Username:

Password:



  • หน้าแรก
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • ปฏิทิน
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
  • กลับหน้าร้านค้าออนไลน์
หน้าร้านดีดี บอร์ด ห้องพูดคุยทั่วไป ห้องข่าว (ผู้ดูแล: ka1, jacky, okay) “ชิ” ปัด เมคประวัติ “นาธาน” เจ้าตัวลังเลออกหนังสือ
หน้า: [1]   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
ส่งหัวข้อนี้พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: “ชิ” ปัด เมคประวัติ “นาธาน” เจ้าตัวลังเลออกหนังสือ  (อ่าน 5316 ครั้ง)
ka1
Global Moderator
Sr. Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 496


เราจะทำเพื่อสังคม ทีมงานหน้าร้านดีดี.คอม


“ชิ” ปัด เมคประวัติ “นาธาน” เจ้าตัวลังเลออกหนังสือ
« เมื่อ: มกราคม 11, 2010, 10:21:25 PM »

“ชิ” ปัด เมคประวัติ “นาธาน” เจ้าตัวลังเลออกหนังสือแฉกลัวถูกมองเกาะกระแส
  
“ชิ” ปฏิเสธไม่มีส่วนปลอมประวัติ “นาธาน” ยันตัวเองออกจากอาร์เอสฯ ก่อนอีกฝ่ายรับรางวัล ก่อนออกอาการลังเลออกหนังสือแฉอีกฝ่ายเพราะเกรงจะถูกมองว่าเกาะกระแสอีกฝ่ายดัง
       
        เพราะเป็นหนึ่งในผู้ที่ชักชวนให้ "นาธาน โอร์มาน" เข้าสังกัดค่ายเพลงอาร์เอสฯ งานนี้ "ชิ อนุชา ลังประเสริฐ” อดีตผู้จัดการส่วนตัวของเจ้าของฉายาลับ ลวง แหล เลยถูกหางเลขว่ามีส่วนในการรู้เห็นเกี่ยวกับประวัติของอีกฝ่ายที่ถูกพิสูจน์แล้วว่าเป็นเท็จในหลายๆ เรื่องไปโดยปริยาย
       
        โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของปีเกิดที่เป็นเหตุให้กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ต้องสั่งริบรางวัลเยาวชนดีเด่นฯ คืนจากนาธาน อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับเรื่องนี้เจ้าตัวก็ได้ขอปฏิเสธทั้งหมด
       
        “ถามว่าได้เช็คประวัตินาธานมาก่อนไหม คือนาธานเริ่มต้นมาจากทางพี่ในฐานะที่ ณ วันนั้นพี่ชิทำหน้าที่อยู่ในฝ่ายคัดเลือกศิลปินเข้าสู่สังกัดอาร์เอส ณ วันนั้นประมาณ 6 ปีที่ผ่านมา ศิลปินทุกคนก็ผ่านกระบวนการทดสอบความสามารถการเป็นศิลปินเหมือนกันทุกคน"
       
        "นาธานเองก็ผ่านการคัดเลือกเหมือนศิลปินทุกคนเช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่าวันนั้นเรื่องของนาธานที่ไม่ได้มีการตรวจสอบบัตรประชาชนมาก่อนจากหน่วยงานในแผนกของพี่เนื่องจากว่านาธานอายุเกิน 20 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นในการเซ็นสัญญาทำนิติกรรมต่างๆ ก็สามารถตัดสินใจได้เองโดยปกติ พี่ก็เลยส่งนาธานเข้าสู่กระบวนการในการเซ็นสัญญาต่อไปกับหน่วยงานอื่นในบริษัท”
       
        “แต่ถ้าเป็นศิลปินคนอื่นๆ ที่อายุน้อยกว่า 20 ปี พี่จะเชิญผู้ปกครองหรือพ่อแม่มานั่งคุยกันและมีการรวบรวมเอกสารหลักฐานจากผู้ปกครองก่อนที่จะเสนอต่อไป ซึ่งทำให้ ณ วันนั้นพี่ไม่ทราบว่านาธานได้ยื่นสำเนาบัตรประชาชนอายุเท่าไหร่ หลังจากที่ได้ร่วมงานและเซ็นสัญญากับอาร์เอสแล้ว พี่ก็ไม่เคยได้เห็นบัตรประชาชนของเขาอีกเลยเพราะว่าการรับเงินในการทำงานกับส่วนงานอื่นๆ เขาก็ไปติดต่อประสานงานด้วยตัวเองอยู่แล้ว หลังจากนั้นพี่ก็ออกจากที่อาร์เอสมาครับ”
       
