> หลวงปู่นอง วัดวังศรีทอง
===> หลวงพ่อศรีเมือง
===> พ่อปั้น กตปณฺโณ
===> หลวงพ่อโกย ชุติมนฺโต
===> หลวงพ่อโป่ย ปัญญาทีโป
===> หลวงพ่อสีห์ สีหะเตโช
===> หลวงพ่อสมจิตร สุจิตฺโต
===> พระอาจารย์สุนทร นนฺทปญฺโญ
===> หลวงพ่อเอิบ วัดขนมหม้อแกง
===> หลวงปู่คำบุ คุตตจิตโต
===> หลวงปู่อิน เขมเทโว
===> หลวงพ่อตัด วัดชายนา
===> หลวงพ่อท่านเอื้อม วัดบางเนียน
=> พระคาถา
===> แนวปฎิบัติกรรมฐาน
===> พระคาถามนต์พิธี
===> ประวัติพระเจ้า10ชาติ
===> พญานาคราช
===> พญาครุฑ
===> ตู้พระธรรมเถระเจ้า
===> รวมคาถาพระเกจิ
=====> พระคาถา-ทั่วไป
=====> รวมพระคาถาบูชาพ่อแก่ & ฤาษี108
=====> รวมพระคาถาบูชาพระพุทธรูป
=====> รวมพระคาถาบูชาเทพวีรกษัตริย์ไทยทั้งหลาย
=====> รวมพระคาถาบูชาเทพต่างๆทั้งหลาย
=====> รวมพระคาถาต่างๆ
===> อานิสงส์การทำบุญ
กำลังโหลด...