Username:
Password:
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
ปฏิทิน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
กลับหน้าร้านค้าออนไลน์
หน้าร้านดีดี บอร์ด
พระเกจิอาจารย์
พระคาถา
ประวัติพระเจ้า10ชาติ
(ผู้ดูแล:
ka1
,
pong
,
jacky
,
okay
)
ภูริทัตชาดก (1/2)
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
ส่งหัวข้อนี้
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ภูริทัตชาดก (1/2) (อ่าน 2783 ครั้ง)
ka1
Global Moderator
Sr. Member
ออฟไลน์
กระทู้: 496
เราจะทำเพื่อสังคม ทีมงานหน้าร้านดีดี.คอม
ภูริทัตชาดก (1/2)
«
เมื่อ:
มกราคม 24, 2010, 10:22:32 PM »
ภูริทัตชาดก (1/2)
พระราชาพระองค์หนึ่ง พระนามว่า "พรหมทัต" ครอง ราชสมบัติอยู่ที่เมืองพาราณสี
พระโอรสทรงดำรง ตำแหน่งอุปราช อยู่ต่อมาพระราชาทรงระแวงว่า พระโอรสจะคิดขบถ แย่งราชสมบัติ
จึงมีโองการให้ พระโอรสออกไปอยู่ให้ไกลเสียจากเมือง จนกว่าพระราชา จะสิ้นพระชนม์จึงให้กลับมารับราชสมบัติ
พระโอรสก็ปฏิบัติ ตามบัญชา เสด็จไปบวชอยู่ที่บริเวณแม่น้ำชื่อว่า "ยุมนา" มีนางนาคตนหนึ่งสามีตาย
ต้องอยู่แต่เพียงลำพัง เกิดความ ว้าเหว่จนไม่อาจทนอยู่ในนาคพิภพได้ จึงขึ้น มาจากน้ำ
ท่องเที่ยวไปตามริมฝั่งมาจนถึงศาลาที่พักของพระราชบุตร นางนาคประสงค์จะลองใจดูว่า
กบวชผู้พำนักอยู่ในศาลานี้ จะเป็นผู้ที่บวชด้วยใจเลื่อมใสอย่างแท้จริงหรือไม่ จึงจัดประดับ
ประดาที่นอนในศาลานั้นด้วยดอกไม้หอม และของทิพย์จาก เมืองนาค ครั้นพระราชบุตรกลับมา
ห็นที่นอนจัดงดงาม น่าสบายก็ยินดีประทับนอนด้วยความสุขสบายตลอดคืน
รุ่งเช้าก็ออกจากศาลาไป นางนาคก็แอบดู พบว่าที่นอน มีรอยคนนอน จึงรู้ว่านักบวชผู้นี้มิได้บวชด้วยความศรัธรา
เต็มเปี่ยม ยังคงยินดีในของสวยงาม ตามวิสัยคนมีกิเลส จึงจัดเตรียมที่นอนไว้ดังเดิมอีก ในวันที่สาม พระราชบุตรมีความสงสัยว่า
ใครเป็นผู้จัด ที่นอนอันสวยงามไว้ จึงไม่เสด็จออกไปป่า แต่แอบดูอยู่บริเวณ ศาลานั่นเอง เมื่อนางนาคเข้ามาตกแต่งที่นอน
พระราชบุตร จึงไต่ถามนางว่า นางเป็นใครมาจากไหน นางนาคตอบว่า นางเป็นนาคชื่อมาณวิกา นางว้าเหว่าที่สามีตาย
จึงออกมา ท่องเที่ยวไป พระราชบุตรมีความยินดีจึงบอกแก่นางว่า หากนางพึงพอใจจะอยู่ที่นี่ พระราชบุตรก็จะอยู่ด้วยกับนาง