        เจ้าตัวอ้าง ตอนที่เจ้าของฉายาลับ ลวง แหล รับรางวัลตนออกจากอาร์เอสฯ แล้ว...“ตอนที่ทำเอกสารยื่นไปที่กระทรวงเพื่อรับรางวัล ตอนนั้นพี่ชิออกจากอาร์เอสแล้วครับ เป็นหน้าที่ของทางบริษัทและทางเฮียก็ได้พูดไปหมดเรียบร้อยแล้วครับ พี่เองก็ถูกพาดพิงถึงได้ออกมายืนยันครับ"
       
        "ยืนยันแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ว่าพี่ชิทำงานตามปกติ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แล้วก็คัดเลือกศิลปินเหมือนกันทุกคนที่เข้าสู่กระบวนการของอาร์เอสนะครับ ขอยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นในการที่เขาเมคหรือพูดหรือการทำเอกสารออกมา ถ้าเป็นแบบนี้พี่ชิก็เหมือนคนนึงที่โดนเขาหลอกมาเหมือนกัน ถามว่าเชื่อเค้าหมดใจตั้งแต่แรกเลยไหม คือเราเป็นคนเชื่อคนอยู่แล้ว คุยกันด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจกันมากกว่านะครับ”
       
        “กับประวัติที่ผ่านมาเขาไม่เคยบอกพี่เลยคือพี่รู้เท่าที่รู้ แล้วไม่เคยเจอหน้าพ่อหน้าแม่เขามาก่อนเลยเหมือนกัน ก็รู้เท่าที่เขาเคยบอกและได้สัมผัสเวลาอยู่ร่วมกันมากกว่า คือเขาไม่ได้ใช้ชีวิตกับครอบครัวเขา”
       
        เผย ตนไม่เคยตรวจสอบว่านาธานจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศเนปาลว่าจริงหรือไม่ และไม่ได้อยู่เห็นว่า “นาธาน” เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรกับตา เพียงไปร่วมงานและถ่ายรูปร่วมในวันดังกล่าวเท่านั้น
       
        “เรื่องของการศึกษาพี่ได้ไปร่วมงานรับปริญญาเขาที่สวนสุนันทา เมื่อเดือน เม.ย. ปี 2546 ในส่วนการศึกษาต่างประเทศพี่ไม่เคยไปตรวจสอบลึกถึงขนาดนั้นครับ ตอนนั้นได้ไปดูมั้ยว่าเขาไปเรียนจริไหม คือตอนที่เข้ามาอาร์เอสปี 2546 เขากำลังจบการศึกษาพอดี เพิ่งเริ่มเข้ามาแล้วพี่ก็ได้ไปงานรับปริญญาของเขา"
       
        นาธานไม่ได้รับปริญญาจริง หรือแค่ใส่ชุดครุยหลอก?
        "อันนั้นพี่ไม่ได้ตรวจสอบ แต่ว่าในวันที่ไปรับปริญญาพี่ก็อยู่ที่สถาบันนั้นด้วย ก็มีการถ่ายรูปร่วมกัน ในระหว่างที่เขาเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรพี่ไม่ได้อยู่ด้วยตอนนั้น”
       
        “คือ ณ วันนี้อะไรมันเยอะแยะจน อันไหนจริงหรือลวงหลอกพี่ก็ไม่มั่นใจหลายอย่าง เพราะฉะนั้นก็ต้องมีการตรวจสอบกันเข้าไปลึกๆ ไม่สามารถที่จะฟันธงไปได้ว่ารับจริงหรือเปล่า เพราะพี่ก็ไม่ได้เห็นกับตานะครับ เพียงแต่ว่าเราอยู่ในเหตุการณ์ในวันนั้นด้วยเท่านั้นเองครับ เรื่องการศึกษาในต่างประเทศพี่ไม่ทราบครับ”
       
        ออกอาการลังเลในการทำหนังสือ เจ้าตัวบอกกลัวจะถูกมองว่าเกาะกระแสของอีกฝ่ายหากิน แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะทำออกมา
        “คือเรื่องหนังสือเนี่ยปกติส่วนตัวพี่ชิเป็นคนที่เขียนบันทึกประจำวันอยู่แล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้เจออะไรมาเยอะร่วมกับเขาตลอดเวลา แล้วก็มีการเขียน พูดถึงอารมณ์ความรู้สึกหลายๆ อย่างมาตลอดเวลาเหมือนกัน แต่ว่า ณ วันนี้ก็มีคนถามเยอะว่าจะเขียนหนังสือแฉ จริงๆ ไม่อยากใช้คำว่าแฉ ถ้าจะเขียนก็เขียนเรื่องความจริงมากกว่า”
       
