ประวัติหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม 2.
ท่านได้สร้าง พระเครื่อง-วัตถุมงคลไว้เพื่อเป็นมรดกถึงรุ่นลูกหลาน วัตถุมงคลของท่านยอดเยี่ยมด้านคงกระพันชาตรี เปี่ยมด้วยเมตตามหานิยมยิ่งนัก
ดังปรากฏเป็นข่าวหน้าหนึ่งของ หนังสือพิมพ์เป็นประจำ พระเครื่องของหลวงพ่อเงิน ปัจจุบันมีอยู่ 4-5 รุ่น ที่มีค่านิยมอยู่ในหลักหมื่นปลายๆ ถึงหลักแสนต้นๆ ได้แก่
1.เหรียญหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม รุ่นแรก
2.เหรียญหลวงพ่อเงิน ปี 2506 เนื้อทองคำ
3.เหรียญหลวงพ่อเงิน หันข้าง ปี ๒๕๑๓ เนื้อทองคำ และ
4.เหรียญหลวงพ่อเงิน รุ่นโก๋ใหญ่ ส่วนรุ่นอื่นๆ มีค่านิยมลดหลั่นกันไป
..........................................................
หนังสือชีวประวัติของหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม
หนังสือเรื่องชีวประวัติของหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม หรือพระราชธรรมาภรณ์ (เงิน จันทสุวัณโณ) นี้ ข้าพเจ้าเขียนเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2529 หลังจากเกษียณอายุราชการแล้ว อยู่บ้านมีเวลาว่าง จึงเขียนขึ้นเพื่อบูชาพระคุณของหลวงพ่อพระอุปัชฌาย์ เป็นการศึกษาธรรมะไปด้วย การเขียนประวัติพระอริยสงฆ์เป็นการเขียนเพื่อปฏิบัติบูชา พระสุปฏิปันโน (พระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติเหมาะสม แก่พระอริยสงฆ์) พระอุชุปฏิปันโน (พระผู้ปฏิบัติงดงามทุกอิริยาบถ เดิน ยืน นั่ง นอน เหยียด คู้ เหลียว มอง พูด ฉัน ขบ เคี้ยว) เป็นพระญายปฏิปันโน (พระผู้ปฏิบัติด้วยความรู้ตัวทั่วพร้อมทุกขณะจิต) พระสามีจิปฏิปันโน (พระผู้ปฏิบัติด้วยจิตจงรักภักดีต่อพระพุทธเจ้า อย่างมอบกายถวายชีวิต ไม่กลัวอดอยาก ไม่กลัวลำบาก ไม่กลัวตาย) หลวงพ่อเงินเป็นพระอริยสงฆ์ตามบทสรรเสริญพระอริยสงฆ์ที่กล่าวไว้ในบทสุปฏิปันโน ไม่ขาดตกบกพร่องเลย จึงไม่ต้องสงสัยว่าพระราชธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อเงิน) เป็นพระอริยสงฆ์หรือเปล่า ท่านเป็นพระอริยสงฆ์แน่นอน แต่จักเป็นชั้นไหนเท่านั้นที่เราไม่รู้ ว่าท่านเป็นพระโสดาบัน หรือ พระสกทาคามี หรือพระอนาคามีบุคคล เราไม่รู้
ข้าพเจ้าเขียนเรื่องนี้จบเมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ.2529 ใช้เวลา 1 เดือนหนึ่งเท่านั้น ทั้งนี้เขียนอย่างรวบรัด เนื่องจากประวัติโดยพิสดารนั้นนายชื่น ทักษิณานุกุล ลูกบุญธรรมของหลวงพ่อได้เขียนไว้แล้ว ตั้งแต่ พ.