Username:

Password:



  • หน้าแรก
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • ปฏิทิน
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
  • กลับหน้าร้านค้าออนไลน์
หน้าร้านดีดี บอร์ด ห้องพูดคุยทั่วไป ห้องข่าว (ผู้ดูแล: ka1, jacky, okay) ฟันธงกนง.คงดอกเบี้ย รับมือศก.โลกผันผวน
หน้า: [1]   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
ส่งหัวข้อนี้พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ฟันธงกนง.คงดอกเบี้ย รับมือศก.โลกผันผวน  (อ่าน 3848 ครั้ง)
ka1
Global Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 496


เราจะทำเพื่อสังคม ทีมงานหน้าร้านดีดี.คอม


ฟันธงกนง.คงดอกเบี้ย รับมือศก.โลกผันผวน
« เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2012, 01:29:00 AM »

ฟันธงกนง.คงดอกเบี้ย รับมือศก.โลกผันผวน

กสิกรไทยมองการประชุมกนง.วันนี้ คงดอกเบี้ย 3.0% รับมือเศรษฐกิจโลกผันผวน แนะจับตาความก้าวหน้าแก้ปัญหาหนี้ยุโรป-ท่าทีเฟดออกQE3-ปัญหาการเมือง

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ประเมินว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย (กนง.) จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 3.00% ในการประชุมรอบที่ 5 ของปีในวันที่ 25 กรกฎาคม 2555 นี้ เพื่อดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก อันเป็นผลจากความไม่แน่นอนของการแก้ปัญหาหนี้ยุโรป ความเสี่ยงในการหดตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากประเด็นด้านการคลังทั้งมาตรการภาษีที่จะสิ้นสุดลงและแผนตัดลดงบประมาณอัตโนมัติ ซึ่งอาจส่งผลทางลบอย่างมากต่อเศรษฐกิจ (Fiscal Cliff) รวมไปถึงแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ขณะที่ ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่ยังไม่เร่งตัวสูงในเวลาอันใกล้นี้ ทำให้ กนง.พอจะมีช่องว่างในการดำเนินนโยบายที่เอื้อต่อการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่อไป

แม้ในช่วงเดือนที่ผ่านมา หลายธนาคารกลางสำคัญในโลกมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวมถึงเข้าซื้อตราสารเพิ่มเติม เพื่อดูแลความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า โอกาสที่ กนง.จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงนั้น ยังมีจำกัด ภายใต้ภาพการฟื้นตัวจากปัญหาอุทกภัยของเศรษฐกิจไทยที่ทยอยมีความชัดเจนมากขึ้นตามลำดับ และเศรษฐกิจไทยก็น่าที่จะสามารถรักษาแรงส่งของการขยายตัวไว้ได้ในระยะที่เหลือของปี จากแรงขับเคลื่อนด้านการใช้จ่ายภายในประเทศเป็นหลัก

นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยนโยบายและอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่แท้จริง ซึ่งขณะนี้มีค่าติดลบอยู่นั้น ก็สะท้อนว่าจุดยืนเชิงนโยบายการเงินของ กนง.ในปัจจุบัน ถือเป็นระดับที่ยังเอื้อต่อการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจแล้วในระดับหนึ่ง

ขณะที่ เมื่อมองไปในระยะข้างหน้าแล้ว ยังคงมีแนวโน้มที่เงินเฟ้อในประเทศจะปรับสูงขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วงปลายปี จากความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก การสิ้นสุดของมาตรการเพื่อบรรเทาค่าครองชีพของภาครัฐ และการส่งผ่านต้นทุนการผลิตไปยังราคาสินค้าทั่วไปของผู้ประกอบการ นอกเสียจากว่าความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกประเทศจะเพิ่มขึ้นและกระทบต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งในกรณีนั้น ก็มีความเป็นไปได้ที่ กนง.อาจพิจารณาทบทวนจุดยืนเชิงนโยบายเพื่อความเหมาะสมต่อไป

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม นอกจากพัฒนาการเศรษฐกิจหลักในโลก และความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาหนี้ยุโรปแล้ว คงจะได้แก่ ท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่อการดำเนินมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม ที่แม้คงยากจะประเมินถึงประสิทธิผลทางเศรษฐกิจ แต่ย่อมส่งผลต่อความเคลื่อนไหวของตลาดการเงินโลก

ด้านปัจจัยในประเทศนั้น ประเด็นการเมือง และการใช้จ่ายของภาครัฐ จะยังคงมีอิทธิพลต่อความเชื่อมั่นและบรรยากาศการลงทุน ในขณะเดียวกัน ความต่อเนื่องของการเบิกจ่ายและความต้องการระดมทุน คงจะมีผลต่อแนวโน้มสภาพคล่องในระบบการเงินด้วยเช่นกัน



ที่มา:
BangkokBizNews
Last update : 7/25/2012 11:27:05 AM

---------------------------------
บันทึกการเข้า

เราจะเป็นผู้ให้ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
(หากมีแต่ ผู้ขอ แล้วคัยจะเป็นผู้ให้ละ)
หน้า: [1]   ขึ้นบน
ส่งหัวข้อนี้พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.10 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
Nt-Sun Theme by N a t i
กำลังโหลด...