ตำนานพระพุทธกวัก
พระพุทธรูปปางนี้ มีตำนาน ดังนี้พระพุทธรูปปางนี้ อยู่ในพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ
พระหัตถ์ซ้ายวางบนพระชานุ พระหัตถ์ขวายกขึ้นเสมอพระอุระ
จีบนิ้วพระหัตถ์ เป็นกิริยาแสดงธรรมโปรด
ลางแห่งทำนิ้วพระหัตถ์เป็นรูปกวัก
คืองอนิ้วพระหัตถ์ลงเล็กน้อยเป็นกิริยากวัก
ให้เข้ากับเรื่องว่าทรงกวักพระหัตถ์ตรัสเรียกพระมารดา
ให้เข้ามานั่งใกล้เพื่อรับพระธรรมเทศนาที่ตั้งพระทัยเสด็จมาโปรด
ความเป็นมาของปางโปรดพุทธมารดา์
หลังจากที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหาริย์แล้ว ได้เสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
เป็นเวลา ๓ เดือน เพื่อแสดงพระธรรมเทศนาโปรดพุทธมารดาซึ่งไปบังเกิดเป็นเทพบุตร ณ สวรรค์ชั้นดุสิต
เพื่อตอบแทนพระคุณ ท้าวสักกเทวราชมีความปิติยินดี รีบป่าวประกาศแก่เทวดาทั้งหลายให้มาฟังพระธรรมเทศนา
ในที่สุดพุทธมารดาได้ดวงตาเห็นธรรม เป็นพระโสดาบัน
****************************************************
ปางที่คุณเรียกว่าพุทธกวักชื่อจริงคือ *ปางประทานเอหิภิกขุ* เรียกแบบนี้จะดีกว่าเยอะนะครับถูกต้องกว่านะ
ลักษณะของพระพุทธรูปปางนี้
อยู่ในพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายหงายวางบนพระเพลา
พระหัตถ์ขวายกขึ้นตั้ง ฝ่าพระหัตถ์ตรงออกไป งอนิ้วพระหัตถ์ลงหน่อย
เป็นกิริยาทรงกวักจนบางแห่งดัดเรียกว่า พระพุทธกวัก
พระพุทธรูปปางนี้ มีตำนาน ดังนี้
เมื่อพระโกณฑัญญะ ได้ธรรมจักษุแจ่มแจ้งในธรรม สิ้นความสงสัยดำรงมั่นอยู่ในอริยคุณ
ชั้นพระเสขะเบื้องต้น จัดเป็นพระอริยะบุคคลชั้นพระโสดาบันแล้ว จึงได้ทูลขออุปสมบท
ในพระธรรมวินัยของสัมมาสัมพุทธเจ้า พระบรมศาสดาทรงอนุญาตให้ท่านเป็นภิกษุในธรรม
วินัยนี้ด้วยพระวาจาว่า "เอหิ ภิกขุ" เป็นอาทิ ความว่า "ท่านจงเป็นภิกษุมาเถิด ธรรมเรากล่าวดีแล้ว
ท่านจงประพฤติพรหมจรรย์เพื่อทำที่สุดทุกข์โดยชอบเถิด" ด้วยวาจาที่ตรัสเพียงเท่านี้
พระโกณฑัญญะก็สำเร็จเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา
การอุปสมบทอย่างนี้ เรียกว่า "เอหิภิกขุอุปสัมปทา"พระบรมศาสดาทรงเป็นพระอุปัชฌายะโดยเฉพาะ
และเป็นครั้งแรกที่พระองค์ทรงทำ ทรงเป็นพระอุปัชฌายะองค์แรก
พระพุทธจริยาที่พระบรมศาสดาทรงเป็นพระอุปัชฌายะ ประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาแก่พระโกณฑัญญะ
ซึ่งเป็นสิทธิวิหาริกองค์แรกของพระองค์ จัดเป็นนิมิตรมงคลอันดีของพระสงฆ์สาวกที่เจริญรุ่งเรือง
สืบมาจนบัดนี้ เป็นให้สร้างพระพุทธรูปปางนี้ เรียกว่า "ปางประทานเอหิภิกขุ"
ในวันต่อมา พระบรมศาสดาทรงเทศนาสั่งสอน พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานามะ และ พระอัสสชิ
ด้วยปกินกเทศนา ให้ท่านทั้ง ๔ รูป ได้บรรลุพระโสดาปัตติผล แล้วทรงประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทา
ให้ท่านทั้ง ๔ รูป เป็นพระภิกษุในพระธรรมวินัย ครั้นวันแรม ๕ ค่ำ เดือน ๘ ได้ทรงแสดงอนัตตลักขณสูตร
โปรดพระปัญจวัคคีย์ภิกษุทั้ง ๕ รูป นั้นได้บรรลุพระอรหัตต์ เป็นพระอเสขะอริยบุคคล ซึงดำรงอยู่ในอริยผล
สูงสุดในพระพุทธศาสนา นับเป็นพระสาวกที่ทรงอรหัตตสมบัติชุดแรกของพระบรมศาสดา .
(ทีมงาน narandd.com, หน้าร้านดีดี.com)
******************************