นางนาคมาณวิกาก็ยินดี ทั้งสองจึงอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยา จนนางนาคประสูติโอรสองค์หนึ่ง ชื่อว่า "สาครพรหมทัต"
ต่อมาก็ประสูติพระธิดาชื่อว่า "สมุททชา"
ครั้นเมื่อพระเจ้าพรหมทัตสวรรคต บรรดาเสนาอำมาตย์ ทั้งหลายไม่มีผู้ใดทราบว่าพระราชบุตรประทับ
อยู่ ณ ที่ใด บังเอิญพรานป่าผู้หนึ่งเข้ามาแจ้งข่าวว่า ตนได้เคยเที่ยวไปแถบ แม่น้ำยมุนา
และได้พบพระราชบุตรประทับอยู่บริเวณนั้นอำมาตย์ จึงได้จัดกระบวนไปเชิญเสด็จพระราชบุตรกลับมาครองเมือง
พระราชบุตรทรงถามนางนาคมาณวิกาว่า จะไปอยู่ เมืองพาราณสีด้วยกันหรือไม่ นางนาคทูลว่า
"วิสัยนาค นั้นโกรธง่ายและมีฤทธิ์ร้าย หากหม่อมฉันเข้าไปอยู่ในวัง แล้วมีผู้ใดทำให้โกรธ เพียงหม่อมฉัน
ถลึงตามอง ผู้นั้นก็จะ มอดไหม้ไป พระองค์พาโอรสธิดากลับไปเถิด ส่วนหม่อมฉัน ขอทูลลากลับไปอยู่เมืองนาค
ตามเดิม" พระราชบุตรจึงพา โอรสธิดากลับไปพาราณสีอภิเษกเป็นพระราชา อยู่มาวันหนึ่ง
ขณะที่โอรสธิดาเล่นน้ำอยู่ในสระ เกิดตกใจกลัวเต่า ตัวหนึ่ง พระบิดาจึงให้คนจับเต่านั้นไป ทิ้งที่วันน้ำวนในแม่น้ำ
ยมุนา เต่าจมลงไปถึงเมืองนาค เมื่อถูกพวกนาคจับไว้ เต่าก็ออก อุบาย บอกแก่ นาคว่า "เราเป็นทูตของพระราชาพาราณสี
พระองค์ ให้เรามาเฝ้าท้าวธตรฐ พระราชทานพระธิดาให้เป็นพระชายา ของท้าวธตรฐ เมืองพาราณสีกับนาคพิภพจะได้เป็นไมตรีกัน"
ท้าวธตรฐทรงทราบก็ยินดี สั่งให้นาค 4 ตนเป็นทูตนำ บรรณาการไปถวายพระราชาพาราณสีและขอรับตัว
พระธิดามาเมืองนาค พระราชาทรงแปลกพระทัย จึงตรัสกับ นาคว่า "มนุษย์กับนาคนั้นต่างเผ่าพันธุ์กัน
จะแต่งงานกัน นั้นย่อมเป็นไปไม่ได้" เหล่านาคได้ฟังดังนั้น จึงกลับไปกราบทูลท้าวธตรฐว่า
พระราชาพาราณสีทรงดูหมิ่นว่านาคเป็นเผ่าพันธุ์งู ไม่คู่ควรกับพระธิดา ท้าวธตรฐทรงพิโรธ ตรัสสั่งให้ฝูงนาค
ขึ้นไปเมืองมนุษย์ ไปเที่ยวแผ่พังพานแสดง อิทธิฤทธิ์อำนาจ ตามที่ต่างๆ แต่มิให้ทำอันตรายชาวเมือง
ชาวเมืองพากันเกรงกลัวนาคจนไม่เป็นอันทำมาหากิน
ในที่สุดพระราชาก็จำพระทัยส่ง นางสมุททชา ให้ไปเป็นชายา ท้าวธตรฐ นางสมุททชาไปอยู่เมืองนาค
โดยไม่รู้ว่าเป็นเมืองนาค เพราะท้าวธตรฐให้เหล่า บริวารแปลงกายเป็นมนุษย์ทั้งหมด นางอยู่นาคพิภพด้วยความสุขสบาย
จนมีโอรส 4 องค์ ชื่อว่า สุทัศนะ ทัตตะ สุโภคะ และ อริฏฐะ อยู่มาวันหนึ่ง อริฏฐะได้ฟังนาคเพื่อนเล่นบอกว่า