ศ.2506 ชื่อหนังสือนั้นว่า "หลวงพ่อเงินเทพเจ้าแห่งดอนยายหอม" หนังสือเล่มนี้ส่วนใหญ่ได้มาจากเรื่อง นายชื่น ทักษิณานุกูล เขียนไว้ เพราะนายชื่นเป็น "อันเตวาสิก" ศิษย์ก้นกุฏิ รู้อะไรเกี่ยวกับหลวงพ่อโดยละเอียด ส่วนข้าพเจ้าเป็น "พาหิรวาสิก" ศิษย์ภายนอกที่หลวงพ่อบวชให้เท่านั้น บวชแล้วก็ไปอยู่เสียที่วัดห้วยจระเข้ ไม่ได้อยู่กับหลวงพ่อโดยใกล้ชิดเหมือน นายชื่น ทักษิณานุกูล ข้าพเจ้าเป็นนักเรียนร่วมชั้นกับ นายชื่น ทักษิณานุกูล ที่โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และบัดนี้นายชื่น ทักษิณานุกูล ก็ล่วงลับไปนานแล้ว จึงไม่ต้องขออนุญาตคัดลอกเอาเรื่องของเขามาเขียนใหม่ในคราวนี้ เรามีจุดประสงค์ร่วมกันคือเขียนเพื่อเผยแพร่เกียรติคุณครูอาจารย์ให้โลกรู้ นายชื่น คงจะอนุโมทนาด้วย เขียนเสร็จแล้วก็ทิ้งไว้นาน ไม่กล้าพิมพ์เผยแพร่ กลัวจะขาดทุนเปล่า เพราะมีคนคัดลอกเอาไปเขียนกันหลายคนหลายครั้งแล้ว จนกระทั่งเมื่อ พ.ศ.2535 ฝันเห็นหลวงพ่อเงินยืนอยู่บนภูเขา ข้าพเจ้ากำลังเดินขึ้นไปหาท่าน แต่ไม่กล้าขึ้นไปถึงท่าน กลัวตกภูเขา ดูเหมือนจะเป็นปริศนาธรรมที่ท่านมาเตือนให้พิมพ์เรื่องนี้ออกเผยแพร่ เมื่อรู้สึกว่าเป็นหนี้ที่ยังมิได้ชดใช้ท่าน จึงได้พิมพ์เรื่องนี้เผยแพร่ในครั้งนี้ ท่านผู้ใดอ่านแล้วไม่จุใจอยากจะทราบรายละเอียด ขอให้อ่านจากเรื่อง "หลวงพ่อเงิน เทพเจ้าแห่งดอนยายหอม" มีอยู่ที่หอสมุดวัดดอนยายหอมหรือตามร้านหนังสือเก่าคงมีเหลืออยู่บ้าง
เทพ สุนทรศารทูล
10 สิงหาคม 2537
(เขียนทิ้งไว้ถึง 10 ปี ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2529 ซึ่งพิมพ์เผยแพร่ พ.ศ.2539)
........................................................................................
โยมบิดา-มารดา
หลวงพ่อเงิน เป็นพระภิกษุ มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศมีสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะ ชั้นราช ที่ พระราชธรรมาภรณ์ แต่คนทั้งหลายรู้จักในนามของ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
หลวงพ่อเงิน เป็นบุตรของนายพรหม และนางกรอง ด้วงพูล ราษฎรตำบลยายหอม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม มีอาชีพทำนา มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 7 คน คือ
1.นายอยู่ ด้วงพูล
2.นายแพ ด้วงพูล
3.นายทอง ด้วงพูล
4.พระราชธรรมาภรณ์ (เงิน ด้วงพูล)
5.นายเนียม ด้วงพูล
6.นายแจ้ง ด้วงพูล
7.นายเมือง ด้วงพูล
นายพรหม ด้วงพูล โยมบิดาของหลวงพ่อเงินนั้น เป็นอุบาสกผู้เคร่งครัดในศีลธรรม เคยบวชเรียนมา 3 พรรษา มีความชำนาญในทางสมถะภาวนา ได้ฌานโลกีย์ สามารถเข้าฌานเพ่งจิตเห็นอะไรได้ทั้งใกล้ไกล ลี้ลับอย่างไรก็รู้ได้แจ้ง ใครมีทุกข์เดือดร้อนอะไร ไปหาให้ดูให้ นายพรหมดก็สามารถบอกได้ถูกต้อง นอกจากนั้นยังเป็นแพทย์แผนโบราณด้วย ใครป่วงไข้ก็ไปหาให้ประกอบยารักษาโรคให้ คาถาอาคมก็ได้รับความนับถือ โดยเฉพาะทางเมตตามหานิยม และเสกหุ่นพยนต์สำหรับเฝ้าบ้าน เรื่องนี้ ก็มีคนเล่าลือนับถือกันอยู่ในสมัยนั้น เล่ากันว่า นายพรหม มีความเชียวชาญทางกสิณมาก ถึงขนาดผักตบชวาที่ลอยน้ำมาในลำคลอง นายพรหม ก็สามารถเพ่งกสิณสำรวมจิตบังคับให้ผักตบชะวาลอยทวนกระแสน้ำไหลได้ เล่าลือกันถึงกับว่า แม้เรือเหาะ เรือบินที่แล่นอยู่บนอากาศ เมื่อเพ่งกระแสจิตไปก็ทำให้เรือบินหยุดอยู่กับที่ได้ด้วย คนทั้งหลาย จึงนับถือนายพรหม ด้วงพูล เป็นอาจารย์ เรียกกันว่า อาจารย์พรหม หรือ หมอพรหม เป็นที่รู้จักนับถือกันอยู่ในสมัยโน้น
