Username:

Password:



  • หน้าแรก
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • ปฏิทิน
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
  • กลับหน้าร้านค้าออนไลน์
หน้าร้านดีดี บอร์ด ห้องพูดคุยทั่วไป ห้องข่าว (ผู้ดูแล: ka1, jacky, okay) หนี้ไทยบานมัดรัฐบาลอ่วม
หน้า: [1]   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
ส่งหัวข้อนี้พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: หนี้ไทยบานมัดรัฐบาลอ่วม  (อ่าน 2766 ครั้ง)
ka1
Global Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 496


เราจะทำเพื่อสังคม ทีมงานหน้าร้านดีดี.คอม


หนี้ไทยบานมัดรัฐบาลอ่วม
« เมื่อ: ธันวาคม 22, 2012, 05:23:52 AM »

หนี้ไทยบานมัดรัฐบาลอ่วม

ปัญหาหนี้สาธารณะของไทย เป็นดินพอกหางหมู ถือเป็นภัยคุกคามการทำงานของรัฐบาลให้อยู่ยากมากขึ้นทุกวัน

เพราะนับตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ 1 ปีเศษ ได้เดินหน้าโครงการประชานิยมลดแลกแจกแถมแบบเข้มข้น ชนิดเสียหายเท่าไรไม่ว่าขอให้ได้เสียงการเมืองเป็นสำคัญ

แม้ว่ารัฐบาลจะยืนกระต่ายขาเดียวว่าหนี้สาธารณะไทยไม่มีปัญหา แต่นักวิชาการก็เรียงแถวออกมาไม่เห็นด้วย และติงรัฐบาลอย่างหนักหน่วงว่า กำลังพาประเทศไทยเดินตามรอยประเทศกรีซใช้จ่ายเกินตัว จนมีปัญหาหนี้ท่วมประเทศ เศรษฐกิจล่มจมลุกลามเป็นวิกฤตของยุโรปจนแก้ไม่ตกถึงทุกวันนี้

เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะแนวโน้มหนี้สาธารณะของไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยกระทรวงการคลังรายงานหนี้สาธารณะล่าสุด เดือน ก.ย. 2555 มีจำนวน 4.93 ล้านล้านบาท คิดเป็น 40.22% ของจีดีพี เทียบกับหนี้เดือน ส.ค. 2554 ที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศ หนี้อยู่ที่ 4.26 ล้านล้านบาท หรือ 40.22% ของจีดีพี

จากข้อมูลจะเห็นว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันที่เข้ามาบริหารประเทศสร้างหนี้เพิ่มให้กับประเทศสูงถึง 67 แสนล้านบาท หากคิดเป็นสัดส่วนของจีดีพีปัจจุบันกันสูงถึง 67%

หนี้ที่เพิ่มขึ้นปฏิเสธไม่ได้ว่า มาจากโครงการประชานิยมของรัฐบาล เฉพาะโครงการรับจำนำข้าวอย่างเดียวใช้เงินไป 3.5 แสนล้านบาท เป็นเงินกู้ 2.6 แสนล้านบาท และเป็นเงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 9 หมื่นล้านบาท

ในส่วนของเงินกู้ 2.6 แสนล้านบาทนั้น หากเทียบกับหนี้ที่รัฐบาลสร้างเพิ่มขึ้นมาตลอดหนึ่งปี คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของหนี้ทั้งหมด

ซึ่งที่น่าเป็นห่วง คือ การรับจำนำข้าวยังมีการรับจำนำรอบ 2 ที่ต้องใช้เงินอีก 4 แสนล้านบาท เป็นการกู้เงินเพิ่มอีก 1.5 แสนล้านบาท เป็นการพอกหนี้ให้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

กิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลก สำนักงานประเทศไทย ออกมาระบุว่า รัฐบาลจะขาดทุนจากการรับจำนำข้าวปีละกว่า 1 แสนล้านบาท คิดเป็น 1% ของจีดีพี ซึ่งจะส่งผลให้หนี้สาธารณะของไทยในปี 2556 แตะระดับ 50% ของจีดีพี

ก่อนหน้านี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ออกมาเตือนรัฐบาลว่า โครงการรับจำนำข้าวจะทำให้หนี้สาธารณะไทยเพิ่มขึ้นเป็น 61% ในปี 2556

ขณะที่ สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เตือนรัฐบาลว่า โครงการรับจำนำข้าวจะทำให้หนี้สาธารณะพุ่งเป็น 7080% ในปี 2562

การที่นักวิชาการทั้งหมดพุ่งเป้าไปที่โครงการรับจำนำข้าวเป็นระเบิดเวลาหนี้สาธารณะไทย เพราะเป็นโครงการใช้เงินกู้จำนวนมหาศาล เป็นการทำต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด เกิดประโยชน์กับเศรษฐกิจน้อย เงินไม่ถึงมือชาวนา โดยส่วนใหญ่ตกอยู่ในมือนายทุนและนักการเมือง

ขณะที่โครงการประชานิยมอื่นๆ มีความน่าเป็นห่วงน้อยกว่า เพราะทำครั้งเดียวจบ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถคันแรก บ้านหลังแรก ที่ใช้เงินรวมกันถึง 1 แสนล้านบาท การพักหนี้ดีที่ต้องใช้เงิน 45 หมื่นล้านบาท การอุดหนุนราคาพลังงานทั้งการลดภาษีน้ำมัน การอุดหนุนราคาก๊าซ ต้องใช้เงินรวมกันอีกกว่า 1 แสนล้านบาท ทั้งหมดส่งผลกระทบให้หนี้ของประเทศเพิ่มขึ้นทั้งนั้น