พระมารดาของตนไม่ใช่นาค จึงทดลองดูโดยเนรมิต กายกลับเป็นงู ขณะที่กำลังกินนมแม่อยู่ นางสมุททชาเห็นลูก
กลายเป็นงูก็ตกพระทัย ปัดอริฏฐะตกจากตัก เล็บของนาง ไปข่วนเอานัยน์ตาอรฏฐะบอดไปข้างหนึ่ง ตั้งแต่นั้นมา
นางจึงรู้ว่าได้ลงมาอยู่เมืองนาค ครั้นเมื่อพระโอรสทั้ง 4 เติบโตขึ้น ท้าวธตรฐก็ทรงแบ่งสมบัติ ให้ครอบครองคนละเขต
ทัตตะผู้เป็นโอรส องค์ที่สองนั้น มาเฝ้าพระบิามารดาอยู่เป็นประจำ ทัตตะเป็นผู้มีปัญญา เฉลียวฉลาดได้ช่วยพระบิดาแก้ไข
ปัญหาต่างๆอยู่เป็นนิตย์ แม้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเทวดา ทัตตะก็แก้ไขได้จึงได้รับการยกย่อง สรรเสริญว่า เป็นผู้ปรีชาสามารถ
ได้รับขนานนามว่า ภูริทัตต์ คือ ทัตตะผู้เรืองปัญญา ภูริทัตต์ได้เคยไปเห็นเทวโลก ว่าเป็นที่น่ารื่นรมย์จึงตั้งใจว่า
จะรักษาอุโบสถศีลเพื่อจะได้ไปเกิดใน เทวโลก จึงทูล ขออนุญาตพระบิดา ก็ได้รับอนุญาต แต่ท้าวธตรฐสั่งว่า
มิให้ออกไปรักษาอุโบสถนอก เขตเมืองนาค เพราะอาจ เป็นอันตราย ครั้นเมื่อรักษาศีลอยู่ในเมืองนาค ภูริทัตต์
รำคาญว่าพวกฝูงนาคบริวาร ได้ห้อมล้อม ปรนนิบัติเฉพาะในตอนเช้าเท่านั้น ตั้งแต่นั้นมา ภูริทัตต์ก็ขึ้นไปรักษาอุโบสถศีล
อยู่ที่จอมปลวก ใกล้ต้นไทรริมแม่น้ำยมุนา ภูริทัตต์ตั้งจิต อธิษฐานว่า แม้ผู้ใดจะต้องการหนัง เอ็น กระดูก เลือดเนื้อของตน
ก็จะยอมบริจาคให้ ขอเพียงให้ได้ รักษาศีลให้บริสุทธิ์ ครั้งนั้นมีนายพรานชื่อ เนสาท ออกเที่ยวล่าสัตว์ เผอิญได้ พบภูริทัตต์เข้า
สอบถามรู้ว่าเป็นโอรสของ ราชาแห่งนาค ภูริทัตต์เห็นว่าเนสาทเป็นพรานมีใจบาปหยาบช้า อาจเป็น อันตรายแก่ตน จึงบอกแก่
พรานเนสาทว่า "เราจะพาท่าน กับลูกชาย ไปอยู่เมืองนาคของเรา ท่านทั้งสองจะมีความสุข สบายในเมือง นาคนั้น"
พรานเนสาทลงไปอยู่เมืองนาค ได้ไม่นาน เกิดคิดถึงเมืองมนุษย์จึงปรารภกับภูริทัตต์ว่า "ข้าพเจ้าอยากจะกลับไปเยี่ยมญาติพี่น้อง
แล้วจะออกบวช รักษาศีลอย่างท่านบ้าง" ภูริทัตต์รู้ด้วยปัญญาว่าพรานจะเป็นอันตรายแก่ตน แต่ก็ไม่ทราบจะทำอย่างไรดี
จึงต้องพาพรานกลับไป เมืองมนุษย์ พรานพ่อลูกก็ออกล่าสัตว์ต่อไปตามเดิม มีพญาครุฑตนหนึ่งอาศัยอยู่บนต้นงิ้ว
ทางมหาสมุทรด้านใต้ วันหนึ่งขณะออกไปจับนาคมากินนาคเอา หางพันกิ่งไทรที่อยู่ ท้ายศาลาพระฤาษี จนต้นไทรถอนรากติดมาด้วย
ครั้นครุฑ ฉีกท้องนาคกินมันเหลว แล้วทิ้งร่างนาคลงไป จึงเห็นว่า มีต้นไทรติดมาด้วย ครุฑรู้สึกว่าได้ทำผิด คือถอนเอา