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ผู้เขียนก็จะขอแวะเล่าเรื่องจริงประกอบสักเล็กน้อย เกี่ยวกับเรื่องนี้คือ ที่ตำบลตาก้อง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม สมัยเดียวกันนี้ ก็มีคนหนึ่งชื่อ หมอแก้ว มีผู้คนทั้งตำบลนับถือกันมากว่า ท่านนั่งทางในดูอะไรเห็นหมดเหมือนตาเห็น แต่มีเคล็ดอยู่ว่า เมื่อไปหาท่าน เมื่อขึ้นเรือนไปพบหน้าท่านให้บอกเรื่องที่จะดูให้ทราบก่อน ห้ามพูดถึงเรื่องอื่น มีเรื่องจริงอยู่ 3 เรื่อง เรื่องที่แม่ข้าพเจ้าไปดูด้วยตนเอง คือ คราวหนึ่งทองที่บ้านป้าหายไป ป้าก็สงสัยยาย คือแม่ของตัว เพราะยายเฝ้าบ้านอยู่คนเดียว ยายจึงให้แม่ไปดูหมอแก้ว หมอแก้วบอกว่าทองเหน็บอยู่ข้างฝาทิศตะวันตก ห่อกระดาษสีแดงให้กลับไปดู เมื่อกลับมาค้นดูก็พบทองเส้นนั้น เจ้าของเก็บไว้เองแล้วลืมที่เก็บ เรื่องที่สอง ควายออกลูกใหม่ๆ ได้ไม่กี่วันก็หายไป แม่ควายนมคัด ก็ร้องเรียกหาลูกทั้งวัน แม่จึงไปหาหมอแก้วดู หมอแก้วบอกว่าลูกควายนอนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ทางทิศหรดี ให้ไปดูแล้วจะพบ เมื่อกลับมาดูก็พบลูกควายนอนอดนมอยู่ใต้ต้นมะขามใหญ่ เรื่องที่สาม นายผิว ศรีสุข หลานแม่ ไปตัดไม้ในป่าเมืองกาญจน์ ถึงกำหนดกลับไม่กลับ มีคนเล่าลือกันว่า นายผิวตายเสียแล้ว นางเมียก็ร้องไห้มาบอกแม่แม่จึงไปหาหมอแก้วดู หมอแก้วบอกว่าไม่ตายหรอก สบายดี กำลังเดินทางกลับจะถึงบ้านแล้ว ไปนี่ให้หุงข้าวไว้ล่วงหน้าเขาจะได้กลับมากินข้าว ก็จริงเหมือนปากว่า แม่กลับบ้านสักพัก นายผิวก็เดินทางกลับถึงบ้าน เรื่องนั่งทางในเห็นอะไรได้ในที่ไกล จึงเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดในหมู่ผู้ได้ฌานสมาบัติ หรือสำเร็จวิชากสิณ ในพระพุทธศาสนา เรื่องเพ่งอะไรหยุด เพ่งเทียนดับ หรือเพ่งเครื่องยนต์ดับนี้ ก็ได้ยินอยู่บ่อยๆ พระอาจารย์บางองค์นั้นเพ่งเทียนก็ดับ พระอาจารย์ ฝั้นว่าไม่อยากขึ้นเครื่องบิน กลัวจิตจะเผลอไปเพ่งเครื่องยนต์ของเรือบินเข้า เพราะเคยนั่งรถยนต์เพ่งเครื่องรถยนต์ก็ดับ นี่คืออำนาจของฌานสมาบัตินำมาเล่าประกอบเรื่องนี้ไว้ เพื่อแก้สงสัยของนักวิทยาศาสตร์ทางวัตถุ จะโจมตีเอาได้
ก็เอาเป็นว่า นายพรหม ด้วงพูล โยมบิดาของ หลวงพ่อเงิน นั้น มีความรู้ ความชำนาญทางเพ่งฌานสมาบัติ เป็นที่นับถือของชาวบ้านทั้งหลายในสมัยโน้น ซึ่งได้ถ่ายทอดมาสู่บุตรชายคือหลวงพ่อเงินด้วย
...................................................................