อันนยองฮาเซโย จะว่าไปตอนนี้ทุกอย่างในบ้านเราก็ล้วนแต่เกี่ยวกับประเทศเกาหลี และคนเกาหลีทั้งนั้น ไม่ว่าจะสินค้า
นานาชนิด
ที่ถูกผลิตมาจากเกาหลี หนังเพลง เครื่องสำอางค์ และหนุ่มสาวชาวเกาหลี ที่เดินกันให้ขวักไขว่ในประเทศไทย ดังนั้นจึงไม่
แปลก
ถ้าจะเห็นสาวไทย ควงคู่มากับหนุ่มเกาหลี หรือสาวเกาหลีกับหนุ่มไทย กลุ่มใหญ่ ลูกค้าตามโรงแรมร้านอาหาร ปัจจุบันนี้
ประเทศ
ไทยได้รายได้จากการเข้าประเทศ ของชาวเกาหลี นับได้หลายล้านบาทต่อปี ดังนั้นสิ่งเล็กๆน้อยๆของชาวเกาหลี เราคน
ไทย
ก็ควรที่
จะเรียนรู้ เพื่อประโยชน์ต่างๆที่จะตามมาภายหลัง
เคารพผู้อาวุโสกว่า วัยวุฒิและอาวุโสมีความหมายสำหรับชาวเกาหลี มาก ผู้เยาว์ต้องเคารพเชื่อฟังคำสั่งของผู้อาวุโส บ่อยครั้งเราจึงถูกถามอายุและสถานภาพสมรส เพื่อที่จะได้คะเนถึงความอาวุโสของเราที่มีต่อผู้อื่นถูก แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราก็ไม่จำเป็นต้องตอบคำถาม ถ้าเราไม่ต้องการจะตอบ
ชื่อ คนเกาหลีจะมีชื่อสกุลอยู่เพียงไม่กี่ชื่อ เช่น คิม ลี รี หรือ ยี ชื่อ เต็มก็จะประกอบไปด้วย ชื่อสกุล 1 พยางค์ และชื่อหน้าอีก 2 พยางค์ โดยเขียนชื่อสกุลขึ้นก่อน ยกตัวอย่างเช่น ลี ซึง กน หลังจากแต่งงานไปแล้ว ผู้หญิงเกาหลีจะไม่เปลี่ยนใช้ชื่อสกุลตามสามี แต่ลูกจะใช้นามสกุลตามพ่อ
อย่าปักตะเกียบ อาหารจานหลักแต่ละมื้อของชาวเกาหลีมักจะมีข้าว ซุป คิมชี และเครื่องเคียง คนเกาหลีจะใช้ช้อนกินข้าวและซุป ส่วนกับข้าวจะใช้ตะเกียบ มารยาทอย่างหนึ่งที่ไม่ควรทำบนโต๊ะอาหารเป็นอย่างยิ่งก็คือ การใช้ตะเกียบหรือช้อนปักลงไปในข้าว เพราะเป็นสัญลักษณ์ของการปักแท่นบูชาคนตาย
ขอบคุณ การกล่าว “ขอบคุณ” เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นมากสำหรับคนเกาหลี คนเกาหลีมักจะกล่าวคำทักทาย และขอบคุณพร้อมกับก้มหัวคำนับเสมอ ส่วนจะโค้งสูงต่ำขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับความอาวุโสของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งก็คล้ายกับวัฒนธรรมไทยที่มีการไหว้ต่างระดับกันไปตามอาวุโสนั่นเอง
การถูกเนื้อต้องตัว การสัมผัสร่างกายถูกเนื้อต้องตัวกันของชาวเกาหลีค่อนข้างจะมีข้อจำกัด ชาวเกาหลีไม่นิยมการแสดงออกโดยเปิดเผย โดยเฉพาะการถูกเนื้อต้องตัวเพื่อนต่างเพศในที่สาธารณะ แต่เราอาจจะเห็นชายหนุ่มเดินจับมือ โอบไหล่ หรือหญิงสาวเดินจูงมือกัน เรื่องนี้เป็นที่ยอมรับกันได้ในเกาหลี เพราะถือว่าเป็นการสัมผัสร่างกายเพื่อนสนิท
ถอดรองเท้าเสมอ แต่เดิมคนเกาหลีจะนอนบนพื้นห้อง นั่งกินข้าวบนพื้นห้อง ดังนั้นจึงถือเป็นข้อปฏิบัติว่า ก่อนที่จะเข้าไปในบ้านต้องถอดรองเท้าออกก่อนเสมอ และถ้าไปเยี่ยมคนอื่นก็ควรสวมถุงเท้า หรือถุงน่องไปด้วยเพราะการนั่งเท้าเปล่าต่อหน้าผู้อาวุโสกว่าถือว่าเป็นการ ไม่สุภาพ
ไม่แยกจ่ายค่าอาหาร กรณีที่รับประทานอาหารด้วยกันหลายคน คนเกาหลีจะไม่นิยมแยกจ่ายค่าอาหารตามจำนวนคน ส่วนมากจะจ่ายค่าอาหารโดยเจ้าภาพคนใดคนหนึ่งไปเลย ยกเว้นเฉพาะในกรณีพิเศษ ดังนั้นเราอาจจะได้เป็นคนเลี้ยงหรืออาจเป็นผู้ถูกเลี้ยงโดยไม่รู้เนื้อรู้ ตัวก็ได้