ต้นไทรที่พระฤาษี เคยอาศัยร่มเงา จึงแปลงกายเป็นหนุ่ม น้อยไปถามพระฤาษีว่า เมื่อต้นไทรถูกถอนเช่นนี้ กรรมจะตก
อยู่กับใคร พระฤาษีตอบว่า "ทั้งครุฑและนาคต่างก็ไม่มี เจตนาจะถอนต้นไทรนั้น กรรมจึงไม่มีแก่ผู้ใดทั้งสิ้น"
ครุฑดีใจจึงบอกกับพระฤาษีว่าตนคือครุฑ เมื่อพระฤาษี ช่วยแก้ปัญหาให้ตนสบายใจขึ้นก็จะสอนมนต์ชื่อ อาลัมพายน์
อันเป็นมนต์สำหรับครุฑใช้จับนาค ให้แก่พระฤาษี อยู่มาวันหนึ่ง มีพราหมณ์ซึ่งเป็นหนี้ชาวเมืองมากมาย จนคิด ฆ่าตัวตาย
จึงเข้าไปในป่า เผอิญได้พบพระฤาษี จึงเปลี่ยนใจ อยู่ปรนนิบัติพระฤาษีจนพระฤาษีพอใจ สอนมนต์อาลัมพายน์ ให้แก่พราหมณ์นั้น
พราหมณ์เห็นทางจะเลี้ยงตนได้ จึงลา พระฤาษีไป เดินสาธยายมนต์ไปด้วย นาคที่ขึ้นมาเล่นน้ำ ได้ยินมนต์ก็ตกใน
นึกว่าครุฑมา ก็พากันหนีลงน้ำไปหมด ลืมดวงแก้วสารพักนึกเอาไว้บนฝั่ง พราหมณ์หยิบ ดวงแก้วนั้นไป
ฝ่ายพรานเนสาทก็เที่ยวล่าสัตว์อยู่ เห็นพราหมณ์เดินถือ ดวงแก้วมา จำได้ว่าเหมือนดวงแก้วที่ภูริทัตต์ เคยให้ดู
จึงออกปากขอ และบอกแก่พราหมณ์ว่า หากพราหมณ์ ต้องการอะไรก็จะหามาแลกเปลี่ยน พราหมณ์บอกว่าต้องการ
รู้ที่อยู่ของนาค เพราะตนมีมนต์จับนาค พรานเนสาทจึงพา ไปบริเวณที่รู้ว่า ภูริทัตต์เคยรักษาศีลอยู่ เพราะความโลภ
อยากได้ดวงแก้ว โสมทัตผู้เป็นลูกชาย เกิดความละอายใจที่บิดาไม่ซื่อสัตย์ คิดทำร้ายมิตร คือภูริทัตต์ จึงหลบหนีไป
ระหว่างทาง เมื่อไปถึงที่ภูริทัตต์รักษาศีลอยู่ ภูริทัตต์ลืมตาขึ้นดูก็รู้ว่า พราหมณ์คิดทำร้ายตน แต่หากจะตอบโต้ ถ้าพราหมณ์เป็น
อันตรายไป ศีลของตนก็จะขาด ภูริทัตต์ปรารถนาจะรักษาศีล ให้บริสุทธิ์จึงหลับตาเสีย ขดกายแน่นิ่งไม่เคลื่อนไหว
พราหมณ์ก็ร่ายมนต์อาลัมพายน์ เข้าไปจับภูริทัตต์ไว้กด ศีรษะอ้า ปากออก เขย่าให้สำรอกอาหารออกมา และทำร้าย
จนภูริทัตต์เจ็บปวดแทบสิ้นชีวิต แต่ก็มิได้โต้ตอบ พราหมณ์จับ ภูริทัตต์ใส่ย่ามตาข่าย แล้วนำไปออกแสดงให้ประชาชนดูเพื่อหาเงิน
พราหมณ์บังคับให้ภูริทัตต์แสดงฤทธิ์ต่างๆ ให้เนรมิตตัวให้ ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง ให้ขด ให้คลาย แผ่พังพาน ให้ทำสีกายเป็น
สีต่างๆ พ่นไฟ พ่นควัน พ่นน้ำ ภูริทัตต์ก็ยอมทุกอย่าง ชาวบ้าน ที่มาดูเวทนาสงสาร จึงให้ ข้าวของเงินทอง พราหมณ์ก็ยิ่งโลภ
พาภูริทัตต์ไปเที่ยวแสดง
