เชียงรายซ้อมแผนรับแผ่นดินไหวรอยเลื่อนแม่จัน

เชียงรายซ้อมแผนรับแผ่นดินไหวรอยเลื่อนแม่จัน
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 11 กรกฎาคม ที่ห้องประชุมโรงแรมแสนภูเพลส อ.เมือง จ.เชียงราย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เขต 15 ได้จัดให้มีพิธีเปิดโครงการฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับกลุ่มจังหวัดในพื้นที่รับผิดชอบคือ จ.เชียงราย จ.พะเยา จ.แพร่ และ จ.น่าน โดยใช้สถานที่รวมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ประกอบไปด้วยหน่วยบรรเทาสาธารณภัย โรงพยาบาล ทหาร ตำรวจ ฯลฯ ประมาณ 300 คน โดยมีนายสุรชัย ลิ้นทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานและนายธวัช ชัยธิมา รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ ปภ.เขต 15 นำกล่าวรายงาน ทั้งนี้การฝึกซ้อมกำหนดเหตุการณ์สมมติว่าเกิดเหตุวันที่ 10 ก.ค.และมีการซ้อมใหญ่รวมทั้งสรุปเหตุการณ์วันที่ 12 กรกฎาคม นี้

โดยการฝึกซ้อมดังกล่าวสมมติสถานการณ์ว่าเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงตรงรอยเลื่อนแม่จัน ซึ่งมีรอยผ่าน อ.แม่จัน-เชียงแสน และเป็นรอยใหญ่ที่เคยส่งผลกระทบในอดีตเกิดการเคลื่อนตัวขึ้นมาอีกครั้ง วัดแรงสั่นสะเทือนตามมาตราวัดริกเตอร์ได้ 6 ริกเตอร์ จนเกิดผลกระทบทำให้ตึก อาคาร บ้านเรือนประชาชนเสียหายเป็นบริเวณกว้างและมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยสมมติว่าเหตุเกิดวันที่ 10 ก.ค.และเกิดการสั่นสะเทือนตามมาหรืออาฟเตอร์บ็อคอีกอย่างน้อย 2 ครั้ง จนทำให้โรงพยาบาลในตัวเมือง โรงแรม ฯลฯ ทรุดตัวเสียหาย ดังนั้นทางศูนย์ ปภ.เขต 15 จึงสำรวจความเสียหายและจัดเตรียมกำลังพล วัสดุอุปกรณ์ ประสานฝ่ายต่างๆ เข้าร่วมช่วยเหลือประชาชนโดยใช้สถานที่ฝึกซ้อมที่โรงแรมหลายแห่งใน จ.เชียงราย โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โรงพยาบาลโอเวอร์บรู๊ค ฯลฯ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ศาลากลาง จ.เชียงราย หรือพื้นที่ศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร เชิงสะพานแม่ฟ้าหลวง อ.เมือง

นายสุรชัย ลิ้นทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การฝึกซ้อมรับภัยธรรมชาติเป็นสิ่งสำคัญเพราะตามปกติจะมีแผนเผชิญเหตุกันอยู่แล้ว แต่หากไม่นำแผนมาฝึกซ้อมก็จะเกิดปัญหาข้อขัดข้องขึ้นมาได้หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาจริง และส่งผลกระทบไปถึงผู้ประสบภัยที่ควรจะได้รับการช่วยเหลือในที่สุด สำหรับภัยที่เลือกฝึกปฏิบัติคือภัยแผ่นดินไหวก็ถือว่าเหมาะสมกับพื้นที่ เพราะภาคเหนือเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แม้ว่าที่ผ่านมาจะไม่ค่อยเกิดเหตุการณ์รุนแรง แต่ในอดีตก็มีรอยเลื่อนแม่จันซึ่งมีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการสั่นไหวรุนแรงมาแล้วรวมทั้งพื้นที่ 4 จังหวัดที่ร่วมฝึกซ้อมก็อยู่ในเขตที่อาจจะได้รับผลกระทบหากเกิดแผ่นดินไหวร่วมกันพอดี

รายงานจากกรมทรัพยากรธรณีระบุว่าในปัจจุบันภาคเหนือมีรอยเลื่อนใหญ่ๆ จำนวน 4 รอยคือรอยเลื่อนเชียงแสน รอยเลื่อนแม่จัน รอยเลื่อนแม่อิง และรอยเลื่อนมูลาว แต่หากรวมรอยเลื่อนในประเทศเพื่อนบ้านคือพม่าและ สปป.ลาว ที่อยู่ติดกันก็จะพบ่วามีรอยเลื่อนขนาดใหญ่เรียกว่ารอยเลื่อนสะแกอยู่ด้วย โดยผ่านกลางเมืองปิ่นมะนา ในอดีตเคยไหวมากถึง 7 ริกเตอร์ และทางตอนเหนือมีรอยเลื่อนน้ำมา ซึ่งได้ส่งผลกระทบครั้งรุนแรงเมื่อวันที่ 24 มี.ค.2554 จนทำให้รัฐฉานของพม่าเสียหายหนักมีบ้านเรือนพังและผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันพบมีชาว อ.แม่สาย เสียชีวิต 1 คน ส่วนฝั่งตะวันออกทาง สปป.ลาว มีรอยเลื่อนน้ำมาซึ่งยังแตกแขนงออกเป็นหลายรอย ซึ่งก็คือรอยเลื่อนแม่จัน แม่อิง ฯลฯ นั่นเอง

ที่มา: เนชั่นทันข่าว

---------------------------------