การนำพันธุ์พืชออกปลูกในสภาพธรรมชาติ
ต้นพืชที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ จะมีรูปร่างทรงต้นเหมือนต้นพืชปกติในสภาพธรรมชาติ เพียงแต่มีขนาดเล็กโดยเฉลี่ย ควรจะมีความสูงประมาณ 4-8 ซม. มีใบไม่ต่ำกว่า 4 ใบ จำนวนรากไม่ต่ำกว่า 4 เส้น ความยาวรากอยู่ระหว่าง 3-5 ซม. เมื่อนำออกจากขวดเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อจะต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เปรียบเสมือนการดูแลเด็กอ่อน เนื่องจากต้นพืช ยังมีการสร้าง สารคิวติน (cutin) ที่ทำหน้าที่ควบคุมการสูญเสียน้ำจากใบน้อย ในขณะที่ปากใบยังเปิดกว้าง เมื่อนำออกมา สัมผัส กับอากาศ ที่มีสภาพแวดล้อม ทั้งแสง อุณหภูมิ ความชื้น ไม่สม่ำเสมอตลอดเวลา พืชจะคายน้ำมากขึ้น ทำให้เหี่ยวเฉาและตายได้ง่าย ดังนั้น การย้ายพืชเนื้อเยื่อจากอาหารวุ้นเพื่อปลูกในสภาพธรรมชาติ ต้องระมัดระวังเรื่องอัตราการสูญเสียน้ำของพืชเป็นพิเศษ จึงต้อง แบ่งเวลาดูแลพันธุ์พืชเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อที่เพิ่งนำออกปลูก ออกเป็น 2 ระยะ เรียกว่า การอนุบาลระยะที่ 1 และการอนุบาลระยะที่ 2
การอนุบาลระยะที่ 1 เป็นระยะที่ต้นพืชต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ด้วยการควบคุมปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ อุณหภูมิ ความชื้น และความเข้มแสงที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชชนิดนั้นๆ เป็นช่วงเวลาการดูแลไม่ต่ำกว่า 30 วันตั้งแต่ย้ายปลูก
การอนุบาลระยะที่ 2 เป็นการดูแลต่อจากระยะที่ 1 อีก 30-45 วัน ระยะนี้พืชจะมีความ แข็งแรงและปรับตัวเข้ากับสภาพ แวดล้อม ได้มากขึ้นเมื่อผ่านการอนุบาลระยะที่ 2 แล้ว รวมทั้งสิ้นประมาณ 60-75 วัน ต้นพันธุ์พืชนั้น ๆ (บางชนิด) จะสามารถ ย้ายปลูก ในสภาพปลูกเลี้ยงปกติได้
การอนุบาลพันธุ์พืชจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อตลอดระยะเวลา 60-75 วัน เป็นกระบวนการที่มีความสำคัญควบคู่ไปกับ การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อหรือจัดเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของกระบวนการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช ดังนั้นการศึกษาหาแนวทาง การผลิตพันธุ์พืชโดยวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อในเชิงเศรษฐกิจหรืออุตสาหกรรม ต้องควบคู่ไปกับการนำพืชออกปลูกในสภาพธรรมชาติ
ด้วยเสมอ

กล้วยระยะอนุบาล 1
กล้วยระยะอนุบาล 2
ขั้นตอนการนำพืชเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อออกปลูก
ก่อนเข้าถึงขั้นตอนการดูแลหรือการอนุบาลพืชเนื้อเยื่อระยะต่างๆ ควรมีการปรับสภาพพืชให้เริ่มเรียนรู้และค่อยๆ ปรับตัว
อยู่กับสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติได้ โดยเพิ่มความเข้มแสง ลดความชื้นภายในภาชนะลดลง อาจใช้วิธีนำขวดเนื้อเยื่อพืช
ออกมาวาง ในสภาพอุณหภูมิห้องที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ระยะเวลา 2-3 วันแรกตามลำดับ ดังนี้

1. ปรับสภาพเนื้อเยื่อพืช 2-3 วัน
ก่อนปลูกในสภาพอุณหภูมิห้องปกติ
ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
2. นำต้นพืชออกจากภาชนะที่เพาะเลี้ยง
ด้วยฟอร์เซบหรือปากคีบ

3. ล้างอาหารวุ้นที่ติดอยู่บริเวณ
รากพืชออกให้หมดด้วยน้ำไหล
ที่ไม่แรงเกินไป เพราะอาจทำให้
รากขาดได้

4. นำต้นพืชแช่สารป้องกันเชื้อรา
และแบคทีเรียเป็นเวลา 3-5 นาที
ก่อนปลูก เพื่อป้องกันโรคต้นเน่า
เนื่องจากพืชยังอ่อนแอต่อการ
เข้าทำลายของเชื้อโรค

5. นำมาปลูกในถาดเพาะชำ
หรือเข้าสู่การอนุบาลระยะที่ 1
และระยะที่ 2 ตามลำดับ
*********************************