        แสดงว่าเป็นความจริงที่เขาไม่เคยพูดกับสังคม?
        "เอ่อ พี่ไม่แน่ใจว่าเขาเคยหรือไม่เคยพูด แต่เป็นความจริงในส่วนของพี่ชิที่ได้ร่วมงานและอยู่กับเขามากกว่า มีติดต่อมาเยอะมั้ยก็ 2-3 ที่ครับ แต่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะทำ คือยังลังเลอยู่เพราะหลายๆ คนก็บอกว่าจะดีเหรอ เพราะเราเป็นคนพาเขามา สร้างเขามาตั้งแต่เริ่มต้น แล้ววันนึงเราออกมาพูดแบบนี้ เราก็อาจจะดูว่าเราทำลายคนของเราเอง อีกคนก็บอกว่าให้เขียนเลยเพราะมีหลายๆ ส่วนอยากรู้เรื่องราวๆ ต่างๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มเข้าวงการว่าเป็นมายังไง แล้วก็เรื่องราวเป็นยังไงฮะ”
       
        “ถ้าเขียนแบบนี้เหมือนเราแฉหรือเปล่าจริงๆ พี่ไม่ได้บอกว่าแฉนะ แต่พี่เขียนเรื่องจากความจริงและความรู้สึกของพี่มากกว่า ไม่ได้เขียนถึงเค้าหมดก็คงเกี่ยวกับพี่ด้วย ส่วนใหญ่มันเป็นเรื่องความรู้สึกของพี่มากกว่า แต่ว่ามันก็ต้องเกี่ยวข้องกับเขาในระดับนึง ความเป็นไปได้ที่จะเขียนมากน้อยแค่ไหน"
       
        "คือปกติพี่เขียนเรื่อยๆ อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าอยู่ในขั้นตอนของการเรียบเรียงมากกว่าว่าจะเรียบเรียงออกมาลักษณะไหน คิดว่าน่าจะได้อ่านนะครับ (เห็นว่าภายในเดือนนี้?) ก็พยายามอยู่ครับ คือจะเป็นการตอบโจทย์ตอบคำถามจากข่าวที่ออกมาด้วยมากกว่าครับ ซึ่งมันเป็นเรื่องของ... (ยิ้ม)น่าจะอ่านในหนังสือมากกว่า”
       
        “ถามว่าบอกนาธานมั้ยว่าจะเขียน เอ่อ... พี่เคยคุยกับเขานานแล้วตั้งแต่เรื่องราวยังไม่เยอะเท่านี้ พี่เคยเขียนเคยทำหนังสือมา แล้วเขียนเรื่องราวของตัวเองมาเรื่อยๆ ว่าเป็นยังไง แล้วบอกว่าเออ วันนึงเราอยากทำหนังสือนะ ก็บอกเขามาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว แต่ว่า ณ วันนี้เรื่องราวมันมีหลายเรื่องเข้ามาเกี่ยวข้อง"
       
        "แล้วก็มีเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ทุกวันๆ ยังไม่เคยเจอกับเขาเลยตั้งแต่วันที่มีการประกาศแยกทางกัน จนวันนี้ยังไม่เคยเจอกันเลยและไม่ได้คุยกันอีกเลย กลัวเขาไม่พอใจมั้ยถ้าหนังสือออก (หัวเราะ) ตัวพี่ชิไม่รู้จะมีอะไรให้แฉ พี่เป็นคนเปิดเผย ทำงานโปร่งใสตลอดเวลาที่ผ่านมาในวงการอยู่แล้ว มีอะไรก็บอกตรงๆ แต่เรื่องมันจะบานปลายไหม เอ่อ... พี่คิดว่าเขาน่าจะเข้าใจนะ เราพูดในเรื่องความรู้สึกของเรามากกว่าครับ”
       
        “ถามว่ากลัวคนมองว่าเกาะกระแสนาธานหาเงินตอนนี้ไหม ก็กลัวครับ (หัวเราะ) บอกตรงๆ ว่ากลัว เลยสองจิตสองใจว่าอยากออกหรือไม่อยากออกดี แต่มีหลายคนอยากรู้ว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมาเราเดินทางไปอยู่ตรงไหน ซึ่งบางครั้งมันอาจจะไม่ตรงกับที่เคยพูดกับสื่อไป จะทำยังไงให้ดูว่าไม่ตามกระแส ก็ต้องไม่ออกตอนนี้"
       