ภาษากาย ภาษากายของแต่ละชาติแต่ละภาษาก็จะสื่อความหมายแตกต่างกันออกไป บางครั้งถึงจะเป็นท่าทางเดียวกันแท้ๆ แต่พออยู่อีกประเทศหนึ่ง ก็หลายเป็นอีกความหมายหนึ่งได้เหมือนกัน อย่างในประเทศเกาหลี กิริยาชี้นิ้วใส่ผู้อื่นเป็นสิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติเป็นอย่างยิ่ง เพราะกิริยานี้จะใช้ชี้สุนัขเท่านั้น
ป
าฏิหาริย์ของโมเสส ที่เกาะชินโดของเกาหลีมีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันแปลกประหลาดถึงปีละ 2 ครั้ง ปรากฏการณ์นั้นก็คือระดับน้ำทะเลช่วงระหว่างเกาะชินโดกับเกาะใกล้เคียงทาง ใต้จะลดลงเป็นอย่างมาก จนทำให้สามารถเดินข้ามไปมาระหว่าง 2 เกาะได้ ชาวเกาหลีเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “ปาฏิหาริย์ของโมเสส”
โตขึ้นจะเป็นอะไร ชาวเกาหลีจะมีพิธีทำนายอนาคตลูกหลาน โดยให้เด็กใส่เสื้อผ้าพื้นเมืองของเกาหลี แล้วนั่งบนโต๊ะที่มีสิ่งของต่างๆ หลากหลายชนิดวางอยู่ เด็กหยิบสิ่งไหนขึ้นมาเป็นสิ่งแรก ก็จะทำนายตามชนิดของสิ่งของนั้นๆ อย่างเช่น ถ้าเด็กหยิบเงินหรือข้าว ฏ้ทำนายว่า ในอนาคต เด็กจะรวย ถ้าเด็กหยิบหนังสือ ก็ทำนายว่าจะเป็นนักวิชาการเป็นต้น
เ
ค้กข้าว ชาวเกาหลีนิยมกินเค้กข้าวมากทั้งในวันหยุด เทศกาล งานสำคัญ หรือแม้กระทั่งงานพิธี จะมีเค้กเป็นหนึ่งในอาหารประจำอยู่เสมอ เค้กของเกาหลีทั้งหมดล้วนทำจากข้าว มีอยู่หลายแบบ ขึ้นอยู่กับเทศกาล เช่น เค้กรูปพระจันทร์เสี้ยวโรยด้วยงา และเกาลัด มักจะทำในเทศกาลเก็บเกี่ยว หรือเค้กก้อนยาวสีขาวล้วนที่หั่นเป็นชิ้นๆ ก็จะทำในเทศกาลปีใหม่ เป็นต้น
เ
รื่องสีก็สำคัญ คนเกาหลีมีความเชื่อยึดถืออยู่กับห้าสีพื้นฐาน อันได้แก่ สีน้ำเงิน สีแดง สีเหลือง สีขาว และสีดำ โดยเชื่อว่าเมื่อทั้ง 5 สี มาอยู่รวมกันแล้ว จะสามารถป้องกันภัยอันตรายต่างๆได้ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ดังนั้นแม้กระทั่งรุ้งกินน้ำที่เรายอมรับกัน โดยทั่วไปมีเจ็ดสี คนเกาหลีก็จะอธิบายว่ามีอยู่ 5 สีเท่านั้น
ไ
ม่สนิทอย่าเรียกชื่อ ชาวเกาหลีไม่นิยมให้คนอื่นเรียกชื่อตัว นอกจากในหมู่เพื่อนสนิท แม้แต่บรรดาพี่น้อง ถ้าเป็นน้องคนที่รองมาจากตนเองก็นิยมให้เรียกเป็นชื่อสกุลมากกว่า วิธีปฏิบัตินี้ได้ความเชื่อมาจากวัฒนธรรมการเคารพอาวุโสที่ชาวเกาหลีถือ ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดนั่นเอง
เ
ลข 3 นำโชค ชาวเกาหลีมีชีวิตผูกพันกับเลข 3 เป็นอย่างมาก ถือว่าเลข 3 เป็นเลขนำโชคของชาวเกาหลีเลยก็ว่าได้ เพราะมีความเชื่อกันมายาวนานว่า เลข 3 เป็นเลขแห่งความสมดุลของ สวรรค์ โลก และมนุษย์ อันก่อให้เกิดสรรพสิ่งทั้งมวล ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีความเชื่อนี้ให้เห็น เช่น ทางเข้าหมู่บ้านที่มีรูปตุ๊กตาเป็ด 3 ตัว เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์
ผนังบ้านอย่าให้ร้าว หากผนังบ้านมีรอยร้าวควรจะรีบซ่อมแซมโดยด่วน เพราะคนเกาหลีเชื่อกันว่า หากผนังบ้านมีรอยร้าวแล้วละกัน สิ่งชั่วร้ายต่างๆก็จะเข้ามาทางรอยร้าวนั้น
ข้อมูลดีๆแบบนี้ หากคุณต้องพบปะสมาคมกับชาวเกาหลี ขอให้นำไปใช้เพื่อความประทับใจ ของผู้ที่เราติดต่อด้วยนะคะ และดิฉันจะนำข้อมูลดีๆ
แบบนี้ มาให้อีก ตู้มันวาโย (แล้วพบกันใหม่คะ)
------------------------------------------------------------------------------