จนมาถึงเมืองพาราณสี จึงกราบทูล พระ ราชาว่าจะให้นาคแสดงฤทธิ์ถวายให้ทอดพระเนตร ขณะนั้นสมุททชา ผิดสังเกตที่ภูริทัตต์หายไป
ไม่มาเฝ้า จึงถามหา ในที่สุดก็ทราบว่า ภูริทัตต์หายไป พี่น้องของภูริทัตต์ จึงทูลว่าจะออกติดตาม สุทัศนะจะไปโลกมนุษย์
สุโภคะไป ป่าหิมพานต์ อริฏฐะไป เทวโลกส่วนนางอัจจิมุข ผู้เป็นน้องสาว ต่างแม่ของภูริทัตต์ของตามไปกับสุทัศนะพี่ชายใหญ่ด้วย
เมื่อติดตามมาถึงเมืองพาราณสี สุทัศนะก็ได้ข่าวว่ามีนาค ถูกจับมาแสดงให้คนดู จึงตามไปจนถึงบริเวณที่แสดง ภูริทัตต์เห็นพี่ชาย
จึงเลื้อยไข้าไปหาซบหัวร้องไห้อยู่ที่เท้า ของสุทัศนะแล้วจึงเลื้อยกลับไปเข้าที่ขัง ของตนตามเดิม พราหมณ์จึงบอกกับสุทัศนะว่า
"ท่านไม่ต้องกลัว ถึงนาคจะ กัดท่านไม่ช้าก็จะหาย" สุทัศนะตอบว่า "เราไม่กลัวดอก นาคนี้ไม่มีพิษ ถึงกัดก็ไม่มีอันตราย"
พราหมณ์หาว่าสุทัศนะ ดูหมิ่นว่าตน เอานาคไม่มีพิษมาแสดง จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้น สุทัศนะจึงท้าว่า
"เขียดตัวน้อยของเรานั้นยังมีพิษมากกว่า นาคของท่านเสียอีก จะเอามาลองฤทธิ์กันดูก็ได้" พราหมณ์ กล่าวว่าหากจะให้สู้กัน
ก็ต้องมีเดิมพันจึงจะสมควร สุทัศนะจึง ทูลขอพระราชาพาราณสีให้เป็นผู้ประกันให้ตน โดยกล่าวว่า พระราชาจะได้ทอด
พระเนตรการต่อสู้ระหว่างนาคกับเขียด เป็นการตอบแทน พระราชาก็ทรงยอมตกลงประกันให้แก่ สุทัศนะ สุทัศนะเรียก
นางอัจจิมุข ออกมาจากมวยผมให้คายพิษ ลงบนฝ่ามือ 3 หยด แล้วทูลว่า "พิษของเขียดน้อยนี้แรงนัก
เพราะนางเป็นธิดาท้าวธตรฐ ราชาแห่งนาค หากพิษนี้หยดลง บนพื้นดิน พืชพันธุ์ไม้จะตายหมด หากโยนขึ้นไปในอากาศ
ฝนจะไม่ตกไป 7 ปี ถ้าหยดลงในน้ำสัตว์น้ำจะตายหมด" พระราชาไม่ทราบจะทำอย่างไรดี สุทัศนะจึงทูลขอให้ ขุดบ่อ 3
บ่อบ่อแรกใส่ยาพิษ บ่อที่สองใส่โคมัย บ่อที่สามใส่ยาทิพย์ แล้วจึงหยดพิษลงในบ่อแรก ก็เกิดควันลุกจนเป็นเปลวไฟ
ลามไปติดบ่อที่สองและสาม จนกระทั่งยาทิพย์ไหม้หมด ไฟจึงดับ พราหมณ์ตัวร้าย ซึ่งยืนอยู่ข้างบ่อ ถูกไอพิษจนผิวหนังลอก
กลายเป็นขี้เรื้อน ด่างไปทั้งตัว จึงร้องขึ้นว่า "ข้าพเจ้ากลัวแล้ว ข้าพเจ้าจะ ปล่อยนาคนั้นให้เป็นอิสระ" ภูริทัตต์ได้ยินดังนั้น
ก็เลื้อยออกมาจากที่ขัง เนรมิตกาย เป็นมนุษย์ พระราชาจึงตรัสถามความเป็นมา ภูริทัตต์จึงตอบว่า
"ข้าพเจ้าและพี่น้องเป็นโอรสธิดาของท้าวธตรฐราชาแห่งนาคกับ นางสมุททชา ข้าพเจ้ายอมถูกจับมา ยอมให้พราหมณ์ทำร้ายจน