ซึ่งที่นักวิชาการเป็นห่วงอย่างมากสำหรับหนี้สาธารณะ คือ แนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหนี้ที่เพิ่มขึ้นถูกนำไปใช้ในโครงการที่ไม่เป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจ กลายเป็นว่าหนี้เพิ่ม แต่เศรษฐกิจไม่โต สุดท้ายทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะเข้าสู่วิกฤตที่สุด

สมชัย กล่าวว่า เศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกที่มีความเสี่ยงผันผวนสูง จะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการทำสมมติฐานพบว่า หากเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 5% ต่อปี อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.5% หนี้สาธารณะของไทยจะไม่มีปัญหา จาก 44% ของจีดีพี ในปี 2555 จะเพิ่มเป็น 58% ในปี 2562

ขณะที่สมมติฐานเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 5% ต่อปี แต่มีการรับจำนำข้าวรอบ 2 อีก 4 แสนล้านบาท จะทำให้สัดส่วนหนี้สูงเป็น 65% ในปี 2562 เกินกรอบความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนดไว้ 60% ของจีดีพี

นอกจากนี้ ยังมีสมมติฐานหากเศรษฐกิจขยายตัวได้ 3.5% ต่อปี เงินเฟ้อ 2% หนี้สาธารณะของไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 64% ของจีดีพี ในปี 2559 และ 78% ในปี 2562

จากสมมติฐานของทีดีอาร์ไอ ชี้ให้เห็นว่า หากเศรษฐกิจขยายตัวดีหนี้สาธารณะไทยจะไม่มีปัญหา แต่แม้ว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดี แต่มีการกู้เงินไปใช้ในโครงการที่เกิดประโยชน์หนี้สาธารณะของไทยจะมีวิกฤตทันที

ที่สำคัญกว่านั้น หากมีปัจจัยทางเศรษฐกิจผันผวนขยายตัวไม่อย่างที่คิด หนี้สาธารณะของไทยจะเข้าสู่หายนะเหมือนประเทศกรีซในทันที

ปัญหาดังกล่าว เป็นเรื่องที่รัฐบาลรู้อยู่เต็มหัวอก ทำให้ในปี 2555 รัฐบาลพยายามจะปั่นเศรษฐกิจให้โตได้ 78% ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการสร้างผลงานรัฐบาลบริหารเศรษฐกิจได้เก่งแล้ว อีกส่วนหนึ่งต้องการกลบหนี้ที่ก่อขึ้นเป็นจำนวนให้มีสัดส่วนที่ต่ำเมื่อเทียบกับจีดีพี

แต่ทว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้ง่ายอย่างที่รัฐบาลคิด เพราะเกิดปัญหาน้ำท่วม ปัญหาวิกฤตหนี้ในยุโรป ทำให้การส่งออกของไทยทรุดหนัก การขยายตัวทำได้อย่างเก่งที่ระดับ 55.5% เท่านั้น ซึ่งว่าไปแล้วเป็นระดับที่สูง

อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลต้องกู้เงินจำนวนมากในอนาคต ทั้งจากการขาดดุลงบประมาณ 3 แสนล้านบาท เงินกู้ พ.ร.ก.น้ำ อีก 3.5 แสนล้านบาทที่ค้างอยู่และต้องกู้ให้หมด การเดินหน้าออก พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ล้วนแต่เป็นหนี้ก้อนโตของประเทศที่จะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้นี้ทั้งนั้น

ดังนั้น การที่เศรษฐกิจขยายตัวได้ในระดับปกติ อาจจะไม่เพียงพอทำให้สัดส่วนหนี้ของประเทศเมื่อเทียบกับจีดีพีอยู่โซนที่ปลอดภัยได้

ยิ่งเศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวนคาดการณ์ได้อยาก อะไรก็เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจไทยได้ทั้งนั้น อย่างน้อยก็บทเรียนเรื่องการส่งออกของไทยที่เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยที่ปี 2555 คาดการณ์จะโต 15% ทำได้จริงไม่ถึง 1 ใน 3 ขณะที่ปีนี้รัฐบาลตั้งเป้าจะทำให้ได้ 89% แต่ก็มีบางสำนักออกมาพยากรณ์ว่าจะไปไม่ถึง นั้นหมายความว่า เศรษฐกิจไทยปี 2556 ที่คาดว่าจะโตได้ 4.55% ก็ทำท่าจะไปไม่ถึงฝั่ง

นี้ยังไม่รวมกับปัญหาการเมืองภายในประเทศ ที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถืออย่างสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ ออกมาฟันธงว่าเป็นอุปสรรคของการขยายตัวเศรษฐกิจไทย เพราะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองบ่อยเกินไปตั้งแต่ปี 2549 ที่ผ่านมา

ทั้งหมดเป็นเรื่องที่นักวิชาการแสดงความเป็นห่วงเรื่องหนี้ของประเทศ เพราะ 2 เรื่องวิ่งสวนทางกัน คือ การก่อหนี้ของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่เศรษฐกิจไทยทรงกับทรุดมีความผันผวนสูง ความเสี่ยงวิกฤตหนี้สาธารณะจึงเป็นภัย ที่รัฐบาลเป็นคนก่อขึ้นรัดคอรัฐบาลและเศรษฐกิจของประเทศเองแท้ๆ

ซึ่ง อัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ ของ ทีดีอาร์ไอ อวยพรให้รัฐบาลได้อยู่บริหารประเทศนานๆ เพื่อแก้ไขปัญหาที่ตัวเองก่อเอาไว้


Post Today
Last update : 12/21/2012 10:40:01 AM
บันทึกการเข้า

เราจะเป็นผู้ให้ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
(หากมีแต่ ผู้ขอ แล้วคัยจะเป็นผู้ให้ละ)
หน้า: [1]   ขึ้นบน
ส่งหัวข้อนี้พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.10 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
Nt-Sun Theme by N a t i
กำลังโหลด...