Username:

Password:



  • หน้าแรก
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • ปฏิทิน
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
  • กลับหน้าร้านค้าออนไลน์
หน้าร้านดีดี บอร์ด ห้องพูดคุยทั่วไป ห้องข่าว (ผู้ดูแล: ka1, jacky, okay) ชทพ.เตรียมนำ5พรรคร่วมฯยื่นญัตติแก้รธน. 3 ก.พ.นี้
หน้า: [1]   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
ส่งหัวข้อนี้พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ชทพ.เตรียมนำ5พรรคร่วมฯยื่นญัตติแก้รธน. 3 ก.พ.นี้  (อ่าน 2678 ครั้ง)
jacky
Global Moderator
Full Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 249


ชทพ.เตรียมนำ5พรรคร่วมฯยื่นญัตติแก้รธน. 3 ก.พ.นี้
« เมื่อ: มกราคม 31, 2010, 10:09:02 PM »

ชทพ.เตรียมนำ5พรรคร่วมฯยื่นญัตติแก้รธน. 3 ก.พ.นี้
 31 มค. 2553 18:53 น.

นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.)
 กล่าวถึงกรณี นายเทพไทย เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถึงกรณีที่วิจารณ์การทำงาน
ในฐานะโฆษกพรรค ชทพ.กับโฆษกรัฐบาลต้องแยกกันให้ออกว่า ตนเองไม่ถือสานายเทพไท
และไม่เห็นความสำคัญของนายเทพไทมากนัก เพราะทราบอยู่ว่านายเทพไทเป็นคนแบบไหน
ดังนั้นการที่เขายิ่งมาพูดในแง่การวิจารณ์บุคคล แทนที่จะพูดหลักการ ทำให้ไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ประชาชน
และการเมือง ทั้งนี้การที่ตนไม่ให้ความสำคัญต่อนายเทพไทนั้น เพราะตนจะมองที่โฆษกพรรค ปชป.
หรือผู้บริหารท่านอื่นเป็นหลักมากกว่า เพราะถือเป็นสัญญาณหลักที่ออกมาจากพรรค ไม่ใช่จากตัวบุคคล
เพราะการแสดงความคิดเห็นของนายเทพไทนั้น ล้วนเป็นการแสดงความเห็นส่วนบุคคล ซึ่งบางครั้งหาสาระไม่ได้

นายวัชระ กล่าวต่อว่า ส่วนที่นายเทพไทกำลังสับสนบทบาทของตัวเอง ถึงกับไปบอกนายปณิธาน วัฒนายากร
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ต้องควบคุมตนเองนั้น คิดว่านายเทพไทคงสับสน ตนยอมรับว่าสวมหมวก /2 ใบ
 แต่ทั้ง 2 ตำแหน่งถือเป็นตำแหน่งทางการทั้งสิ้น มีกฎระเบียบและกฎหมายรองรับ และทุกครั้งที่ตน
ให้สัมภาษณ์ก็รู้บทบาทรู้หน้าที่ของตัวเองดี ไม่ว่าจะให้สัมภาษณ์ในฐานะรองโฆษกรัฐบาล หรือโฆษกพรรค ชทพ.
 เพราะตนถือว่าทั้ง 2 ตำแหน่งล้วนมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และการสัมภาษณ์แต่ละครั้งตนแยกบทบาทและหน้าที่ได้ชัดเจน
หรือนายเทพไทจะลองถามายปณิธานก็ได้ว่าการทำหน้าที่รองโฆษกรัฐบาลของตนมีขาดตกบกพร่องอย่างไร
 เพราะทุกครั้งที่ตนปฏิบัติหน้าที่ก็ทำอย่างเต็มที่ มีผลงานให้สังคมได้ประจักษ์มาตลอด ไม่เคยวิจารณ์ตัวนายกรัฐมนตรี
หรือรัฐบาลในเชิงเสียหาย แต่ตรงกันข้ามเวลาเอยถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ตนแสดงความชื่นชมและเชียร์โดยตลอด
ไม่ว่าในขณะนั้นกำลังพูดคุยกับสีอะไรก็ตาม