บอบช้ำ เพราะปราถนาจะรักษาศีล บัดนี้ข้าพเจ้าเป็น อิสระแล้ว จึงขอลากลับไปเมืองนาคตามเดิม" พระราชาทรงดีพระทัยเพราะ
ทราบว่าภูริทัตต์เป็นโอรสของ นางสมุททชา น้องสาวของพระองค์ที่บิดายกให้แก่ราชานาคไป จึงเล่าให้ภูริทัตต์และพี่น้องทราบว่า
เมื่อนางสมุททชาไปสู่ เมืองนาคแล้ว พระบิดาก็เสียพระทัย จึงสละราชสมบัติ ออกบวช พระองค์จึงได้ครองเมืองพาราณสีต่อมา
พระราชาประสงค์จะให้ นางสมุททชาและบรรดาโอรสได้ไป เฝ้าพระบิด จะได้ทรงดีพระทัย สุทัศนะทูลพระราชาว่า
"ข้าพเจ้าจะ กลับไปทูลให้พระมารดาทราบ ขอให้พระองค์ ไปรออยู่ที่อาศรมของพระอัยกาเถิด ข้าพเจ้าจะพา
พระมารดาและพี่น้องตามไปภายหลัง" ทางฝ่ายพรานเนสาท ผู้ทำร้ายภูริทัตต์เพราะหวังดวงแก้ว สารพัดนึก
เมื่อตอนที่พราหมณ์โยนดวงแก้วให้ นั้น รับไม่ทัน ดวงแก้วจึงตกลงบนพื้นและแทรกธรณีกลับไปสู่เมืองนาค พรานเนสาทจึงสูญเสียดวงแก้ว
สูญเสียลูกชาย และเสียไมตรี กับภูริทัตต์ เที่ยวซัดเซพเนจรไป
มีต่อ
******************************************
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2010, 10:28:29 PM โดย ka1
»
บันทึกการเข้า
เราจะเป็นผู้ให้ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
(หากมีแต่ ผู้ขอ แล้วคัยจะเป็นผู้ให้ละ)
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
ส่งหัวข้อนี้
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
การเข้าใช้งาน หน้าร้านดีดี.com
-----------------------------
=> ป้ายร้านค้า/หน้าร้านดีดี
=> การเข้าล็อคอิน-บอร์ด-หน้าร้านดีดี ครั้งแรก
=> การเข้าหลังบ้าน-เว็บลูกค้า-หน้าร้านดีดี
-----------------------------
ห้องพูดคุยทั่วไป
-----------------------------
=> พูดคุยทั่วไป-ชุมชนออนไลน์หน้าร้านดีดี.com
=> ห้องหนัง-ภาพยนตร์
=> ห้องข่าว
=> ประวัติคนดัง
=> ห้องท่องเที่ยว
=> ห้องอาหารการกิน
=> ปั๊มเติมแก๊ส LPG
=> ห้องเกาหลี
-----------------------------
Special Zone
-----------------------------
=> ห้องเคล็ดลับสุขภาพ ความงาม
=> ห้องเคล็ดลับคลินิกรัก
=> ห้องสมุนไพรน่ารู้
=> ห้องสูตรอาหาร
-----------------------------
Holoworld
-----------------------------
=> ห้องดวง-ราศี
=> ดวงชะตาคนดัง
=> ภาพพิธีกรรมต่างๆ
=> วิชาพยากรณ์ต่างๆ
=> รวมดูดวงฟรี
