รอง ผบช.ภ.4 ตั้งกองร้อยผีตาโขนคุมม็อบเสื้อแดง

รอง ผบช.ภ.4 ตั้งกองร้อยผีตาโขนคุมม็อบเสื้อแดง

ที่ห้องประชุมทพิทักษ์เลย ตำรวจภูธรจังหวัดเลยและสนามหน้าศาลากลางจังหวัดเลย นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยพร้อมด้วย พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ประชุมเตรียมรับการชุมนุมพร้อมกับการฝึกซ้อมกองร้อยผีตาโขน จำนวน 2 กองร้อย 300 นาย และการสาธิตการปราลบจราจลที่อาจมีกลุ่มต่าง ๆ รวมตัวกันเรียร้อง และชุมนุมปิดล้อมสถภานทมี่ราชการ เป็นการจัดทำแผนเผชิญเหตุการร์ฉุกเฉินสร้างความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดเลย

นายพรศักดิ์ เปิดเผยว่าเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดเลยนั้ฯ ได้สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนทุกลุ่ม อาชีพ ทุกพื้นที่แล้ว รวมทั้งส่วนราชการ หน่วยงาน ท้องถิ่น และผู้นรำหมู่บ้เน เกี่ยวกับการประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ ทราบวง่า นปช.จงเลย มีการจัดเป็นระบบ มีแกนนำเข้ามาในพื้นที่ด้วยตนเอง แต่กระแสการตอบรับของประชาชนยังต่ำ กล่าวคือมีผู้สนใจเข้าร่วมเพียง 100-200 คน เนื่องจากปัญหาความเดือดร้อนไม่มี ผลผลิตทางการเกษตรดี ราคาพอใจการประกัยบรายได้เข้าตามเป้าหมาย และร้อยละ 90 ขณะนี้กำลังเตรียมพื้นที่เพาะปลูกในฤดูกาลต่อไปที่จะมาถึง จากฝ่ายข่าวรายงานว่ามีผู้สมัครใจนำรถเข้ากรุงเทพฯร่วมชุมนุมมีศูนย์ที่ อ.ภูหลวง จำนวน 3 คันและผู้ชุมนุมไปที่กรุงเทพฯไม่เกิน 300 คน โดยจะไปรวมตัวกันที่ จ.ขอนแก่นด้านมาตรการสำคัญคือ ตั้งจุดสะกัด ด้านข่าวสาร ประชุมแกนนำ ประชาชน 946 หมู่บ้าน ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภายใน 9 มี.ค.2553 นี้ทุกพื้นที่ การรักษาความปลฃอดภัยอย่างเข้มข้น เน้นการเจรจาและไม่มีการใอวุธ รวมทั้งติดตามข่าวจากกวิทยุชุมชนจำนวน 66 แห่ง จัดกำลังทุกภาคส่วนตั้งจุดตรวจโดยละเอียดภายใน 10 มี.ค.2553 นี้ ดังนั้น จึงเชื่อว่า จ.เลย จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แน่นอน และจกการสำรวจทัศนคติประชาชนทราบว่า จากคำพิพากาคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา ประชาชนเพียง 15-20 % ที่เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณฯไม่ได้รับความเป็นธรรม

พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ เปิดเผยว่าขณะนี้ได้ฝึกซ้อมแผนปราบจราจลตามจังหวัดต่าสงในเขตตำรวจภูธรภาค 4ให้ทราบข้อกฎหมายการดำเนินการทั้งฝั่ยเจ้าหน้าที่และประชาชนการจำลองเหตุการณ์และณ วันนี้ ได้ประเมินในภาค 4 ทราบว่ามีจำนวนผู้จะเข้ากรุงเทพฯ 30,000 คนและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นอีก โดยจะไปรวมตัวกันที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จึงใช้มาตรการด้านการข่าวที่เข้มและละเอียดเจาะลึกที่สำคัญได้ซักซ้อมความพร้อมเพื่อรับสถานการณ์

ที่มาเนชั่น
**************************