นายวัชระ กล่าวอีกว่า ส่วนการเป็นโฆษกพรรค ชทพ.ย่อมมีการพูดคุยหรือแถลงถึงเรื่องการเมืองเป็นธรรมดา
ซึ่งนายเทพไทที่เป็น ส.ส.มานาน ย่อมรู้ดีว่า การทำหน้าที่โฆษกพรรคการเมืองต้องปกป้องประโยชน์ของพรรค
ดังนั้นเมื่อพรรคการเมืองมีความเห็นแตกต่างกันในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ(รธน.) แล้วจะให้ตนแถลงชื่นชม
หรือเชียร์อีกฝ่ายหนึ่ง เพราะตนก็ต้องรักษาอุดมการณ์ของพรรค ชทพ. แต่นายเทพไทเองไม่ควรหยิบยกขึ้นมาพูด
ควรต่างคนต่างทำหน้าที่ และตนมองว่าเป็นเรื่องประหลาดที่นายเทพไท เอาเรื่องการทำหน้าที่ของตนไปพูดคุย
กับนายปณิธานเพื่อขอให้มาควบคุมดูแลการทำหน้าที่ของตน เพราะนั่นมันไม่เกี่ยวกับเรื่องการสนับสนุนแก้ไข รธน.

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายเทพไท ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ผิดสัญญาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายวัชระ กล่าวว่า
ถึงวันนี้คงพิสูจน์ไม่ได้ แต่ถ้าพิสูจน์ก็คงง่าย ไม่ยาก ถ้าจะวัดจาก 5 พรรคร่วมรัฐบาลที่ได้มีความคิดเห็นตรงกัน
แต่มีเพียงพรรคประชาธิปัตย์พรรคเดียวที่พูดไม่เหมือนเพื่อน ถึงวันนี้เรารู้สึกเห็นใจนายสุเทพที่พยายามประนีประนอม
และตนเห็นด้วยกับการที่นายแพทย์บุรณัติที่พยายามให้พรรคร่วมทำงานเพื่อให้รัฐบาลเดินต่อไปได้
เพราะเรามีเรื่องอื่นๆที่สำคัญต้องทำอยู่มากแต่เรื่องรัฐธรรมนูญก็เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นสัญญาระหว่าง
พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด จะมีอยู่จริงหรือไม่ จึงไม่ใช่เรื่องที่พิสูจน์ยาก เพราะถ้า 5 พรรคพูดเหมือนกันแต่มีเพียง 1 พรรค
ที่พูดไม่เหมือน แสดงว่าต้องมีฝ่ายหนึ่งเข้าใจผิดตั้งแต่วันที่ได้หารือตกลงในวันจัดตั้งรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตามถึงวันนี้มันเลย
ไปแล้วที่จะมาพูดถึงว่ามีสัญญาหรือไม่ ต้องให้สังคมตัดสินเอาเอง แต่พรรค ชทพ.ต้องผลักดันให้มีการแก้ไข รธน.ให้ได้
ส่วนกรณีที่นายเพทไทระบุว่าให้ตนไปดูภูมิหลังของบางพรรคที่ถูกเรียกว่าปลาไหลนั้น ตนเชื่อว่านักการเมืองทุกคนทุกพรรค
ไม่มีคนไหนพรรคไหนที่จะดีหมดทุกเรื่อง ไม่เคยด่างพร้อยผิดพลาด ชทพ.ก็มี ปชป.ก็มี จึงป่วยการที่จะขุดอดีต
ไปพูดแล้วถ้าตนขุดเรื่องสปก.4-01 ขึ้นมาอีก คงมีคนฟังมีคนดูหนังเรื่องนี้เหมือนกัน นายเทพไทเป็นนักการเมืองมานาน
ก็ไม่น่าขุดหนังเก่ามาฉายซ้ำ อย่าให้ประชาชนเบื่อการเมือง ตนไม่เห็นประโยชน์ที่ไปเอาขุดเรื่องเก่ามาพูดเพราะมันย่าง
จะทำให้นายเทพไทเองถูกประชาชนมองว่าพูดเรื่องไม่มีประโยชน์

“ผมขอพูดถึงคุณเทพไทครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย เพราะประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร กลัวประชาชนเบื่อหน่าย
และรังเกียจพรรคการเมืองมากขึ้นที่เอาประเด็นส่วนตัวมาขยาย แต่ก็อยากขอบคุณนายเทพไท
ที่มาสอนเรื่องมารยาทการเมืองให้กับผม ผมให้เกียรติ เพราะคุณเทพไทเป็นส.ส.มานานกว่า ถึงแม้ว่าผมจะ
ไม่เคยเป็นส.ส.เลยก็ตาม แต่การเป็นส.ส.ไม่ใช่ว่าคนที่ได้เป็นแล้วจะเก่งที่สุดดีที่สุด อย่ามองคนที่ไม่ได้เป็น
 ส.ส.ว่าอ่อนด้อยหรือโง่กว่าตัวเอง อย่ายกตนข่มท่าน เพราะถ้าคนที่เป็นส.ส.ได้แล้วคิดว่าตัวเองเก่งที่สุดดีที่สุด
การเมืองไทยคงไม่เป็นอย่างนี้” นายวัชระ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย จะนำรายชื่อมาส่งให้กับ ชทพ.ในวันจันทร์ที่ 1 ก.พ.53 นายวัชระ กล่าวว่า
ทราบว่าการรวบรวมรายของแต่ละพรรคเสร็จเรียบร้อยแล้ว และคงนำมาส่งให้กับนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ชทพ.
ในวันจันทร์ที่ 1 ก.พ.53 แต่ไม่ทราบเวลาที่แน่ชัด เท่าที่รู้คือเสียงเพียงพอ 1ใน5 ที่จะเสนอขอแก้ไข รธน.อย่างแน่นอน
และขอย้ำว่าทั้ง 5 พรรค ไม่หวั่นไหว ไม่เปลี่ยนแนวคิดเรื่องแก้รธน.แน่นอน


เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวเนื่องจากมีความเห็นไม่ตรงกันกับพรรคปชป.
กรณีการแก้ไข รธน. นายวัชระ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นเหตุผลที่จะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลต้องถอนตัวด้วยสาเหตุดังกล่าว
เพราะถึงวันนี้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวไปการแก้ไขรธน.ก็ไม่สามารถเดินต่อไปได้ แต่ตรงกันข้ามทั้ง 5 พรรค
ต้องพยายามโน้มน้าวพรรค ปชป.และสมาชิกสภาให้หันมาร่วมแก้ รธน. เพราะท่าจะถอนตัวคงไม่สามารถหาเหตุผลมา
ตอบให้กับสังคมได้ แต่จะกลับกลายเป็นการตีรวน ซึ่งการแก้ปัญหาให้กับประชาชนในการบริหารงานประเทศนั้น เป็นคนละเรื่องกัน

นายวัชระ กล่าวว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าเรื่องการรวบรวมรายชื่อแล้ว โดยมีรายชื่อจากทั้ง 5 พรรคร่วมรัฐบาล
ส่วนการยกร่างแก้ไขรธน.นั้น ขณะนี้ได้ส่งไปยัง 5 พรรค เพื่อให้พิจารณานั้นเรียบร้อยแล้ว และเชื่อว่าจะส่งกลับคืนมา
พร้อมรายชื่อทั้งหมดในวันจันทร์นี้ ส่วนกรณีที่ปชป.ระบุว่ายังมีเวลาในการแก้ไข รธน.อยู่
และควรหารือกันภายหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแล้วนั้น คิดว่าการแก้ไขรธน.ควรเริ่มต้นกันได้แล้ว
 เพราะเรารอมานานกว่า 1ปีแล้ว ซึ่งยังเชื่อว่าสามารถคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ได้

เมื่อถามว่าจะเปรตบหัวแล้วลูบหลังหรือไม่ นายวัชระ กล่าวว่า คิดว่า ปชป.คงไม่ทำเช่นนั้น ต่อข้อถามว่า
 การที่ระบุว่าควรไปพูดคุยกันภายหลังการอภิปรายไว้วางใจนั้นเป็นการซื้อเวลาหรือไม่ นายวัชระ กล่าวว่า
ไม่คิดไปไกลขนาดนั้น ทุกอย่างอยู่ที่ข้อเท็จจริง การอภิปรายไม่ไว้วางใจขึ้นอยู่กับเหตุผลและหลักฐาน

แหล่งข่าวระดับสูงจากพรรค ชทพ.เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 1 ก.พ.นี้ แกนนำของพรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน
 จะรวบรวมรายชื่อทั้งหมดให้กับนายชุมพล จากนั้นทาง ชทพ.จะดำเนินการรวบรวมรายชื่อก่อนที่จะนำ
ไปแนบท้ายร่างขอแก้ไขรธน. 2 ประเด็น เพื่อยื่นเป็นญัตติต่อประธานรัฐสภา โดยจะยื่นในวันพุธที่ 3 ก.พ.53
 โดยขณะนี้รายชื่อจาก 5 พรรคร่วมรวมกันได้จำนวน 111 รายชื่อ ได้แก่ ชทพ. 25 รายชื่อ ภูมิใจไทย 43 รายชื่อ
เพื่อแผ่นดิน 29 รายชื่อ รวมใจไทยชาติพัฒนา 9 รายชื่อ และกิจสังคม 5 รายชื่อ

ที่มาเนชั่น
*********************************
 
 
 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
ส่งหัวข้อนี้พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.10 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
Nt-Sun Theme by N a t i
กำลังโหลด...