การอนุบาลระยะที่ 1

1. ทำหลุมเล็กๆในวัสดุปลูกภายในถาดหลุม

2. ใช้ปากคีบจับโดนต้นพืชนำลงปลูก

3. กลบวัสดุปลูกให้มิดรากหรือ
มิดโคนต้นพอดี เพราะถ้ารากโผล่
พ้นวัสดุปลูกสัมผัสกับอากาศ อาจทำให้
รากและต้นพืชเหี่ยวตายได้
การดูแลต้นพืชในระยะอนุบาล 1
จำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษทั้งเรื่องอุณหภูมิ ความชื้น และความเข้มแสง ดังนี้
ความเข้มแสง ไม่ควรให้มีความเข้มแสงเกิน 60% เพราะพืชยังมีขนาดเล็กมาก อาจใช้ซาแลนคลุมพลางแสงในระยะ 1-2 สัปดาห์แรกของการย้ายปลูก

พืชในโรงเรือนคลุมด้วยซาแรนพรางแสง
อุณหภูมิ
ปรับสภาพโรงเรือนให้อยู่ในระดับ 28-30 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าห้องปฏิบัติการเล็กน้อย
การให้น้ำ
ควรให้ความสำคัญกับปริมาณและระบบการให้น้ำเพราะต้นพืชมีขนาดเล็กต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษในระยะแรก พืชต้องได้รับน้ำที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต รวมทั้งยังไม่แข็งแรงพอที่จะรับแรงกระแทกของน้ำแรงเกินไป พืชจะเริ่มตั้งตัว หลังอนุบาลประมาณ 10-20 วัน และจะเริ่มสร้างใบใหม่ซึ่งมีสารคิวตินเคลือบใบทำให้เกิดความสมดุล ของระบบการดูดน้ำ และคายน้ำ
การให้ปุ๋ย
วัสดุปลูกที่ใช้ในระยะอนุบาล 1 จะเน้นเรื่องคุณสมบัติของการระบายน้ำที่ดี นิยมใช้ทรายผสมขี้เถ้าแกลบ ซึ่งวัสดุ ดังกล่าวจะมีองค์ประกอบของธาตุอาหารน้อยมาก ไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืชจำเป็นต้องให้ปุ๋ยน้ำเสริมทางใบ โดยเฉพาะธาตุไนโตรเจนเพื่อการเจริญเติบโตทางลำต้น ความเข้มข้นของปุ๋ยที่ใช้ อาจใช้เพียง 0.25 หรือ 0.5 ของคำแนะนำ หลังจากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ จึงค่อยๆปรับความเข้มข้นขึ้น
ความชื้นสัมพัทธ์ (RH)
ต้นเนื้อเยื่อพืชที่เจริญเติบโตในอาหารวุ้นเป็นพืชที่เจริญเติบโตภายใต้สภาพที่มีความชื้นค่อนข้างสูง
ประมาณ 90-100% ดังนั้น การย้ายพืชปลูกในโรงเรือนหรือระยะอนุบาล 1 ในช่วง 10 วันแรกของการย้ายปลูกควรรักษาความชื้น ภายในโรงเรือนไว้ที่ 85-90% อาจด้วยการทำ microclimate ให้กับพืชด้วยการนำพลาสติกขาวขุ่นทำเป็นกระโจมหรืออุโมงค์สูง
ประมาณ 70 ซม. คลุมพืชไว้และทำการฉีดพ่นน้ำเข้าไปภายในกระโจมเพื่อให้มีความชุ่มชื้นอยู่ในช่วงที่กำหนด

พืชที่ปลูกในกระโจมพลาสติก
******************************************