        "แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากทำออกมาให้อ่านกันถ้าหนังสือขายดีจะเอาเงินไปทำอะไรเหรอครับ (ชิหัวเราะ) ส่วนนึงคงทำเรื่องราวของส่วนตัว จริงๆ ก็คิดไว้กับเพื่อนก่อนหน้านั้นแล้วว่าเราอยากจะทำบุญให้กับสุเหร่าอยู่แล้ว ปกติเป็นคนทำกิจกรรมของชุมชนและมัสยิดที่บ้านครับ จะมีแบ่งเงินไปช่วยนาธานมั้ย ถ้าเกิดเขากล้าขอก็กล้าให้ฮะ"
       
        เตรียมตั้งชื่อหนังสือไว้หรือยัง?
        "ยังครับ ต้องช่วยกันตั้งแล้วครับ จะสู้มหากาพย์เขาได้มั้ย เอ่อ... มหากาพย์เขาน่าจะยาวกว่ามั้ง”
       
       ก่อนปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ “นาธาน” บอกว่าตนเป็นคนเสี้ยม ให้เกลียดนักข่าว ก่อนหัวเราะไม่ขอออกความเห็น ฉายา ลับลวงแหล ซ้ำไม่ฟังธงอีกฝ่ายเป็นโรคจิต
       
        “เอ่อ ถ้าสื่อได้เจอพี่ตลอดเวลา พี่พยายามพูดอยู่ตลอดเวลาว่าอยากจะให้เขาออกมาพูดกับสื่อตลอดเวลา เพราะฉะนั้นไม่มีความหมายเลยถ้าพี่จะไปเสี้ยมให้เขาเกลียดสื่อ เพราะพี่ทำงานกับสื่อแล้วพี่รู้จักกับทุกคนอยู่แล้ว พี่คิดว่าน่าจะตัดสินใจแล้วพิจารณากันเองได้ว่าสิ่งที่เขาพูด ณ วันนี้มันน่าเชื่อถือได้มากน้อยขนาดไหน กับฉายาของนาธานที่สมาคมตั้งให้ (ลับ ลวง แหล) เห็นด้วยหรือเปล่า (ชิหัวเราะ)ไม่ขอออกความเห็นครับ”
       
        “เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลายคนบอกว่านาธานป่วยเป็นโรคจิตชิว่าไง เอ่อ... เท่าที่อ่านหนังสือจากกระบวนการของแพทย์ เขาพูดอย่างนั้นมันก็ค่อนข้างตรงกับพฤติกรรมของเขา แต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นหรือไม่เป็น คือพี่ไม่อยากฟันธง (นาธานให้คนไปถ่ายรูปแล้วมาอ้างว่าเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังจริง?) อันนี้พี่ไม่แน่ใจเพราะพี่ไม่ได้เจอเดือนกว่าแล้วฮะ”
       
        บอกเห็นข่าว อดีตนักร้องชื่อดังถึงกับเหนื่อยแทน ลั่นไม่โกรธอีกฝ่ายที่พุดพาดพิงถึงตน แต่แค่ไม่ขอร่วมงานกันอีก
        “เอ่อ... ทำใจรู้สึกเหนื่อยแทน แล้วก็ไม่รู้จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ ช่วงที่ผ่านมาก็ไปลงใต้เปิดวงคอนเสิร์ตศรีวิชัยโชว์กับพี่เอกเพิ่งกลับมา ไปเที่ยวด้วย ก็ไม่คิดว่าจะมีอะไร เราก็ติดตามข่าวของเขาจากสื่อปกติ รู้เท่ากันกับทางสื่อทั่วๆ ไป"
       
        "พอกลับจากปีใหม่มาก็ได้รับโทรศัพท์ว่านาธานพูดพาดพิงมาถึงเราเรื่องนี้ เราก็งงๆ อยู่ว่าทำไม ถ้าสิ่งที่เขาพูดเป็นจริงอย่างที่ข่าวนำเสนอออกมาก็รู้สึกเสียใจนะครับ แต่ไม่โกรธ คิดว่าก็ขอไม่ร่วมงานกันอีกครับ”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
*****************************************************
บันทึกการเข้า

เราจะเป็นผู้ให้ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
(หากมีแต่ ผู้ขอ แล้วคัยจะเป็นผู้ให้ละ)
หน้า: [1]   ขึ้นบน
ส่งหัวข้อนี้พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.10 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
Nt-Sun Theme by N a t i
กำลังโหลด...