===> ดูดวง,ประจำราศีโดย อ.นัท
===> ดูดวงฟรี ประจำเดือน (หมอดู ฮาว-ทู)
===> ดูดวงคำพยากรณ์ดวงฟรีประจำเดือน โดย อ.ภคนนท
-----------------------------
Entertain Zone
-----------------------------
=> ห้องบทกวี
===> ห้องบทกลอน
===> ห้องบทเพลงลูกทุ่ง
===> ห้องเพลงสตริง
=====> ติ๊กชีโร่
=====> แอม เสาวลักษณ์
=====> ดา เอ็นโดรฟิน
=====> เสก โลโซ
=> เรื่องราวแบ่งปันรอยยิ้ม
=> ห้องดูของแปลก
=> เรื่องขำขัน เฮฮา
=> ห้องตรวจผลสลาก
===> ผลการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล
-----------------------------
คนรักเชียงใหม่,ลำพูน,
-----------------------------
=> ห้องพูดคุยของคนรักเชียงใหม่,ลำพูน
=> ข่าวเชียงใหม่,ลำพูน
=> คนเด่นคนดังเชียงใหม่,ลำพูน
=> ตะลุยเดี่ยวกินเที่ยว กับ รวิวรรณ
-----------------------------
คนรักเมืองนนทบุรี,ปทุมธานี
-----------------------------
=> รวมข้อมูลจังหวัดนนทบุรี
=> ห้องพูดคุยของคนรักเมืองนนท์,ปทุมธานี,
=> ข่าวเมืองนนทบุรี,ปทุมธานี
-----------------------------
คนรักเมืองระยอง,ชลบุรี,จันทบุรี
-----------------------------
=> รวมข้อมูลจังหวัดระยอง
=> รวมข้อมูลจังหวัดชลบุรี
=> ห้องพูดคุยทั่วไปคนรักเมืองระยอง,ชลบุรี,จัน
=> ห้องโปรโมท-คนเมืองระยอง,ชลบุรี,จันทบุรี
=> ข่าวสารเมืองระยอง,ชลบุรี,จันทบุรี
-----------------------------
Information Zone
-----------------------------
=> ข่าวประชาสัมพันธ์ / จังหวัด
===> กรุงเทพมหานคร
=> แจ้งข่าวฝาก-ข่าวเตือนภัย
=> ห้องรวมโปรโมชั่น-ของถูก
=> ห้องโปรโมทร้านค้าต่างๆ
=> ประกาศรับสมัครงาน
-----------------------------
Zafira Club
-----------------------------
=> zafira-ห้องแนะนำตัว
=> zafira-ห้องแก้ปัญหาการใช้งานของรถซาฟิร่า
=> zafira-ห้องอยากซื้อ-อยากขาย
-----------------------------
คนรักเครื่องเสียงรถยนต์
-----------------------------
=> ห้องพูดคุยของคนรักเครื่องเสียงรถยนต์,
=> จัดชุดโปรโมชั่น
=> ประกาศรับสมัครงาน
=> ร้านเครื่องเสียงรถยนต์
-----------------------------
ชุมชนคนรักรถ
-----------------------------
=> carlover club
===> Chevrolet
=====> CAPTIVA Club
=====> OPTRA Club
=====> AVEO Club
===> Honda
=====> City
=====> Jazz
===> Toyota
=====> Vigo
