พระคาถาแมงสี่หูห้าต๋าศักดิ์สิทธิ์ แก้ดวงตก ทำร้ายให้กลายเป็นดี การเงินโชคลาภดีทวีคูณ

วรรณกรรมในล้านนามีอยู่มากมาย ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นวรรรกรรมทางพระพุทธศาสนา
โดยนำเอาเรื่องราวจากนิทานชาดกมาเรียบเรียงประพันธ์เป็นร้อยกรอง ดั่งเช่น คร่าว และร่าย
มีเรื่องราวมากมายที่ถูกหยิบยกมาเป็นวรรณกรรมล้านนา เช่นเรื่อง เจ้าหงส์หิน กำพร้าบัวตอง
เจ้าสุวัตรนางบัวคำ พยาคางค้าก เป็นต้น วรรณกรรมเหล่านี้ถูกนำมาใช้สอนเป็นคติธรรม
และความบันเทิงไปในตัว ดังจะเห็นว่าเนื้อเรื่องมักสอดแทรกธรรมชาติ วิถีวัฒนธรรมต่าง ๆ ด้วยเสมอ
นับเป็นอุบายธรรมอันยอดเยี่ยมของบรรพบุรุษที่ได้ก่อกำเนิดวรรรกรรมอันมีค่าเหล่านี้
เรื่องแมงสี่หูห้าตาเป็นอีกวรรณกรรมหนึ่งที่เป็นนิทานธรรมล้านนา กล่าวถึงโดยย่อว่า
กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้วได้มีชายหนุ่มกำพร้าเข็ญใจมีฐานะค่อนข้างลำบากยากเข็ญแต่เป็นคนขยันขันแข็ง
ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก ยังชีพด้วยการปลูกข้าวและพืชผักพอยังชีพในที่ดินผืนเล็ก ๆ
มีอยู่ปีหนึ่งเกิดฝนฟ้าไม่ต้องตามฤดูกาล เกิดทุกขเพศภัยต้นข้าวที่ปลูกไว้เหี่ยวเฉาตาย
ทำให้เกิดความทุกข์ใจแก่ชายหนุ่มผู้นี้เสียมาก แต่ก็พอยังมีต้นข้าวส่วนน้อยอีกส่วนที่ไม่ตาย
ยังให้ชายเข็ญพอมีอาหารไว้ประทังชีวิตวันข้างหน้าอยู่บ้าง
กล่าวถึงท่านท้าวสักกะเทวราช บนวิมานแมนแดนสรวง เล็งแลเห็นความทุกข์ยากลำบาก
ในความเป็นอยู่ของชายผู้อาภัพวาสนา จึงบังเกิดความเมตตาแปลงกาย จำแลงแถลงร่างมาช่วย
ชายหนุ่มอาภัพโชคผู้นี้โดยแปลงเป็นสัตว์ประหลาด มีหู 4หู มีตา 5 ตาซึ่งในโลกมนุษยจักไม่มีสัตว์ประหลาดเช่นนี้
สัตว์ประหลาดตัวนี้ปรากฏตัวขึ้นที่ผืนนาที่ทำกินของชายเข็ญใจ เข้าไปทำลายต้นข้าวอันเหลือน้อยนิดจนหมดสิ้น
ชายเข็ญใจมาพบเข้าจึงบังเกิดโทสะคิดจะฆ่าสัตว์ประหลาดตัวนี้ทันที แต่ก็หามีอาวุธใดที่จะทำร้ายสัตว์ประหลาดตัวนี้ไม่
ได้จนเวลาผ่านไปชายเข็ญใจได้จับสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้ จึงจับมาขังไว้ที่กระท่อมของตน โดยได้ผูกติดไว้กับเสาไม้
เมื่อถึงเวลาเย็น ชายเข็ญใจต้องหุงหาอาหารรับประทานตามยะถากรรม จึงบังเกิดความเมตตาแบ่งอาหาร
ให้แก่สัตว์ประหลาดตัวนั้นแต่มันไม่ยอมกินแม้แต่น้อย และดูเหมือนว่ามันกำลังหนาวจัด ต้องการความอบอุ่นมาก
ชายเข็ญใจจึงไปหาฟืนแล้วก่อกองไฟให้มัน เมื่อความอ่อนเพลียมาถึงชายเข็ญใจได้หลับไปตื่นมาอีกทีพบว่า
สัตว์ประหลาดนั้นจับเอาถ่านไฟแดง ๆ ร้อนในกองเพลงไปกินเป็นอาหารจึงสร้างความอัศจรรย์แก่ชายผู้นั้นมาก
เมื่อตื่นมาตอนเช้าพบว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้กินก้อนถ่านไฟจนหมดแล้วยังขับถ่ายออกมาเป็นก้อนทองคำ
ชายเข็ญใจจึงนำทองคำไปขายและได้กลายเป็นเศรษฐีร่ำรวยต่อมาในที่สุด
นิทานธรรมเรื่องนี้ ท่านกล่าวไว้เป็นปริศนาธรรมไว้ว่า สัตว์ประหลาดแมงสี่หูห้าตานั้น
แท้จริงแล้วคือ ศีล 5และพรหมวิหาร 4 นั่นเอง ถือว่าเป็นสิ่งล้ำค่าในโลกมนุษย์นี้ หากผู้ใด มั่นรักษา
ศีล5และพรหมวิหาร 4 ไว้บุคคลผู้นั้นจักไม่ตกต่ำ ชีวิตจะพบแต่ความสุขความเจริญ มีพระคาถาแมงสี่หูห้าตา
ในพับสาโบราณที่ครูบาอาจารย์ท่านได้เมตตาสืบทอดต่อกันมา นับเป็นมรดกล้ำค่าที่เราควรอนุรักษ์
สวดบูชากันไว้เพื่อความเป็นสิริมงคลและรักษามิให้ของดีจากพับสาล้านนามลายหายสาบสูญไป
พระคาถา แมงสี่หูห้าตา (พระอินทร์แปลง)"สาธุ อะหัง นะมามิ พระอินทร์
อากาเสจะ พุทธะทิปังกะโร
นะโมพุทธายะอิอะระณัง อะระหัง
กุสะลาธัมมา สัมมาสัมพุทโธ
ทุสะนะโส นะโมพุทธายะ พระโสนามะ
ยักโข เมตตามหาลาภา ปิยังมะมะ
ทันตะ ปริวาสะโภ วาสุนี
หะเต โหนตุ ชัยยะมังคะลานิ "
บุคคลหญิงชาย ผู้ใดได้สวาดบูชาทุกค่ำเช้า จักห้ามเสียยังภัยทังหลาย กันฟ้าฝ่า ไฟไหม้ อนตรายทังหลายจักมิบังเกิดมีมา
อยู่เย็นเป็นสุข เป็นมหาโชคลาภ มีเงินทองไหลมาเทมา แก่ผู้สวาดบูชาดีนักแลนายเหย ฯ
ไครดวงตก อาภัพโชคลาภ การงานไม่ดี ลองสวดบูชาดูนะครับ ไม้เสียหลาย
แต่ถ้าจะดีเห็นผลเร็วควรสมาทานศีลห้า และเจริญ พรหมวิหารสี่ มี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
ด้วยจักเป็นการดียิ่งนะครับ สำหรับวันนี้ขอสวัสดีครับ
------------------------------------