=====> Yaris
=====> Fortuner
=====> Vios
===> Isuzu
===> Proton
-----------------------------
ศาสนา & วัดวาอาราม & สวนสาธารณะ & พิพิธภัณฑ์
-----------------------------
=> ศาสนา-วัดวาอาราม-พระอารามหลวง
===> ข่าวฝากจากทางวัด
=> คริสต์ศาสนา
=> พระราชวัง & พระที่นั่ง
=> ศาลเจ้า
=> พิพิธภัณฑ์ & สมาคม
=> สวนสาธารณะ
=> ตลาด & ตลาดน้ำ
-----------------------------
เกษตร Zone
-----------------------------
=> ปลา
===> ปลากะพง
===> ปลาหมอสี
===> ปลาทอง
=> ไก่
===> ไก่ชน
=> จิ้งหรีด
=> การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
-----------------------------
พระเกจิอาจารย์
-----------------------------
=> พระเกจิอาจารย์
===> ครูบาเจ้าศรีวิชัย
===> หลวงปู่ทวด วัดช้างให้
===> หลวงพ่อโต วัดระฆัง
===> หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ
===> หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
===> หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
===> หลวงพ่อทบ ธมฺมปณฺโญ วัดช้างเผือก
===> หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
===> หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
===> หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
===> หลวงปู่เส็ง วัดบางนา
===> หลวงปู่ทิม อตฺตสนฺโต
===> หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
===> หลวงปู่นอง วัดวังศรีทอง
===> หลวงพ่อศรีเมือง
===> พ่อปั้น กตปณฺโณ
===> หลวงพ่อโกย ชุติมนฺโต
===> หลวงพ่อโป่ย ปัญญาทีโป
===> หลวงพ่อสีห์ สีหะเตโช
===> หลวงพ่อสมจิตร สุจิตฺโต
===> พระอาจารย์สุนทร นนฺทปญฺโญ
===> หลวงพ่อเอิบ วัดขนมหม้อแกง
===> หลวงปู่คำบุ คุตตจิตโต
===> หลวงปู่อิน เขมเทโว
===> หลวงพ่อตัด วัดชายนา
===> หลวงพ่อท่านเอื้อม วัดบางเนียน
=> พระคาถา
===> แนวปฎิบัติกรรมฐาน
===> พระคาถามนต์พิธี
===> ประวัติพระเจ้า10ชาติ
===> พญานาคราช
===> พญาครุฑ
===> ตู้พระธรรมเถระเจ้า
===> รวมคาถาพระเกจิ
=====> พระคาถา-ทั่วไป
=====> รวมพระคาถาบูชาพ่อแก่ & ฤาษี108
=====> รวมพระคาถาบูชาพระพุทธรูป
=====> รวมพระคาถาบูชาเทพวีรกษัตริย์ไทยทั้งหลาย
=====> รวมพระคาถาบูชาเทพต่างๆทั้งหลาย
=====> รวมพระคาถาต่างๆ
===> อานิสงส์การทำบุญ
กำลังโหลด...